สุขกาย
สุขกาย ข้อมูลเเละเนื้อหาเพื่อการดูแลสุขภาพ ครอบคลุมและครบถ้วนรอบด้าน ด้วยข้อมูลที่น่าเชื่อถือเข้าใจง่าย ทำตามง่าย ได้ผลจริง จากกูรูสุขภาพตัวจริงของชีวจิต ประกอบด้วย โรคและการป้องกันโรค เคล็ดลับการดูแลสุขภาพ การดูแลผู้สูงวัย การออกกำลังกาย และอาหารสุขภาพ
โพรไบโอติกส์ แบคทีเรียดี ช่วยลดความดัน ไขมัน
ไม่ว่าเมื่อไหร่ เรื่องของโพรไบโอติกส์ก็ไม่เคยหายไปจากกระแสของสุขภาพ แต่หลายคนอาจจะยังสงสัย รวมถึงไม่แน่ใจความว่าโพรไบโอติกส์ และพรีไบโอติกส์ แตกต่างกันตรงไหน รวมถึงมีประโยชน์อย่างไร วันนี้แอดจะมาเล่าให้ฟังค่ะ โพรไบโอติกส์ คือ จุลินทรีย์ดีขนาดเล็ก ที่พบได้ในนมเปรี้ยว โยเกิร์ต อาหารหมักดอง ที่ทำให้สุขภาพดีในคงทนต่อกรดและด่าง สามารถกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่ดี พรีไบโอติกส์ คือ อาหารของโพรไบโอติกส์ เป็นสิ่งไม่มีชีวิต ซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้ที่ลำไส้เล็ก ตัวอาหารจึงไปที่ลำไส้ใหญ่และถูกย่อยโดยโพรไบโอติกส์ และเพิ่มความแข็งแรงให้กับโพรไบโอติกส์นั่นเองโพรไบโอติกส์กับประโยชน์ต่อร่างกาย ประโยชน์ของโพรไบโอติกส์ โพรไบโอติกส์มีประโยขน์หลากหลาย โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร ช่วยสร้างเกราะป้องกันเยื่อบุลำไส้ ไม่ให้เชื่อก่อโรคมาอยู่ ยับยั้งไม่ให้เชื้อก่อโรคเติบโต สร้างเอนไซม์ที่ช่วยย่อยอาหาร รักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในร่างกาย กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย ซึ่งประโยชน์เหล่านี้ช่วยเยียวยาอาการและโรคภัยต่างๆ ของร่างกาย โรคระบบทางเดินอาหาร เช่น กรดไหลย้อน ลำไส้แปรปรวน ท้องร่วงจากการเดินทาง ท้องผูก เป็นต้น โรคภูมิแพ้ โรคภายในผู้หญิง เช่นภาวะติดเชื้อในช่องคลอด ช่องคลอดแห้งหลังหมดประจำเดือน เป็นต้น โรคระบบทางเดินปัสสาวะ เช่นภาวะติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ โพรไบโอติกส์กับไขมัน และความดัน มีงานวิจัยศึกษาพบว่าจุลินทรีย์บางชนิดช่วยลดไขมัน และคอลเลสเตรอลในเส้นเลือดได้ จึงช่วยลดความดันโลหิตสูง และยังลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ เลือกโพรไบโอติกส์จากฉลากผลิตภัณฑ์ […]
รู้จัก 8 8 8 จัดชีวิตให้สมดุล
8 8 8 จัดชีวิตให้สมดุล เล่นสนุก ได้งาน พักผ่อนเพียงพอ ในทุกวันนี้เรื่องของ Work Life Balance เป็นสิ่งสำคัญท่ามกลางการทำงานที่เคร่งเครียด และความต้องการหาเงินเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน จนทำให้หลายๆ คนสูญเสียเวลาส่วนตัว เวลาแห่งการพักผ่อน วันนี้ชีวจิตจะชวนมาปรับการใช้ชีวิตด้วยหลัก 8 8 8 ซึงจะช่วยให้เราจัดชีวิตได้สมดุลมากขึ้น หลายคนคงสงสัยว่า 8 8 8 คืออะไร แอดจะเล่าให้ฟัง 8 8 8 คือการแบ่งเวลา 24 ชั่วโมง ออกเป็น 3 ช่วงเวลา เวลาละเท่าๆ กัน นั้นคือ 8 ชั่วโมง โดย 3 ช่วงที่ว่าคือ การพักผ่อน การทำงานหรือเรียน และเวลาสำหรับตัวเอง แล้วแต่ละด้านสำคัญอย่างไร 8 ชั่วโมงแห่งการพักผ่อน อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าจำนวนชั่วโมงที่ดีที่สุดคือประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายและระบบอวัยวะต่างๆ ได้ฟื้นฟู และพักผ่อน […]
ไขมันตัวดี ตัวร้าย มันต่างกันยังไงนะ ?
