Secret เคล็ดลับ
Secret เคล็ดลับ จะเผยเคล็ดลับการใช้ชีวิต ความรัก การทำงาน การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม วิธีการแก้ปัญหาที่ง่าย ๆ แต่ได้ผล
ทำอย่างไรถึงจะเป็นคนคิดบวก เผยเคล็ดลับการตั้งเป้าหมายให้เป็นคนคิดบวก
ทำอย่างไรถึงจะเป็นคนคิดบวก เผยเคล็ดลับการตั้งเป้าหมายให้เป็นคนคิดบวก ทำอย่างไรถึงจะเป็นคนคิดบวก หากเราคิดบวกได้ตั้งแต่แรก แม้จะตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก เราอาจรู้สึกเครียดน้อยกว่าคนอื่น และไม่ต้องรับมือกับความเครียดที่รุนแรงนัก ผู้ประกอบการที่เริ่มต้นธุรกิจใหม่ส่วนมากเป็นคนคิดบวก ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่กล้าที่จะลงทุนทำธุรกิจอะไรเลย ส่วนคนที่เครียดกับเรื่องที่คาดการณ์ไม่ได้ จะกำหนดกรอบของงานที่ควรทำไว้ระดับหนึ่ง และต้องเลือกงานที่มากกว่าครึ่งเป็นงานจำเจ เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นก็จะทุกข์กับความเครียดต่อไปเรื่อยๆ มีแต่เรื่องไม่สบายใจและกังวลใจ อาจมีข้อโต้แย้งว่า “แล้วทำอย่างไรจึงจะเคยชินกับการคิดบวกล่ะ” แน่นอนว่า คนคิดบวกส่วนมากเป็นคนมองโลกแง่ดี เป็นคณสมบัติดีที่ติดตัวมา ไม่ใช่ความสามารถที่สร้างขึ้นมาโดยใช้สติบังคับ คงไม่มีคนที่มองโลกแง่ดีมาตั้งแต่เกิด แต่ลักษณะนิสัยมองโลกแง่ดีเป็นสิ่งที่ใช้เวลาบ่มเพาะภายใต้สภาพแวดล้อมที่เติบโตขึ้นมา แล้วไม่มีวิธีที่จะเปลี่ยนพวกเราให้คิดบวกเลยหรือ เป็นปัญหาที่ยากมาก แต่คิดว่่าการฝึกมองสิ่งต่างๆ ด้วย “มุมมองแห่งการเรียนรู้” จนติดเป็นนิสัยคือวิธีหนึ่ง มีเกร็ดเล็กน้อยที่ไม่ค่อยมีคนรู้ สมมติเหตุการณ์ว่าถ้าถามคนที่กำลังนำสินค้าออกจากกล่องกระดาษมาเรียงไว้บนชั้นที่ร้านสะดวกซื้อว่า “ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่” คุณเอตอบว่า “เอาสินค้าออกจากกล่องเหมือนอย่างที่เห็นนั่นแหละ” เมื่อถามคุณบีด้วยคำถามเดียวกัน คุณบีตอบว่า “กำลังลองนำสินค้าใหม่ตัวนี้จัดเรียงดูและพยายามทดลองว่าจะขายได้เท่าไร” คุณบีคิดบวก เพียงแค่มองโลกในแง่ดีก็จะเข้าใจสิ่งต่าง ๆ แตกต่างกัน คุณบีกำลังพยายามเรียนรู้อะไรบางอย่างจากการทำงานพิเศษในร้านสะดวกซื้ออยู่ จะทำงานโดยใช้ปัญญาขึ้นอยูกับความคิด แม้ว่ากำลังทำงานเดียวกันอยู่ แต่สิ่งที่คุณบีและคุณเอได้รับจากการทำงานพิเศษนี้อาจแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้น ถ้าเราคิดได้ว่าเวลาประสบการณ์ และสิ่งที่พบเจอทั้งหมด เป็นเวลาแห่งการเรียนรู้ เป็นวัตถุดิบในการเรียนรู้สำหรับตัวเอง มันก็กลายเป็นวิธีที่ใช้ต่อสู้กับวัตถุดิบในการเรียนรู้สำหรับตัวเอง […]
8 ปณิธานเตือนใจ ก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ
เป็นผู้สูงวัยก็มีความสุขได้ เพียงแค่ยึดหลักปณิธาน 8 ข้อสั้น ๆ ง่าย ๆเหล่านี้ เอาไว้เตือนใจ ก่อนเข้าสู่วัยสูงอายุ รับรองว่าชีวิตสูงวัยจะมีแต่ความสุขแน่นอน
