สมอง, เพิ่มไอคิว, ป้องกันอัลไซเมอร์, เพิ่มพลังสมอง, ฝึกจิต

วิธีฝึกจิต เพิ่มไอคิว สู้งานหนักป้องกันอัลไซเมอร์ก่อนวัย

หยุดคิดลบ เพิ่มพลังสมอง บู๊สต์ไอคิว

จากประสบการณ์การรักษาผู้ป่วย ที่มีปัญหาครอบครัวและความสัมพันธ์มามากกว่าหมื่นราย ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา คุณหมอแดเนียลสรุปว่า ความคิดลบมี 9 แบบ ดังนี้

1. คิดด้วยความรู้สึก

ปกติเราสามารถรับรู้ความรู้สึกของคนอื่นได้แต่ถ้าเอาแต่รับรู้ความรู้สึกลบๆ แล้วนำมาขยายต่อ เช่น “ฉันรู้สึกว่าเขาไม่ชอบฉัน” ซึ่งบางทีก็ไม่จริง เพราะความรู้สึกมักหลอกเรา เมื่อเรารู้สึกเหนื่อย หิว กังวลกับอะไรบางอย่าง หรือกำลังอยู่ในภาวะเครียดสมองจะหลั่งสารเคมีบางอย่างออกมา SOLUTION อย่าให้ความรู้สึกในทางลบแบบนี้กำหนดความคิดของเรา ถ้าเกิดขึ้นให้เขียนลงสมุด และหาเหตุผลว่าทำไมเราจึงคิดเช่นนี้

 

2. รู้สึกผิด

เมื่อเรานึกถึงเรื่องราวบางอย่างแล้วคิดว่ามันน่าจะ ควรจะ หรือจะต้อง เรากำลังเริ่มกระบวนการโยนความผิดให้ตนเอง แล้วโดยเฉพาะคนที่ชอบยกความต้องการของคนอื่นขึ้นมาก่อนความต้องการของตนเอง เมื่อต้องทำเพื่อตนเองบ้าง ก็จะรู้สึกผิดความจริงเราควรทำเพื่อคนอื่นบ้างจึงถูกต้องแต่อย่ารู้สึกไม่ดีเมื่อต้องทำเพื่อตนเอง SOLUTION ลองชั่งใจว่า ควรทำอะไรให้ใครก่อนหรือหลังสิ่งที่ตนเองต้องการโดยพยายามทำใจให้สบายก่อนตัดสินใจ

 

3. คาดเดาอนาคตเอง

เมื่อเราคาดเดาอนาคต ปกติมักจะเป็นไปในทางลบเสมอ ซึ่งเมื่อเกิดขึ้น หัวใจจะเต้นแรง ลมหายใจจะสั้นและตื้น ต่อมอะดรีนัลจะหลั่งอะดรีนาลินและคอร์ติซอลออกมาระดับความเครียดจะพุ่งสูงขึ้น ในที่สุดก็มักจะลงเอยด้วยเรื่องลบอย่างที่คาดเดาไว้ SOLUTION ปกติถ้าเราคิดว่างานจะไม่สำเร็จ เรามักจะมีความกังวลหรืออารมณ์ไม่ดี ฉะนั้นเมื่อลงมือทำงาน ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั่นแหละคืออุปสรรคขัดขวางความสำเร็จ

สมอง, เพิ่มไอคิว, ป้องกันอัลไซเมอร์, เพิ่มพลังสมอง, ฝึกจิต
การคิดลบ ทำให้เกิดความเครียด ส่งผลเสียต่อสมอง

4. อ่านใจคนอื่น

แม้เขาไม่พูดออกมา แต่เราก็เชื่อว่า เรารู้ว่าเขาคิดอะไร เช่นทำหน้าแบบนี้แปลว่าไม่ชอบเราแหง ซึ่งนั่นอาจจะมาจากสาเหตุอื่นเช่น มีปัญหาเรื่องงานมา SOLUTION ฉะนั้นจงอย่าให้การอ่านใจคนในทางลบเป็นตัวกำหนดสถานการณ์ แม้ว่าการอ่านใจคนอื่นได้เป็นเรื่องดี แต่ต้องระมัดระวัง