ไขมัน นับเป็นสารอาหารที่จำเป็น มีหน้าที่หลักเป็นส่วนประกอบสำคัญของผนังเซลล์ และปลอกหุ้มของเซลล์ระบบประสาท นอกจากนี้ยังเป็นสารตั้งต้นของการสร้างน้ำดี และฮอร์โมนสเตียรอยด์ในร่างกาย คอเลสเตอรอล เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เองจากตับและลำไส้ หรือได้รับจากสารอาหารที่รับประทานเข้าไป อาหารที่มาจากพืชไม่พบคอเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบ พบมากในไขมันสัตว์ ปริมาณไขมันขึ้นอยู่กับชนิดของอาหาร คอเลสเตอรอลเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเซลล์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์สมอง อย่างไรก็ตามหากมีคอเลสเตอรอลมากเกินไปก็เป็นโทษต่อร่างกายเช่นกัน เพราะไขมันเหล่านี้จะไปสะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือดแดงทั่วร่างกาย เช่น หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ ทำให้เกิดหลอดเลือดแข็งตัวและตีบตัน โดยจะเป็นช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับปริมาณคอเลสเตอรอล และมีปัจจัยเสี่ยงอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน การสูบบุหรี่ ความอ้วน และการไม่ออกกำลังกาย ไขมันคอเลสเตอรอลจำแนกเป็น 2 ชนิด คือ –ไขมันชนิดดี ( High Density Lipoprotein หรือ HDL) มีหน้าที่นำคอเลสเตอรอลจากกระแสเลือด และเนื้อเยื่อไปทำลายที่ตับ ดังนั้นถ้าระดับไขมันชนิดดีในเลือดสูง จะทำให้อัตราความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบน้อยลง ไขมันชนิดดีจะมีปริมาณสูงได้โดยการออกกำลังกาย ระดับ HDL ปกติ สำหรับผู้ชายมากกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ส่วนผู้หญิงมากกว่า 50 […]
ยกของหนัก ระวัง มดลูกเคลื่อน
ยกของหนัก ระวัง มดลูกเคลื่อน สาวๆ ทั้งหลายที่ต้องยกของหนัก หรือแบกของต่างๆ มากมาย ต้องระวังกันแล้วนะคะ เพราะไม่ใช่แค่หนักแล้วรู้สึกปวดเมื่อยล้าแขน หรือหลังเท่านั้น แต่อาจส่งผลให้เกิด มดลูกเคลื่อน หรือมดลูกหย่อน นั่นเอง มดลูกหย่อน คือ ภาวะที่มดลูกเคลื่อนต่ำลงจากตำแหน่งเดิมมาอยู่ที่ช่องคลอด จนอาจโผล่พ้นออกมานอกช่องคลอดได้เลยทีเดียว ซึ่งภาวะนี้นอกจากจะเกิดกับมดลูกแล้ว ยังอาจเกิดได้กับ กระเพาะปัสสาวะ และลำไสไ้ด้ด้วย สาเหตุให้มดลูกหย่อน เกิดขึ้นจากการที่กล้ามเนื้อ เอ็น ที่ยึดเหนี่ยวมดลูกอ่อนแอลง ด้วยสาเหตุต่อไปนี้ การตั้งครรภ์ และคลอดบุตร เพราะการคลอดลูกทำให้เนื้อเยื่อที่พยุงช่องคลอดอ่อนแอลง พบภาวะนี้ได้หนึ่งในสามของผู้หญิงที่มีลูก ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ทั้งหลังคลอดไม่นาน หรือหลังคลอดหลายปี อายุที่มากขึ้น อาจเป็นเหตุให้โครงสร้างที่พยุงอุ้งเชิงกรานอ่อนแอลงได้ ยกของหนัก อ้วน ไอเรื้อรัง เนื่องจากภาวะเหล่านี้ทำให้เกิดแรงดันที่กระทำต่ออุ้งเชิงกรานอย่างมาก จนทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอลง อาการมดลูกหย่อน รู้สึกหน่วงในช่องคลอด หรือหลังส่วนล่าง รู้สึกมีก้อนภายใน หรือยื่นย้อยออกมานอกช่องคลอด ระบบขับปัสสาวะผิดปกติ เช่น ปัสสาวะไหลช้า ไม่สุด ปัสสาวะบ่อย หรือปวดมาก ปัสสาวะเล็ด อาการที่ลำไส้ เช่น ขับอุจจาระลำบาก ไม่สุด รู้สึกไม่สบายขณะมีเพศสัมพันธ์ เพราะมีก้อนเนื้อยื่นขวาง […]
7 สารอาหารที่สมองต้องการ
7 สารอาหารที่สมองต้องการ สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย เนื่องจากเป็นศูนย์สั่งการระบบต่างๆ ให้ทำงานเป็นปกติ หากสมองอ่อนล้าอาจทำให้เกิดผลกระทบต่างๆ ตามมา วันนี้แอดจึงต้องหาสารอาหารสำหรับบำรุงสมอง มาฝากกันค่ะ ไขมัน ฟังชื่อนี้หลายคนเริ่มเบ้หน้า เพราะรู้กันว่าไขมันเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วไขมันสำคัญอย่างมากในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท และเยื่อบุผิวเนื้อสมอง สำหรับไขมันที่สำคัญในการดูแลสมองคือ กรดไขมันไม่อิ่มตัว หรือโอเมก้า 3, 6 และ 9 ซึ่งมีอยู่มากในปลา น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว และต้องหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว เช่น กะทิ น้ำมันมะพร้าว ไขมันทรานส์ เพราะพวกนี้ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แล้วยังเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคอัลไซเมอร์ โคลีน เป็นสารสำคัญที่ช่วยบำรุงสมอง มีอยู่ในข้าวกล้อง จมูกข้าวโพด วิตามินบี วิตามินบี 1, 5, 6, และ 12 ล้วนเป็นวิตามินที่สำคัญต่อการบำรุงและดูแลสมอง โดยทำหลายที่ไม่ว่าจะเป็นช่วยในการถ่ายทอดสัญญาณประสาท ผลิตสารเคมีในสมอง รวมไปถึงสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงให้สมบูรณ์ สำหรับวิตามินบี พบได้ใน ถั่ว งา ข้าวโพด ธัญพืชไม่ขัดสี และปลา แคปไซซิน […]
ความจริงแล้ว ข้าวเช้าจำเป็นกับเราทุกคนจริงหรอ ?