วิธีเลิกผัดวันประกันพรุ่งแบบง่าย ๆ เพียงรู้เท่าทัน 7 ข้ออ้างอันตราย
วิธีเลิกผัดวันประกันพรุ่ง แบบง่าย ๆ เพียงรู้เท่าทัน 7 ข้ออ้างอันตราย หลายคนต้องเผชิญกับปัญหานี้ ชอบอ้างด้วยเหตุผลต่างๆ นานา แต่ทว่าการทำแบบนี้เท่ากับว่าเส้นทางแห่งความสำเร็จถูกผลักออกไปไกลยิ่งขึ้น จนเรารู้สึกว่า “ช่างเถิด” หรือ “ปล่อยไปเถิด” จนกระทั่งเลิกคิดที่จะไปถึงความสำเร็จที่ใฝ่ฝันไว้ วันนี้ซีเคร็ตมี วิธีเลิกผัดวันประกันพรุ่ง โดยเพียงแค่รู้เท่าทัน 7 ข้ออ้างอันตรายเหล่านี้เป็นพอ ต้นตอสาเหตุของ “อุปนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง” มาจากความคิดที่ทำให้เราจำกัดความสามารถของตนเอง เมื่อขาดการป้องกันไม่ให้ความคิดพวกนี้เกิดขึ้น มันจึงทำให้เราสร้าง “ข้ออ้าง” ว่าทำไม่ได้ ผลสุดท้ายคือเราไม่ประสบความสำเร็จในการทำงาน อย่างไรก็ตาม เมื่อเราท้าทายข้ออ้างเหล่านี้ จะทำให้เราเห็นว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากความกลัวที่ซ่อนอยู่ในใจของเราต่างหาก มี 7 ข้ออ้างที่มักพบเห็นได้บ่อยในกลุ่มคนทำงาน เช่น พนักงานออฟฟิศ เมื่อเราเข้าใจถึงสาเหตุของข้ออ้างเหล่านี้ แสดงว่าเราเข้าใกล้วิธีการเอาชนะการผัดวันประกันพรุ่งไปอีกหนึ่งขั้น มาทำความรู้จักกับ 7 ข้ออ้างอันตรายที่จะผลักเส้นทางสู่ความสำเร็จออกไปจากเรากันดีกว่า ข้ออ้างที่ 1 งานนี้ไม่สำคัญ เคยคิดไหมว่างานนี้ไม่สำคัญ ไม่ใช่งานที่ต้องเร่งรีบทำทันที งานนี้จึงถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ถ้าอยากเลิกพฤติกรรมแบบนี้ เราควรคิดว่าทุกงานสำคัญเท่ากัน แต่สำหรับงานที่ไม่ด่วน เราต้องหาเวลาที่เหมาะสมเพื่อจัดการ หรือสรรหาเวลานอกเพื่อให้งานนี้ไม่คาราคาซัง ลองจินตนาการดูว่า ถ้างานที่ไม่สำคัญมีปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมีพฤติกรรมชอบเลื่อนงาน […]
วิธีส่งความปรารถนาดีให้กับตัวเอง จงรักตัวเองก่อนรักคนอื่น
วิธีส่ง ความปรารถนาดี ให้กับตัวเอง จงรักตัวเองก่อนรักคนอื่น คนจิตใจดีมักจะมอบ ความปรารถนาดี ให้กับคนอื่นๆ อยู่เสมอ จนลืมที่จะส่งความปรารถนาดีนี้ให้ตัวเอง ทำให้คนอื่นมีความสุขทั้งกายและใจ แต่ตัวเองกลับต้องเป็นทุกข์ ลองมาดูกันว่า เราจะมีวิธีส่งความปรารถนาดีให้ตัวเองได้อย่างไรบ้าง ความปรารถนาดีคืออะไร สำหรับคนจำนวนมาก นี่เป็นสิ่งที่ฟังเผิน ๆ ดูจะง่าย แต่ว่าความจริงแล้วยาก ทั้งนี้เพราะไม่แน่ว่าคุณอาจถูกเลี้ยงดูขึ้นมาให้คิดว่า ตัวคุณเองไม่ได้มีความสำคัญมากเท่าเทียมกับคนอื่น บางทีคุณอาจเคยพยายามยืนหยัดเพื่อตัวเองมาแล้ว แต่ถูกกีดกันหรือว่าถูกผลักล้มลงไป หรือบางทีลึก ๆ ลงไปแล้วคุณรู้สึกว่าคุณไม่สมควรที่จะมีความสุข ลองคิดดูว่าการเป็นเพื่อนที่ดีให้กับใครสักคนนั้นเป็นอย่างไร จากนั้นก็ลองถามตัวคุณเองดูว่า เราเป็นเพื่อนชนิดนั้นให้กับ ตัวของเราเอง หรือยัง ถ้ายัง นั่นหมายความว่าคุณอาจจะโหดร้ายกับตัวคุณเองไปหน่อย