 

5. ลากสถานการณ์วนมาเข้าตัว

หลายคนโดยเฉพาะผู้หญิงมักคิดว่า หากสามีกลับบ้านผิดเวลาหรือไม่โทร.หา หมายความว่า เขาลดความรักที่มีต่อเราลงแล้ว ทั้งที่ความจริงสาเหตุของเรื่องดังกล่าว อาจไม่เกี่ยวกับเราเลยก็ได้คุณหมอแดเนียลเล่าเรื่องผู้ป่วยคนหนึ่งที่กล่าวว่า การสอบตกของลูกสาววัยอุดมศึกษาเป็นความผิดของตนเพราะไม่มีเวลามากพอในการติวให้ลูก ทั้งที่ความจริงการสอบได้หรือสอบตกในเด็กวัยนี้ล้วนเป็นความรับผิดชอบของตัวเด็กเอง

 

6. คิดว่าสิ่งนี้มักเกิดขึ้นเสมอ

เมื่อไรก็ตามที่เราคิดรวบยอดเบ็ดเสร็จว่า “บ่อยไป” “ไม่มีทาง” “ไม่มีใคร” “ทุกคนนั่นแหละ” “ตลอดเวลาเลย” เช่น เขาไม่เคยฟังฉันเลย ทุกคนมีทางไปยกเว้นฉัน เท่ากับว่าจิตใจของเรากำลังขังเราไว้กับความรู้สึกลบ ซึ่งจะทำให้เรายิ่งรู้สึกแย่

 

7. จดจ่ออยู่แต่เรื่องร้าย

ปกติผู้ที่มีประสบการณ์ชีวิตมักจะรู้ว่า มีโอกาสเกิดทั้งเรื่องดีและร้ายในเวลาเดียวกัน แต่การจดจ่ออยู่แต่เรื่องร้าย เช่น กลัวว่าทำเช่นนี้แล้วจะมีอะไรร้ายๆ แบบนี้เกิดขึ้น นั่นจะทำให้เรายิ่งรู้สึกแย่ SOLUTION คนเราควรคิดถึงผลลัพธ์ที่ดีที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่ง ซึ่งจะช่วยให้เราตัดสินใจหรือแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอย่างมีสติและปัญญา หรือหากต้องหาคนช่วยสมองที่ปลอดโปร่งก็จะช่วยให้เราเลือกคนที่ถูกต้องมาร่วมงานด้วย

 

8. การตราหน้า

การนิยามตนเอง คนอื่น หรือสถานการณ์ในทางร้าย เช่น เขาโง่ฉันปัญญาอ่อน นโยบายเฮงซวย ไม่ทำให้สมองคิดวิเคราะห์คนหรือสถานการณ์ตามความเป็นจริง จึงอาจทำให้ผลลัพธ์ออกมาผิดพลาดได้

 

9. โทษคนอื่น

การกล่าวโทษคนอื่นหรือสถานการณ์ที่นำพาผลร้ายหรือความไม่สำเร็จในหน้าที่การงานมาสู่ตนเองนั้น เป็นความคิดลบที่อันตรายที่สุดในบรรดาความคิดลบทั้งหมด เพราะวิธีคิดนี้จะปิดบังไม่ให้เราเห็นข้อผิดพลาดของตนที่จะนำไปสู่การปรับปรุงพัฒนาตนเอง SOLUTION เมื่อสถานการณ์ไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น ให้มองหาทางแก้ปัญหาหรือสิ่งที่ตนเองสามารถทำได้ เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

 

 

<< อ่านต่อหน้าที่ 4 >>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.