ร่างกายมนุษย์นี้ดูเผินๆเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน เราอาจจะคิดว่ายีนของเราทำให้เราไม่เหมือนกัน นั่นก็ส่วนหนึ่ง แต่ว่ายีนของเราซึ่งมีอยู่ราว 25,000 แบบนั้นเหมือนกันเสีย 97 เปอร์เซ็นต์ ยกเว้นฝาแฝดไข่ใบเดียวกันที่มียีนเหมือนกัน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่งานวิจัยฝาแฝดไข่ใบเดียวกันก็พบว่า ร่างกายของคู่แฝดไม่ได้เหมือนกัน อย่าว่าแต่ 100 เปอร์เซ็นต์ เลย แค่ 50 เปอร์เซ็นต์ ก็ยากแล้ว เพราะคู่แฝดบางคู่ทั้งๆที่เติบโตมาในบ้านเดียวกัน อยู่ในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน กินอาหารเหมือนกัน แต่คนหนึ่งอ้วน อีกคนหนึ่งผอม เออ.. แล้วอะไรละที่ทำให้ร่างกายคนเราไม่เหมือนกันทั้งๆที่ยีนก็เหมือน อาหารก็เหมือน สิ่งแวดล้อมก็เหมือน งานวิจัยพบว่าสิ่งที่ไม่เหมือนกันคือชนิดของจุลินทรีย์ในลำไส้ของคู่แฝด งานวิจัยพบว่าที่เหมือนกันมีเพียง 25 เปอร์เซ็นต์ อีก 75 เปอร์เซ็นต์ ไม่เหมือนกัน ทำให้การสนองตอบต่ออาหารและปัจจัยแวดล้อมต่่างกัน ดังนั้นการเกิดมาเป็นคนเมื่อคิดจะดูแลสุขภาพด้วยตนเองต้องเข้าใจบทที่ 1 ก่อนว่าร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คำแนะนำของหมอสันต์คำเดียวไม่อาจใช้ได้กับทุกคนทุกที่ทุกเวลาได้ ดังนั้นผู้ติดตามหมอสันต์ซึ่งล้วนมีเป้าหมายจะดูแลตัวเองโดยไม่พึ่งใครทุกคนอย่าหวังเอาแค่ฟังหมอสันต์แล้วเอาไปปฏิบัติตะพึดไม่ได้ จะต้องก้าวไปอีกขั้นหนึ่งคือเข้าให้ถึงหลัก personalization อาศัยหมอสันต์แค่ช่วยให้เข้าใจความรู้พื้นฐานในเรื่องร่างกายมนุษย์ว่ามันทำงานอย่างไร ในเรื่องข้อมูลหลักฐานวิทยาศาสตร์ว่าการกินการใช้ชีวิตมันมีผลต่อโรคในภาพใหญ่อย่างไร ในเรื่องตัวชี้วัดสุขภาพต่างๆว่าวงการแพทย์เขาใช้ประโยชน์มันอย่างไร แล้วเอาความรู้เหล่านี้ไปทำการปฏิบัติทดลองกับตัวเอง ติดตามวัดผลดูว่าวีธีนี้ได้ผลไหม ไม่ได้ผลก็เปลี่ยนไปทดลองวิธีใหม่ ผู้ติดตามหมอสันต์ทุกคนต้องเป็นนักวิจัยสุขภาพตนเองอย่างนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องการตรวจประเมินเพราะอุปกรณ์ดีๆจะมีเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ […]
บอกลาคุณคนเก่า ที่แสนเฉื่อยไม่สดใส ด้วยการเติมสารอาหารบำรุงสมอง
เคยไหมที่ คิดงานไม่ออก ลืมข้าวของ ความเครียดสะสม การทำงานหนัก รวมทั้งปัญหาการนอนไม่หลับ หรือแม้แต่ความรู้สึกเหี่ยวเฉากับการใช้ชีวิต ยิ่งในยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน การปล่อยให้สมองของเราช้า เฉื่อย เหนื่อยล้า ย่อมส่งผลเสียอยู่เช่นกัน ดังนั้น วิธีการดูแลและบำรุงสมองมีหลายวิธี เพราะสมองของเราถูกทำลายทีละน้อย จากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต รวมไปถึง ปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมาล้วนเร่งให้สมองเกิดความเสื่อมก่อนวัย ซึ่งเราจะรู้ได้จากสัญญาณเตือนเล็กๆ น้อยๆ ที่ผิดปกติ เช่น คิดอะไรไม่ค่อยออก ,ขี้ลืมบ่อย ,เหนื่อยล้า เป็นต้น ปรับพฤติกรรมลดความเสี่ยงภาวะสมองล้า บทความจากโรงพยาบาลสมิติเวช โดย แพทย์หญิงจิตแข เทพชาตรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ แนะนำวิธีจัดการกับภาวะสมองล้าแบบง่ายๆ ที่เราสามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนี้ -จัดลำดับงานที่สำคัญจากมากไปน้อย -หยุดเล่นโทรศัพท์สักพัก หรือหยุดเสพติดข่าว หรือสื่อที่ทำให้เครียดในช่วงที่กำลังเครียดจากงาน -มองโลกในแง่บวก และหาเวลาทำกิจกรรมโปรด เพื่อปรับอารมณ์และผ่อนคลาย -นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอวันละ 6-8 ชั่วโมง -รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารเช้า -ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์ -หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ […]