หรืออาจจะวิพากษ์ตัวเองไวไปนิดว่าคุณยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร หรือไม่ใส่ใจนักกับสิ่งที่คุณทำได้สำเร็จในแต่ละวัน ไม่แน่ว่าคุณอาจไม่ค่อยปกป้องตัวเองเท่าใดนักจากการถูกย่ำยี หรือคุณอาจไม่ค่อยเต็มใจนักที่จะบอกคนอื่นว่าที่จริงแล้วคุณต้องการอะไร ทำไมจึงต้องส่งความปรารถนาดีให้ตัวเอง บางครั้งคุณอาจยอมทนความเจ็บปวดมากเกินไป หรือคุณอาจลงมือช้าเกินไปในการแก้ไขอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่คุณคิดในหัวของคุณหรือสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกกว้าง เพื่อทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้นอีกประการหนึ่ง คุณจะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างไรถ้าคุณไม่เริ่มต้นด้วยการช่วยตัวคุณเองก่อน รากฐานของหลักการปฏิบัติทุกอย่างก็คือการส่งความปรารถนาดีให้กับตัวคุณเอง การยอมให้ความโศกเศร้า ความต้องการ และความฝันของคุณ เป็นสิ่งสำคัญ สำหรับคุณ ถ้าคุณทำได้เช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าคุณจะทำอะไรให้ตัวเองก็จะมีพลังอันมหาศาลคอยผลักดันอยู่ข้างหลัง! […]
ก็เพราะเราคิดไม่เหมือนกัน…เราจึงต้องแยกกัน – แม่ชีศันสนีย์ กับข้อคิดดีๆ
ก็เพราะเราคิดไม่เหมือนกัน…เราจึงต้องแยกกัน แม่ชีศันสนีย์ กับข้อคิดดีๆ แม่ชีศันสนีย์ กับข้อคิดดีๆ : เหตุผลคนเราไม่เท่ากัน การที่เราคิดต่างกัน ไม่ได้หมายความว่า คนที่คิดต่างเราจะเป็นฝ่ายผิด เพราะเราก็มีเหตุผลของตัวเอง แน่นอนว่า เราคิดกันคนละแบบ เรายืนกันคนละจุด เหมือนอย่างกรณีที่เป็นปัญหาของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่กราบเรียนถาม แม่ชีศันสนีย์ เรื่องมีอยู่ว่า……….. ผู้หญิงผู้มีปัญหาด้านการสมรส : ดิฉันกำลังจะแต่งงาน ทุกอย่างก็ได้เตรียมไว้หมดแล้ว ครอบครัวของฝ่ายชายเขายินดีรับหน้าที่เป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ เพราะดิฉันเป็นลูกกำพร้า คุณยายเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ฐานะทางบ้านปานกลาง ไม่ได้ขัดสนอะไร ทางบ้านเขาก็ดีกับดิฉันมาตลอด แต่เมื่อไม่นานดิฉันเพิ่งทราบว่าคุณแม่ของเขาไม่ให้เราจดทะเบียนสมรสกัน เมื่อถามเหตุผล เขาก็เงียบ แล้วก็บอกว่า ‘ไม่เป็นไรหรอก ทะเบียนสมรสก็แค่กระดาษแผ่นเดียว ถ้าเราสองคนรักกัน จดทะเบียนหรือไม่จดก็ค่าเท่ากัน’ แต่สำหรับดิฉัน ค่ามันไม่เท่ากันค่ะ” แม่ชีศันสนีย์ ให้ข้อคิดไว้ว่า : การสมรส…คือการที่เราได้มีใครอีกคนเข้ามาแชร์ชีวิตกับเรา ดูแลเรา…คือแคร์ และเรสเป็กต์…คือเคารพซึ่งกันและกัน แคร์ แชร์ และเรสเป็กต์ คือการแบ่งปัน การดูแลกัน การเคารพกันและกัน แต่ถ้าคุณให้น้ำหนักของการสมรสว่าเป็นการผูกมัดกันด้วยกระดาษแผ่นหนึ่ง ก็อาจจะนำมาซึ่งความอึดอัดคับข้อง กระดาษหนึ่งแผ่นคือทะเบียนสมรสนั้น เดี๋ยวนี้คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เห็นว่ามีความสำคัญอะไรเท่ากับการได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีการแคร์ แชร์ และเรสเป็กต์ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองด้อย คุณรู้สึกว่าสิ่งนี้สำคัญ เพราะคิดว่าชีวิตของคุณเคยเติบโตมาจากความขาด ข้าพเจ้าก็ขอเตือนว่า แม้คุณจะเติบโตมาจากการเริ่มต้นที่ไม่มีอะไร แต่การที่คุณเติบโตมาถึงวันนี้ได้ แสดงว่าคุณมีตัวเองซึ่งมีความกตัญญูต่อโอกาสเป็นเพื่อน คุณแม่ของว่าที่สามีจะคิดอย่างไร คุณไม่จำเป็นต้องรู้ แต่คุณควรจะรู้ว่า ว่าที่สามีของคุณอึดอัดอย่างไรในสภาวะเช่นนี้ แล้วถ้าคุณรักใครสักคน คุณก็น่าจะแคร์ความรู้สึก แชร์ความรู้สึก และเรสเป็กต์ คือเคารพความรู้สึกของเขา จนกระทั่งคุณไม่มีอะไรที่รู้สึกว่าเป็นปมด้อยที่ไม่ได้รับเกียรตินั้น ๆ คุณอาจจะไม่ได้สิ่งที่คุณต้องการในวันนี้ แต่คุณได้รับโอกาสแล้วในการที่จะเข้าไปพิสูจน์ว่าคุณ สามารถเป็นลูกสะใภ้ที่มีควาเคารพในการตัดสินใจที่เห็นต่าง ข้าพเจ้าคิดว่าคุณใช้โอกาสนี้เข้าไปพิสูจน์ดีกว่า อย่าเพิ่งใช้เรื่องนี้มาเป็นข้อต่อรองจนกระทั่งคุณไม่ได้สมรส หรือทำให้การสมรสมีปัญหาเลย เพราะคนที่อึดอัดคือคนที่คุณรัก มองทุกอย่างอย่างที่มันเป็นเถอะค่ะ และถ้าใจของคุณไม่เป็นทุกข์ โอกาสของการได้พิสูจน์จะเริ่มต้นขึ้นทันที ข้าพเจ้าไม่ตำหนิที่คุณคิดอย่างนั้น แต่ขอเตือนในฐานะของคนที่เคารพการตัดสินใจที่แตกต่างเสมอว่า ถ้าตราบใดที่คุณยังมีโอกาสได้พิสูจน์ คุณจงใช้โอกาสนั้นพิสูจน์ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณได้มากกว่าทะเบียนสมรส นั่นคือคุณจะได้ใจคุณแม่ของคนที่คุณรัก รวมทั้งได้ความเข้าใจจากคนที่คุณรัก และนั่นหมายถึงการสมรสที่เป็นการแคร์ แชร์ และเรสเป็กต์กันและกันอย่างแท้จริง เรื่องจาก : นิตยสาร Secret คอลัมน์ Family Issue Photo by Brooke Cagle on Unsplash บทความที่น่าสนใจ Dhamma Daily : จะรู้ได้อย่างไรว่า […]
” เลี้ยงลูก ” แบบนี้ไง รับรองว่า ใคร ๆ ก็รุมรัก
“ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน” คือประโยคที่อาจฟังดูแรงแต่คือเรื่องจริง พ่อแม่หลายคนมักมองข้ามข้อเสียของลูกตัวเอง และมีวิธี เลี้ยงลูก แบบผิดๆ
10 ขั้นตอน ชวนคนรักให้ รักษาศีล หลักการแสดงความรักที่เป็นรูปธรรม
การจะชวนคนใกล้ชิดหรือคนที่เรารัก ให้มารักษาศีลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เราจึงขอแนะนำวิธีการเชิญชวนที่ได้ผล นั่นคือหลักการ 10 ช.
6 วิธี เปลี่ยนตัวเองใหม่ ในแบบชาวพุทธ
หากทุกคนอยาก เปลี่ยนตัวเองใหม่ และปฏิบัติได้ตามนี้แล้ว ซีเคร็ตเชื่อว่าจะสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีสติ และมีความสุขมากขึ้นอย่างแน่นอน
2 ไอเดีย “ เปลี่ยนตัวเอง ” รับปีใหม่ New Year New You
ช่วงปีใหม่ หลายคนเห็นว่าเป็นฤกษ์งามยามดี เปลี่ยนตัวเอง เพื่อทำสิ่งใหม่ๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นจากการคิดอย่างไร หรือทำอะไร
จัดบ้าน อย่างไร…ให้ได้ฝึกใจไปพร้อมทำบุญ?