ตากระตุก ลางบอกเหตุ หรือแค่ขาดวิตามิน
เมื่อไรก็ตามที่ ตากระตุก หันไปบอกใคร แทบทุกคนล้วนจะถามเป็นเสียงเดียวกันว่า “ตากระตุกข้างไหน” จากนั้นต่อมาด้วยคำ “ขวาร้าย ซ้ายดี” ถ้าตากระตุกข้างขวา จะให้ตีที่ตา แล้วโยนไปที่อื่น (ใครเคยเจอแบบนี้บ้าง ?) แต่ถ้ากระตุกข้างซ้าย วันนั้นเราจะเฝ้ารอความโชคดีที่เข้ามากันแทบทั้งวัน แต่ความจริงแล้ว อาการตากระตุกยังสามารถบอกอะไรเราได้อีกเยอะ นอกจากเป็นเรื่องของโชคลาภ ก่อนอื่นเรามาดูกันว่า ตากระตุกคืออะไรกันแน่ แล้วแบบไหนคืออาการของมัน อาการตากระตุก (Eyes Twitching) เป็นอาการการที่เปลือกตามีการขยับเคลื่อนไหวด้วยความเร็ว ซึ่งเราสามารถเกิดอาการได้ทั้งเปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้ปกติ ไม่มีความรุนแรง และเราจะไม่รู้สึกเจ็บใดๆ และยังสามารถลืมตา หลับตา ใช้ชีวิตได้ปกติ โดยทั่วไปตากระตุกมักเกิดจากสาเหตุแบบมีที่มาที่ไหน เช่น เกิดอาการตาแห้ง เมื่อเราจองจอคอมพิวเตอร์ หรือจ้องโทรศัพท์เป็นเวลานาน อาจจะมากกว่า 7 ชั่วโมงขึ้นไป จะทำให้เกิดอาการนี้ได้ นอนไม่เป็นเวลา หรือนอนไม่เพียงพอ ตามที่ร่างกายควรจะได้รับ ความเครียดที่เกิดขึ้น จะส่งผลต่อฮอร์โมนบางชนิด ทำให้เกิดอาการตากระตุกขึ้น โรคภูมิแพ้ ที่มีอาการเคืองบริเวณตา หรือมีอาการตาแห้งร่วมด้วย เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการนี้เช่นกัน การขาดวิตามิน วิตามิน B12 ส่งต่อระบบประสาท […]
ดาร์คช็อกโกแลต กินให้ดี บำรุงสมอง และหัวใจ
ดาร์คช็อกโกแลต กินให้ดี บำรุงสมอง และหัวใจ ช็อกโกแลต แค่พูดชื่อก็เชื่อว่าเป็นของโปรดของใครหลายคน รวมถึงแอดมินด้วย แต่ก็อย่างที่รู้กันว่า ช็อกโกแลต หากกินมากไปก็ไม่ดี เพราะส่วนใหญ่แล้วจะผสมน้ำตาลมาในปริมาณที่หวานเจี๊ยบ วันนี้แอดเลยมาชวนกิน ดาร์คช็อกโกแลต ที่ไม่เพียงไม่หวานทำลายสุขภาพ แแต่ยังมีประโยชน์ต่อหัวใจด้วยนะคะ ดาร์คช็อกโกแลต เท่าไหร่ถึงเรียก ดาร์ค ช็อกโกแล็ตที่จะเรียกว่าดาร์คได้นั้นต้องมีปริมาณ 70% ขึ้นไป ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ สารฟลาโวนอยด์ ธาตุเหล็ก ทองแดง สังกะสี รวมถึงแร่ธาตุต่างๆ อีกมากมาย และแม้ว่าดาร์คช็อคโกแลตจะมีคาเฟอีน และสารทีโอโบรมีนอยู่ แต่ก็มีในปริมาณที่น้อยมาก ไม่ส่งผลต่อการนอนหลับ หรือทำให้ใจสั่น ช็อกโกแลตกับหัวใจ อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อหัวใจไม่ว่าจะเป็น คาเฟอีน ที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ให้หัวใจสูบฉีดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ทิโอโบรมีน ลดความดันโลหิต กระตุ้นการเต้นของหัวใจ ลดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ฟลาโวนอยด์ ในกลุ่มโพลิฟีนอล ต้านอนุมูลอิสระ เสริมความแข็งแรงให้หลอดเลือดหัวใจ และสมอง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยที่สรุปว่าดาร์คช้อกโกแลตอาจช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหัวใจขาดเลือดในระยะยาวได้ ช็อกโกแล็ตกับอารมณ์ ในดาร์คช็อกโกแล็ตเองก็มีสารอาหารที่ช่วยทำให้อารมณ์ดีด้วยเช่นกัน อะนันดาไมด์ ช่วยลดความเจ็บปวด และควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย รวมทั้งกระตุ้นให้อารมณ์ดี แฟนิลเอทิลามีน […]
ปวดหัวบ่อย หรือจะเป็น เนื้องอกในสมอง!
ปวดหัวบ่อย หรือจะเป็น เนื้องอกในสมอง! ปวดหัว เป็นอาการที่หลายคนมองข้าม เพราะคิดว่าเป็นหนึ่งในอาการไม่สบายตัวที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ ทั้งจากอากาศที่ร้อน ความเครียด ความกดดันจากการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงเป็นอาการที่แค่กินยาแก้ปวด ก็อาจทำให้หายปวดได้ จึงเป็นอาการที่ถูกละเลย แต่ในบางครั้งอาการที่เราคุ้นเคยนี้อาจมาจากสาเหตุที่อันตรายกว่าที่คิดไว้ เช่น ปวดหัวบ่อย เพราะ เนื้องอกในสมอง! เนื้องอกในสมอง เกิดจากที่เนื้อเยื่อในสมอง หรือบริเวณใกล้เคียงเติบโตผิดปกติจนไปเบียดเนื้องอก ทำให้มีผลต่อระบบสมองและประสาท หากว่าเนื้องอกไปเบียดสมองส่วนใด ก็จะมีผลกระทบต่อระบบที่สมองส่วนนั้นควบคุมอยู่ จึงทำให้เนื้องอกในสมองส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหัว ความผิดปกติในการมองเห็น ได้ยิน รวมไปถึงการทรงตัว เนื้องอกในสมอง ในปัจจุนบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเนื้องอกในสมองเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่มีการแบ่งประเภทออกเป็น 2 ประเภท คือ ชนิดไม่ร้ายแรง เป็นเนื้องอกธรรมดา ที่การเติบโตช้า ไม่ใช่เซลล์มะเร็ง สามารถรักษาให้หายได้ ชนิดมะเร็ง เป็นการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ และกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็ง อาจลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ได้ และมีการเติบโตที่เร็วกว่าเซลล์ปกติทั่วไป ส่งผลต่อการทำงานของสมอง อาการต้องสงสัย นอกจากอาการปวดหัวแล้ว เนื้องอกในสมอง มีอาการที่ต้องสังเกตร่วมด้วย คือ ปวดหัวเรื้อรัง หรือมากกว่า 15 […]
ปวดท้องบ่อย เป็นอะไรได้บ้าง
อาการ ปวดท้องบ่อย เป็นอะไรได้บ้าง อาการปวดท้อง เป็นอาการที่หลายคนคุ้นเคย เพราะดูเหมือนจะเป็นอาการป่วยสามัญ คล้ายๆ อาการปวดหัว แต่ใครที่ปวดท้องบ่อย ซ้ำ อาจต้องมานั่งสังเกตแล้วนะคะ ว่าจะเป็นโรคอะไรที่ร้ายแรงมากกว่าแค่ปวดท้องเพราะหิวข้าวหรือเปล่า แผลในกระเพาะอาหาร / ลำไส้อักเสบ เป็นอีกหนึ่งโรคฮิตของคนในยุคนี้ ที่สำคัญคือเป็นได้กับทุกเพศ ทุกวัย โดยสิ่งหนึ่งที่กระตุ้นให้เป็นโรคนี้ได้ง่ายขึ้นคือ ความเครียด นอกจากนั้นก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คือ ยาละลายลิ่มเลือด ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ทานข้าวไม่ตรงเวลา ทานอาหารรสจัด ติดเชื้อแบคทีเรีย อาการ ปวดท้องก่อน และหลังทานอาหาร ไม่สบายท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลมในท้อง คลื่นไส้ อาเจียน กรดไหลย้อน โรคยอดฮิตของนักเรียน และคนทำงาน โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ชอบกินมื้อดึก เนื่องจากกรดไหลย้อนเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรม โดยพฤติกรรมที่ทำให้เกิดโรคคือ ดื่มชา กาแฟ หรือทานช็อคโกแล็ต เป็นประจำ สูบบุหรี่จัด เคี้ยวหมากฝรั่งบ่อยๆ ทานมื้อดึก ทานอาหารแล้วนอนทันที อาการ เรอเปรี้ยว ปวดแสบในช่องท้อง ถึงกลางอก […]
ไม่อยาก สมองแก่ กว่าอายุจริง ลองเอาเคล็ดลับนี้ไปใช้สิ