หากคุณอยาก ทำบุญ แต่ไม่มีเวลาไปวัด หรืออยากฝึกกายฝนใจ แต่ไม่มีเวลาไปสถานปฏิบัติธรรม Secret ขอแนะนำวิธีทำบุญง่ายๆ เพียงแค่จัดบ้านเท่านั้น
7 วิธีหนี นรก (แบบชิลๆ)
นรก คือที่ที่ไม่มีใครอยากจะลงไปเยี่ยมเยือน ดังนั้นหลายคนจึงหมั่นสร้างบุญและทำความดีรูปแบบต่างๆ Secret จึงขอเสนอ 7 วิธีหนีนรก
หลักแห่งดุลยภาพในทางพระพุทธศาสนา
หลักแห่งดุลยภาพในทางพระพุทธศาสนา ดุลยภาพ ไม่ใช่มีเพียงสองส่วนและมาทำให้ ได้ สมดุลกันแต่บางที มันมีมากมาย เพราะว่าสิ่งทั้งหลายที่เราเรียกว่าเป็นองค์รวมหรือเป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิด ที่มองเห็นกันในโลกนี้ เมื่อมองดูตามหลักพระพุทธศาสนา ซึ่งก็เป็นหลักความจริง โดยทั่วไป เราจะเห็นว่าเป็นการประชุมกันเข้าของส่วนประกอบ ต่าง ๆ มากมาย เรียกว่ามีองค์ประกอบเยอะแยะมารวมกันเข้ามา ชุมนุมกันเข้ามา ประกอบกันเข้าเป็นสิ่งนั้น ๆ ส่วนประกอบนั้น อาจจะมีมากมายเป็นสิบ เป็นร้อย เป็นพันอย่างก็ได้ เมื่อมี หลายอย่างมากเข้าก็ยิ่งมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ส่วนประกอบต่างๆ ที่มาอยู่ร่วมกันนั้นก็ต้องมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน อันนี้เป็นหลักธรรมดามันสัมพันธ์กัน เช่น โดยการทำหน้าที่มาประกอบ มาเสริมกัน ซึ่งแต่ละอย่างจะต้อง ทำหน้าที่ของตน โดยสัมพันธ์กันอย่างพอเหมาะพอดี ได้สัดได้ส่วน ถ้าทำหน้าที่ไม่พอเหมาะพอดีขึ้นมาเมื่อไร ก็เกิดเรื่องเกิดปัญหาเมื่อนั้น นี่ก็คือเรื่องที่เราเรียกว่าหลักแห่งดุลยภาพ หลักแห่งดุลยภาพในทางพระพุทธศาสนามีอะไรบ้าง มาดูกัน ดุลยภาพทางร่างกายทำให้มีสุขภาพดี ชีวิตของเรานี้ก็เป็นตัวอย่างที่เราเห็นได้ชัดเจน ชีวิตมนุษย์นี่ ทางพระท่านเรียกว่า เป็นรูปนามหรือเป็นขันธ์ 5 ก็เกิดจาก องค์ประกอบต่างๆ มากมาย ทั้งรูปธรรมและนามธรรมมา ประกอบกันขึ้น และส่วนประกอบต่างๆ เหล่านั้น […]
แก้อารมณ์เสีย ส่งเสริมชีวิตให้ดี ด้วยการ ” ฟังดนตรีตามธาตุ ” กันดีกว่า!