สมองแก่ กว่าอายุจริง ทำยังไงดี ? อาหาร หวานมันเค็มทอดไม่ดี ไม่ควรรับประทานเยอะ คิดง่าย ๆ ว่า อาหารอะไรก็ตามที่เป็น ประโยชน์กับหัวใจ ก็เป็นประโยชน์ต่อสมองด้วยเช่นกัน และถ้าเป็นผู้สูงอายุต้องเน้นรับประทานโปรตีน เพราะบางคนอาจขาดโปรตีนได้ง่าย สำหรับแอลกอฮอล์ แนะนำว่าเลี่ยงดีกว่า แม้ว่าจะมีงานวิจัยบอกว่าดื่มไวน์แดง 1 แก้วช่วยลดความเสี่ยง แต่บางคนก็อาจไม่หยุดที่ 1 แก้ว อารมณ์ การเป็นโรคซึมเศร้าเป็นหนึ่งความเสี่ยงที่ทำให้สมองเสื่อม หรือความเครียด บางครั้งก็ทำให้สมองทำงานแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด จึงควรดูแลอารมณ์และความเครียดของตนเองให้ดี อากาศ หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษ ระบบหายใจทำงานได้ไม่ดี ก็จะส่งผล ทำผลให้สมองได้รับออกซิเจนน้อยลง การทำงานของสมองก็แย่ลงไปด้วย อย่างช่วงนี้มีปัญหาเรื่องมลพิษจากฝุ่น PM 2.5 ก็ควรหลีกเลี่ยง หรือใส่หน้ากากเวลาออกไปข้างนอก ออกกำลังกาย จะแบ่งเป็นร่างกายกับสมอง การออกกำลังกายหนัก ๆ สัปดาห์ละครั้ง ไม่ได้ประโยชน์เท่ากับออกกำลังกายปานกลางวันเว้นวัน หรือออกกำลังกายเบา ๆ ทุกวัน ถ้าไม่รู้จะออกกำลังกายอะไรดี ก็เดินทุกวันอย่างน้อยวันละ 7,000 ก้าว ไม่จำเป็นต้องเดินต่อเนื่องครั้งเดียว แบ่งเป็น 2 […]
ชอบย้อมผมบ่อย ต้องทำยังไงให้ผมเราปลอดภัย
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ได้กล่าวเพิ่มเติม การทำสีผมหรือ ย้อมผมบ่อย อาจมีผลต่อสุขภาพของเส้นผม หนังศีรษะและร่างกายได้ ประชาชนควรมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด ดังนี้ เลือกยาย้อมผมที่ปลอดภัย ควรเลือกยาย้อมผมที่มีคุณภาพ และมาตรฐานจากคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ควรสังเกตจากฉลากว่ามีการระบุข้อความที่จำเป็น เช่น เลขที่ใบรับแจ้งของอย. ชื่อของสารที่เป็นส่วนประกอบ วิธีใช้ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า เลขครั้งที่ผลิตและวันเดือนปีที่ผลิตและ วันหมดอายุ เป็นต้น อย่าเลือกยาย้อมผมนั้นเพียงเพราะยาย้อมผมนั้นนำเข้ามาจากต่างประเทศหรือเป็นสมุนไพร เนื่องจากสารหลายชนิดในยาย้อมผมเป็นสารที่ต้องควบคุมประมาณการใช้หรือเป็นสารที่ห้ามใช้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ผู้ใช้ควรอ่านฉลากและปฎิบัติตามวิธีใช้ที่ระบุไว้ในฉลากให้ถูกต้อง และให้ระวังคำเตือนที่ระบุไว้ที่ฉลากด้วย เช่น มีสารพาราฟินีลีนไดอะมีนส์ (Paraphenylenediamine; PPD) อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ ระวังอย่าให้เข้าตา สวมถุงมือที่เหมาะสมขณะใช้ อย่าย้อมผมถ้ามีผื่นหรือแผลที่หนังศีรษะ ท่านที่สงสัยว่าอาจจะมีการแพ้ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการทดสอบ patch test ควรสวมถุงมือทุกครั้งเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผม แต่ในช่างย้อมผมที่มีการแพ้สารพาราฟินีลีนไดอะมีนส์ ควรใช้ถุงมือไนไตร (nitrile glove) เนื่องจากสารพาราฟินีลีนไดอะมีนส์ และสารอื่นบางชนิดในยาย้อมผมสามารถทะลุถุงมือยางธรรมดาได้ ไม่ควรปล่อยให้สีย้อมอยู่บนเส้นผมหรือหนังศีรษะนานกว่าที่ระบุไว้ที่ฉลาก เพราะสารเคมีอาจทำให้เส้นผมขาดหรืออาจซึมผ่านหนังศีรษะเข้าสู่ร่างกายทำให้มีโอกาสเกิดการแพ้ได้มากขึ้นหรือเกิดอันตรายแก่ร่างกาย สระผมให้สะอาด อย่าให้มีสีผมค้างที่เส้นผมหรือหนังศีรษะหลังจากย้อมผมแล้ว เนื่องจากอาจเกิดการระคายเคืองหรือทำให้เส้นผมขาดง่าย ควรใช้ครีมนวดผมที่มีคุณภาพดี เช่น ครีมนวดผมที่มีส่วนประกอบของไดเมทิโคน […]
เพกา “ลิ้นฟ้า” ผักพื้นบ้านสุดน่ารัก ที่เหมือนฟ้าแลบลิ้นให้เรา
เพกา “ลิ้นฟ้า” ผักพื้นบ้านสุดน่ารัก ที่เหมือนฟ้าแลบลิ้นให้เรา “ไปเก็บฝักบักลิ้นฟ้ามาให้พ่อกินกับลาบหน่อย” พ่อบอกฉันด้วยภาษาอีสาน เพื่อให้ไปเก็บฝักเพกา หรือที่คนอีสานเรียกกันว่า ‘บักลิ้นฟ้า’ บ้างก็ว่า ‘บักลิ้นไม้’ จากสวนหลังบ้าน มากินแนมกับลาบหมู นั่นทำให้ฉันฉุกคิดได้ว่าพืชผักพื้นบ้านนี้มีสรรพคุณดีมากมายเลยทีเดียว จึงอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง ฉันคิดว่า ชื่อ ‘ลิ้นฟ้า’ น่าจะเป็นคำอธิบายรูปลักษณะของฝักพืชชนิดนี้ได้ชัดเจนดี เพราะเหมือนรูปลิ้นยาวๆ ห้อยอยู่บนฟ้า ทว่าความจริงแล้วพืชชนิดนี้มีชื่อสามัญว่า ‘เพกา’ จึงสงสัยว่า ชื่อดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร หลังจากไปค้นหาข้อมูล ก็พบข้อมูลหนึ่งจากวารสาช่อมะพะยอม ปีที่ 28 ระบุว่า เพกา เป็นคำที่เรายืมมาจากภาษาเขมรที่ออกเสียงว่า ‘pikau’ นอกจากนั้นยังระบุว่า ต้นเดียวกันนี้ภาษาเขมรมีอีกชื่อหนึ่งซึ่งมีความหมายว่า ‘ต้นฝักดาบ’ จับเลี้ยงแก้ร้อนใน ต้องใส่เมล็ดในของฝักเพกา สมัยที่ฉันเรียนเภสัชกรรมไทย อาจารย์หมอบางท่านที่มีความรู้ด้านแพทย์แผนจีนร่วมกับแพทย์แผนไทย เคยเล่าว่าเครื่องดื่มแก้ร้อนในของคนจีนที่เรียกว่า ‘จับเลี้ยง’ นั้น มีส่วนผสมสมุนไพรสำคัญอย่างหนึ่ง คือ เมล็ดในของฝักเพกา เพราะมีสรรพคุณเป็นยาเย็น มีรสขม ออกฤทธิ์ต่อปอด ตับ และใช้เป็นยาช่วยให้ปอดชุ่ม แก้ไอร้อน ร้อนในปอด ได้ดี น้ำจับเลี้ยงจึงจัดเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรแก้ร้อนในชั้นดี […]
เรื่องเล่าจาก ชาเขียว ช่วยเสริมพลังสมอง
ชาที่เราดื่มกัน ไม่ว่าจะเป็นชาขาว ชาเขียว ชาอุ่หลง หรือชาดำต่างก็มาจากต้นชาชนิดเดียวกัน มีสาระสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคือสาร พอลีฟีนอล (Polyphenol) เช่นเดียวกัน เพียงแต่สารนี้จะปริมาณแตกต่างกันตามกรรมวิธีการผลิตชาชนิดต่างๆ สารพอลิฟีนอลชนิดที่สำคัญคือ กลุ่มสารคาเทชิน (catechins) ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง สารในกลุ่มนี้มี 4 ชนิด แต่สารคาเทชินที่มีฤทธิ์มากที่สุดและปริมาณมากที่สุดในชาเขียวคือ สารอีจีซีจี (epigallocatechin-3-gallatae,EGCG)ซึ่งจัดว่าเป็นสารพอลิฟีนอลที่ได้รับการศึกษามากที่สุด อาจารย์ศัลยา คงสมบูรณ์เวชบอกไว้ว่า ในบรรดาชา 4 ชนิด ชาขาวเป็นชาที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตน้อยที่สุด รองลงมาคือ ชาเขียว จากชาขาวซึ่งเป็นส่วนของหน่ออ่อนที่เริ่มแทงยอดออกมาหรือใบชาใบแรกที่เริ่มผลิตออก ส่วนของชาแหล่งนี้หลังจากเก็บจะต้องนำไปนึ่งทันทีเพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในชาแล้วจึงนำไปทำให้แห้ง ชาชาวจึงมีสารคาเทชินสูงกว่าชาอื่น ส่วนชาเขียวจะเก็บเมื่ออายุมากกว่าชาขาว หลังจากเก็บจะนำไปทำหเหี่ยวโดยการผ่านลม แล้วจึงผ่านความร้อนอีกครั้งเพื่อยับยั้งการำทงานของเอนไซม์ในชา ชาเขียวจึงอาจมีสารคาเทชินน้อยกว่าชาขาวเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ชาเขียว1 ถ้วยมีสารพอลิฟีนอลสูงถึง 50-150 มิลลิกรัม มีข้อมูลการวิจัยว่า การดื่มชาเขียวสม่ำเสมอให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงมะเร็งหลายชนิด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ป้องกันโรคตับ เพิ่มภูมิต้านทาน และยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพกระดูกและฟัน รวมถึงการทำงานของสมอง […]
ดื่มน้ำมากไป ระวังสุขภาพพัง
น้ำ ดื่มน้อยไปก็ไม่ดี แต่ ดื่มน้ำมากไป ก็ทำสุขภาพพัง “น้ำ” เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีพของทุกสิ่งมีชีวิต ดั่งที่รู้กันว่า ขาดอาหารได้ถึง 7 วัน แต่หากขาดน้ำเพียง 3 วัน ก็ทำให้เสียชีวิตได้แล้ว แต่รู้ไหมว่าการ ดื่มน้ำมากไป ก็ทำให้สุขภาพเสียได้เช่นเดียวกัน ทุกวันนี้มีเทรนด์การดื่มน้ำ บางคนใช้แกตเจตตั้งเตือนการดื่มน้ำ บางคนใช้วิธีพกขวดน้ำขนาดใหญ่ ที่บ่งบอกว่ากี่โมงควรดื่มน้ำพร่องไปมากน้อยแค่ไหน บางก็ใช้วิธีกำหนดให้ใน 1 วัน ดื่มน้ำกี่ลิตร เพราะการดื่มน้ำอย่างเพียงพอมีประโยชน์มากเลยค่ะไม่ว่าจะเป็น ช่วยระบบหมุนเวียนเลือดให้เป็นปกติ ป้องกันเลือดหนืด เลือดข้น ช่วยระบบขับถ่าย ช่วยระบบเผาผลาญ ช่วยย่อยอาหาร ช่วยส่งเสริมการทำงานของไต ดีต่อสมอง และระบบประสาท แต่เชื่อไหมคะว่าการดื่มน้ำมากเกินไป ก็ทำให้เกิดผลเสียได้เช่นกัน ดื่มน้ำมากไป! อะไรพังบ้าง? โซเดียมต่ำกว่าปกติ การดื่มน้ำมากเกินไป ทำให้น้ำเข้าไปเจือจางเกลือแร่ในร่างกาย โดยเฉพาะโซเดียม ซึ่งควรมีประมาณ 135-145 mEg/L. แต่หากดื่มน้ำจนทำให้โซเดียมลดต่ำกว่า 135 mEg/L. ก็จะทำให้เกิดอาการ สับสน มึนงง เป็นตะคริว ง่วงนอน […]