“ดนตรีบำบัด” อาจไม่ค่อยแพร่หลายนักในเมืองไทย Secret จึงขออาสาพาผู้อ่านไปรู้จักดนตรีบำบัด และเลือก ฟังดนตรีตามธาตุ กันนะคะ
วิธี เตรียมรับมือกับความตาย ต้องทำอย่างไรเมื่อวันสุดท้ายมาถึง
วิธี เตรียมรับมือกับความตาย ต้องทำอย่างไรเมื่อวันสุดท้ายมาถึง ความตายเป็นสิ่งที่เราคาดคะเนไม่ได้ มันมักจะมาแบบไม่คาดคิด ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า การ เตรียมรับมือกับความตาย จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรศึกษาไว้ ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองจะตายแบบไหนและเมื่อไหร่ อาจจะนอนตายบนเตียง ตายบนถนน ตายในน้ำ หรือสำลักอาหารตายอยู่ในร้านอาหารก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ในเมื่อไม่รู้เวลาตายที่แน่นอน ไม่รู้รูปแบบการตาย การรอให้อายุมากขึ้น หรือรอให้รู้แน่ชัดว่าเรากำลังจะตายในเวลาอันใกล้จึงไม่ใช่การเตรียมตัวตายที่เหมาะสม วิธีรับมือกับความตาย ต้องทำอย่างไร มาดูกัน เขียนพินัยกรรม ไม่ว่าเราจะมีทรัพย์สมบัติมากน้อย แค่ไหนก็ตาม ควรทำเอาไว้ โดยระบุให้ชัดเจนว่า จะยก อะไรให้ใคร รวมถึงเรื่องร่างกายและชีวิตของเราว่าจะให้ ยื้อชีวิตหรือไม่ ให้จัดการกับร่างกายของเราอย่างไร ให้จัด งานศพอย่างไร การเขียนพินัยกรรมเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของ การทำความคุ้นเคยกับความตาย และยิ่งเขียนให้ละเอียด เท่าไหร่ก็ยิ่งจริงจังในการเรียนรู้และฝึกฝนเรื่องความตาย มากเท่านั้น ทบทวนก่อนนอน ทบทวนตัวเองว่าวันนี้เราทำตัวเหมาะสมหรือยัง หากพรุ่งนี้ต้องตาย มีสิ่งใดที่ยังไม่ได้ทำ ให้พยายามทำ สิ่งนั้นในวันถัดไปให้ได้ พยายามทำจิตให้ผ่องใสก่อนนอน แล้วตื่นขึ้นมาด้วยจิต ที่ผ่องใส จำลองสถานการณ์ ลองจำลองสถานการณ์บ่อย ๆ ใช้เวลาก่อนนอนหรือเวลาว่าง […]
วิธีทำงานอย่างมีความสุข หากจิตใจสงบการงานก็รุ่งเรือง
วิธีทำงานอย่างมีความสุข หากจิตใจสงบการงานก็รุ่งเรือง มีคำกล่าวที่ว่า หากเรามี วิธีทำงานอย่างมีความสุข ก็จะเหมือนไม่ได้ทำงานเลยตลอดชีวิต ซึ่งคำกล่าวนี้ไม่ได้ไกลเกินความเป็นจริงแม้แต่น้อย เพราะกว่า 70% ของมนุษย์ล้วนเกี่ยวกับงานด้วยกันทั้งสิ้น ถ้าเราทำงานด้วยจิตใจที่เป็นทุกข์ ก็จะทนทุกข์ไปทั้งชีวิต มีความสุขแค่วันที่ได้รับเงินเดือน หลังจากนั้นก็จะทุกข์ยาวนานไปตลอดทั้งเดือน ลองมาดูกันว่า วิธีทำงานอย่างมีความสุข ต้องทำอย่างไร เปลี่ยนมุมคิด คนเรานี้ต้องการให้ชีวิตมีความสุข และในการที่จะให้ชีวิต มีความสุขนั้น งานเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ชีวิตมีความสุขได้ แต่ ในเวลาที่เรามองว่างานทำให้ชีวิตมีความสุขได้นี่ เรามองกันอย่างไร เรามักจะมองไปที่ผลที่จะเกิดขึ้นหลังจากทำงานแล้ว คือมองด้วย ความหวังว่าหลังจากทำงานแล้วเราจะได้เงิน แล้วจะได้นำไปซื้อ ของต่าง ๆ ที่เราชอบใจ หรือไปเที่ยวที่โน่นที่นั่น กินใช้เที่ยวเล่น แล้วเราก็จะมีความสุข เป็นการคิดหมายไปข้างหน้าในอนาคตว่า หลังจากทำงานไปแล้ว จะได้ผลของงานเป็นเงินทอง ที่จะนำไปใช้จ่าย แล้วก็จะมีความสุขจากการกระทำในอนาคตนั้น ไม่ได้ มองที่ความสุขจากตัวงาน คือไม่ได้มองว่าตัวงานนั้นทำให้มี ความสุข บางทีถึงกับมองว่าตัวงานนั้นเป็นความทุกข์ไปก็มี บางคนไปมองว่าเวลาทำงานเราต้องทน ก็ทนทำมันไป ทำให้ มันเสร็จ แล้วเราก็จะได้รับผลตอบแทน ผลตอบแทนนั่นแหละ จึงจะทำให้เรามีความสุข เราจะไปมีความสุขในอนาคตตอนโน้น […]
ปัจจัยสู่ความสำเร็จ เพราะชีวิตข้างหน้าต้องดีกว่าตอนนี้
ปัจจัยสู่ความสำเร็จ เพราะชีวิตข้างหน้าต้องดีกว่าตอนนี้ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ในชีวิตคนเราเกิดขึ้นจากหลายประการ ทั้งตัวเราเอง สิ่งแวดล้อม มิตรดีที่ดี การให้กำลังจากครอบครัว ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลในอนาคตทั้งสิ้น ลองมาดูกันว่าปัจจัยสู่ความสำเร็จ หลักๆ นั้นมีอะไรบ้าง การคิดบวก คำว่า “ทำไม่ได้” “ไม่แน่ใจ” “อย่าดีกว่า” “จะไหวหรือ” “ไม่กล้าหรอก” ฯลฯ คำเหล่านี้เปรียบเสมือนใบมีดอันคมกริบที่จะ ตัดแขนงใยประสาทที่เชื่อมระหว่างสมองส่วนรับกับสมองส่วนสั่งการ ให้ขาดสะบั้นออกจากกัน นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเรียนรู้ขนาดไหน ก็ไม่มีทางสร้างผลผลิตจากความรู้นั้นออกมาได้ หรือแม้แต่จะสอน สิ่งที่ตัวเองรู้ให้คนอื่นเข้าใจก็ยังทำไม่ได้ เพราะการสอนต้องพูด ใช้ท่าทางประกอบ ซึ่งต้องอาศัยสมองส่วนสั่งการ การคิดลบทำให้เกิดความกลัว ซึ่งจะบั่นทอนแรงบันดาลใจ อย่างรุนแรง แม้ว่าความกลัวจะมีประโยชน์ในการสร้างแรงขับ เช่น กลัวสอบตกทำให้ขยันอ่านหนังสือ แต่พลังอันเกิดจากความกลัว ไม่มีประโยชน์ เพราะเป็นพลังที่มีพื้นฐานมาจากการขาดสติ ยิ่งกลัว ยิ่งขาดสติ นอกจากนั้นแรงขับอันเกิดมาจากความกลัวยังไม่ยั่งยืน เช่น นักกีฬาที่ลงแข่งด้วยความกลัวแพ้ เขาจะขอแค่เสมอก็พอใจ แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีจิตที่มุ่งมั่นต่อชัยชนะ เมื่อขาดจิตที่มุ่งมั่น ในที่สุด ก็จะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ […]
ความทุกข์ที่มาพร้อมกับ ชีวิตหลังแต่งงาน
ความทุกข์ที่มาพร้อมกับ ชีวิตหลังแต่งงาน บางคนเชื่อว่า ชีวิตหลังแต่งงาน คงจะมีความสุขมาก เหมือนกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ปัญหาที่เคยมีในชีวิตจะต้องหมดไปอย่างแน่นอน หากแต่งงานไปด้วยความคิดเพ้อฝันเช่นนั้น ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องประสบความล้มเหลวในชีวิตการแต่งงาน ยิ่งเป็นคนที่ไม่มีความสุขและไม่พอใจกับชีวิตที่ผ่านมาเท่าไร ก็จะยิ่งคาดหวังกับการแต่งงานมากเท่านั้น แต่ความจริงไม่หอมหวานเช่นนั้น ลองมาดูกันว่า ปัญหาชีวิตหลังแต่งงาน ที่หลายคนต้องเจอมีอะไรบ้าง เขาไม่ใจดีเหมือนตอนที่เพิ่งเจอกัน ทางแก้ น่าเสียดายว่า ในตัวมนุษย์นั้นมีกิเลสที่เป็น “ความเบื่อ” อยู่ ซึ่งมีข้อเสียคือ เมื่อคบหากันนานไป ก็จะเริ่มเบื่อและใส่ใจกันน้อยลง ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายมีกิเลสที่เป็นความเบื่ออยู่มาก ความใจดีที่มีให้จึงค่อยๆ ลดน้อยลง จึงถือเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนฝ่ายหญิงเองก็ถูกกิเลสเข้าครอบงำเช่นกันจึงปฏิบัติกับเขาเหมือนตอนที่เพิ่งเจอกันไม่ได้ ปัญหาคือ ความเบื่อของทั้งสองคนมีปริมาณไม่เท่ากัน หากฝ่ายชายมีความเบื่อมากกว่า ความใส่ใจของฝ่ายชายก็จะลดลงเร็วกว่า ลหากเราทำสีหน้าไม่พอใจ ใจที่เป็นแง่ลบนั้นก็จะทำลายเสน่ห์ในตัวเราไปเสีย และอาจทำให้เราลุกขึ้นมาเรียกร้องอย่างไม่สมเหตุสมผลว่า “ถึงฉันจะทำตัวไม่เหมือนกับตอนที่เพิ่งเจอกัน แต่เธอควรจะใจดีกับฉันเหมือนตอนนั้นสิ” ฝ่ายชายเองก็ไม่ได้รู้สึกดีต่อฝ่ายหญิงที่มีความรู้สึกแง่ลบเช่นนั้น กิเลสที่เป็นโทสะจึงเกิดขึ้นในใจของฝ่ายชาย และส่งผลให้ทำใจดีกับฝ่ายหญิงไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว การที่ฝ่ายชายไม่ใจดีด้วย จึงไม่ใช่ความผิดของกิเลสที่เป็นความเบื่อของเขาแต่เพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งที่ทำให้เขาเบื่อคือ กิเลสของฝ่ายหญิงที่ไปกระตุ้นกิเลสของเขา จนทำให้ฝ่ายชายใจดีด้วยน้อยลง ความคิดที่ว่า “ถ้าไม่ใจดีด้วย ฉันไม่ยอมนะ” เอง ก็ไม่ใช่ความใจดีเช่นกัน ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ฝ่ายหญิงใจดีให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้ความใจดีของเราเองสูญหายไป […]
มหัศจรรย์แห่งหนึ่งนาที วิธีเพิ่มพลังให้กับวันที่หมดไฟ
มหัศจรรย์แห่งหนึ่งนาที วิธีเพิ่มพลังให้กับวันที่หมดไฟ หนึ่งนาที แม้จะเป็นเสี้ยวหนึ่งของเวลาที่แสนจะสั้น แต่มันช่างมีความหมายเสียเหลือเกิน หากคุณใช้มันให้เป็น เชิญทุกคนมาสัมผัสกับความมหัศจรรย์แห่งหนึ่งนาที เพื่อเป็น วิธีเพิ่มพลังให้กับวันที่หมดไฟ กันค่ะ กองเอกสารที่วางเรียงราย รายชื่องานที่ลิสต์ไว้จนเต็มหน้ากระดาษ ปฏิทินที่มีแต่คิวงาน แม้แต่วันหยุดก็มีงาน ถึงสิ่งที่กองเป็นภูเขาเหลากาอยู่เบื้องหน้าจะเป็นงานที่เรารัก แต่พอปริมาณมากจนท่วมท้นก็กลายเป็นสิ่งที่เราชังได้เหมือนกัน อาจถอนหายใจหลายรอบกว่าจะลงมือ มีความท้อแท้ใจ หรือผลักมันออกไปก่อน มีอารมณ์อยากทำแล้วค่อยลงมือทำ มันยิ่งเป็นการเพิ่มพูนงานขึ้นไปอีก มันเป็นอาการของคนที่กำลังจะหมดไฟ ไม่อยากทำแล้ว มันท้อใจ งานไม่ต่างจากน้ำซึมบ่อทราย ทำไปก็ไม่รู้จักหมดเสียที แต่สิ่งที่จะบอกต่อไปนี้คือ เสี้ยวหนึ่งของเวลาอันสั้นที่สามารถช่วยให้เรามีพลังต่อสู้กับมวลคลื่นของงานเหล่านี้ได้ไม่ยากเลย คุณโทะคิโอะ โกะโด นักเขียนชาวญี่ปุ่น กล่าวไว้ในงานเขียนของเขาที่มีชื่อว่า “โปรดอยู่ในความสนุก” ถึงความมหัศจรรย์ของหนึ่งนาทีไว้ว่า ขอแค่พยายามต่อ หรือ ขอเวลาตนเองแค่อีก 1 นาที เป็นการบอกตัวเองให้พยายามสู้ต่อไป ซึ่งวิธีนี้มักใช้กันในกลุ่มนักวิ่งมารากอน ขณะที่กำลังหมดแรงวิ่ง แต่ยังไม่ถึงเส้นชัย พวกเขาจะบอกกับตัวเองว่า “ขออีก 1 นาที” แล้วเขาก็พยายามวิ่งต่อไป ด้วยใจที่ตั้งมั่นว่าเราต้องไปต่อ เมื่อคุณเหนื่อยล้าจนจะหมดไฟถึงสุดขีดแล้ว รู้สึกไม่ไหวแล้ว […]