พักสมอง ให้เป็น เพิ่มพลังสมองได้
พักสมองให้เป็น เพิ่มพลังสมองได้ เมื่อร่างกายอ่อนล้า การพักผ่อนคือสิ่งจำเป็น สมองเองก็เช่นกันที่ต้องการการพักผ่อนในยามอ่อนล้า เพื่อให้กลับมาสดใส พร้อมคิดสิ่งต่างๆ ได้อีกครั้ง วันนี้แอดจึงนำวิธี พักสมอง ที่ได้ผล และช่วยเพิ่มพลังสมองให้พร้อมทำงานได้อย่างกระปรี้กระเปร่า นอนหลับ การนอนหลับ เป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับร่างกาย แต่กลับเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามการนอนหลับที่ดีสำหรับผู้ใหญ่ ควรใช้เวลาประมาณ 6-9 ชั่วโมง ในบรรยากาศที่เงียบสงบ อากาศถ่ายเทได้ดี บางคนที่ต้องผจญปัญหานอนไม่หลับ การนอนในที่มืด การใช้ผ้าปิดตา จะช่วยทำให้หลับได้ง่ายขึ้นนะคะ เริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ บางคนเคยชินกับการทำอะไรซ้ำๆ เดิมๆ หรือทำอะไรที่เป็นรูทีน แต่การทำสิ่งใหม่ๆ จะเป็นการเพิ่มพลังให้กับสมองที่อ่อนล้าจากการทำอะไรซ้ำๆ ได้ ดังนั้น ลองเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ หรือแหวกออกจากกรอบเดิมๆ จะช่วยให้สมองโลดแล่นขึ้นได้นะคะ แต่ถ้ายังนึกไม่ออกว่า “สิ่งใหม่ๆ” ที่ว่าคืออะไร แอดแนะนำให้ลองเริ่มต้นจากการเลี้ยงสัตว์ หรือเล่นเกมส์ดูค่ะ ฝึกสมาธิ การฝึกสมาธิ และการรับรู้ เป็นอีกหนึ่งการฟื้นฟูสมอง และสุขภาพจิตค่ะ ทำได้ง่ายๆ ด้วยฝึกการรับรู้ของประสาทสัมผัสทั้ง 4 รวมทั้งใช้เวลากับตัวเองค่ะ รับอากาศบริสุทธิ์ มีงานวิจัยพบว่า การใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ วันละ 20 […]
สมองจ๋า ต้องการอาหารอะไรไปเลี้ยงบ้าง ?
อาจารย์ศัลยา คงสมบูรณ์เวชแนะนำว่า สมองต้องการสารอาหารสำคัญ เพื่อความอยู่รอด ดังนี้ 1.คาร์โบไฮเดรต เนื้อเยื่อสมองเป็นเนื้อเยื่อที่หิวโหย เพราะเซลล์สมองมีจำนวนมาก จึงต้องใช้พลังงานประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ร่างกายได้รับต่อวัน เซลล์สมองใช้พลังงานในรูปแบบกลูโคสสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของที่ร่างกายใช้ แหล่งกลูโคสมาจากอาหารคาร์โบไฮเดรตขัดสีที่ไม่ให้สารอาหารจำเป็นต่อร่างกาย เช่น น้ำตาล ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตไม่ขัดสี เช่น ธัญพืชไม่ขัดสีต่างๆ ผัก ผลไม้ 2.โปรตีน สมองใช้โปรตีนในรูปกรดแอมิโนในการนำไปผลิตสารสื่อประสาท (Neutotransmitters) ซึ่งทำหน้าที่ส่งกระแสประสาทตามคำสั่งของระบบประสาทส่วนกลางไปยังอวัยวะต่างๆในร่างกาย 3.ไขมัน เนื้อเยื่อสมองประกอบด้วยไขมัน 60 เปอร์เซ็นต์ และ 25 เปอร์เซ็นต์ในจำนวนนี้เป็นกรดไขมันดีเอชเอ สมองจึงต้องการกรดไขมันที่ดี เช่น กรดโอเมก้า-3 หรือน้ำมันปลา ซึ่งประกอบด้วยกรดอีพีเอและดีเอชเอ อาหารไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันไม่ดี (ไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ คอเลสเตอรอล) และอาหารแคลอรีสูงจะเร่งอัตราการเกิดโรคอัลไซเมอร์มากที่สุด 4.วิตามินและแร่ธาตุ จำเป็นต่อการทำงานของสมอง เช่น วิตามินบี ธาตุเหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม […]