เรื่องเล่าจาก ชาเขียว ช่วยเสริมพลังสมอง

ชาที่เราดื่มกัน ไม่ว่าจะเป็นชาขาว ชาเขียว ชาอุ่หลง หรือชาดำต่างก็มาจากต้นชาชนิดเดียวกัน มีสาระสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายคือสาร พอลีฟีนอล (Polyphenol) เช่นเดียวกัน เพียงแต่สารนี้จะปริมาณแตกต่างกันตามกรรมวิธีการผลิตชาชนิดต่างๆ   สารพอลิฟีนอลชนิดที่สำคัญคือ กลุ่มสารคาเทชิน (catechins) ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง สารในกลุ่มนี้มี 4 ชนิด แต่สารคาเทชินที่มีฤทธิ์มากที่สุดและปริมาณมากที่สุดในชาเขียวคือ สารอีจีซีจี (epigallocatechin-3-gallatae,EGCG)ซึ่งจัดว่าเป็นสารพอลิฟีนอลที่ได้รับการศึกษามากที่สุด   อาจารย์ศัลยา  คงสมบูรณ์เวชบอกไว้ว่า ในบรรดาชา 4 ชนิด ชาขาวเป็นชาที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตน้อยที่สุด รองลงมาคือ ชาเขียว จากชาขาวซึ่งเป็นส่วนของหน่ออ่อนที่เริ่มแทงยอดออกมาหรือใบชาใบแรกที่เริ่มผลิตออก ส่วนของชาแหล่งนี้หลังจากเก็บจะต้องนำไปนึ่งทันทีเพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในชาแล้วจึงนำไปทำให้แห้ง ชาชาวจึงมีสารคาเทชินสูงกว่าชาอื่น   ส่วนชาเขียวจะเก็บเมื่ออายุมากกว่าชาขาว หลังจากเก็บจะนำไปทำหเหี่ยวโดยการผ่านลม แล้วจึงผ่านความร้อนอีกครั้งเพื่อยับยั้งการำทงานของเอนไซม์ในชา ชาเขียวจึงอาจมีสารคาเทชินน้อยกว่าชาขาวเล็กน้อย อย่างไรก็ดี ชาเขียว1 ถ้วยมีสารพอลิฟีนอลสูงถึง 50-150 มิลลิกรัม   มีข้อมูลการวิจัยว่า การดื่มชาเขียวสม่ำเสมอให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงมะเร็งหลายชนิด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ป้องกันโรคตับ เพิ่มภูมิต้านทาน และยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพกระดูกและฟัน รวมถึงการทำงานของสมอง […]

สมองจ๋า ต้องการอาหารอะไรไปเลี้ยงบ้าง ?

อาจารย์ศัลยา  คงสมบูรณ์เวชแนะนำว่า สมองต้องการสารอาหารสำคัญ  เพื่อความอยู่รอด ดังนี้ 1.คาร์โบไฮเดรต เนื้อเยื่อสมองเป็นเนื้อเยื่อที่หิวโหย เพราะเซลล์สมองมีจำนวนมาก จึงต้องใช้พลังงานประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานที่ร่างกายได้รับต่อวัน เซลล์สมองใช้พลังงานในรูปแบบกลูโคสสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของที่ร่างกายใช้ แหล่งกลูโคสมาจากอาหารคาร์โบไฮเดรตขัดสีที่ไม่ให้สารอาหารจำเป็นต่อร่างกาย เช่น น้ำตาล ควรเลือกคาร์โบไฮเดรตไม่ขัดสี เช่น ธัญพืชไม่ขัดสีต่างๆ ผัก ผลไม้   2.โปรตีน สมองใช้โปรตีนในรูปกรดแอมิโนในการนำไปผลิตสารสื่อประสาท (Neutotransmitters) ซึ่งทำหน้าที่ส่งกระแสประสาทตามคำสั่งของระบบประสาทส่วนกลางไปยังอวัยวะต่างๆในร่างกาย   3.ไขมัน เนื้อเยื่อสมองประกอบด้วยไขมัน 60 เปอร์เซ็นต์ และ 25 เปอร์เซ็นต์ในจำนวนนี้เป็นกรดไขมันดีเอชเอ สมองจึงต้องการกรดไขมันที่ดี เช่น กรดโอเมก้า-3 หรือน้ำมันปลา ซึ่งประกอบด้วยกรดอีพีเอและดีเอชเอ อาหารไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันไม่ดี (ไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ คอเลสเตอรอล) และอาหารแคลอรีสูงจะเร่งอัตราการเกิดโรคอัลไซเมอร์มากที่สุด   4.วิตามินและแร่ธาตุ จำเป็นต่อการทำงานของสมอง เช่น วิตามินบี ธาตุเหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม […]

ว่านหางจระเข้ สมุนไพรประโยชน์สูงใกล้ตัว

ว่านหางจระเข้ สมุนไพรประโยชน์สูงใกล้ตัว ลดน้ำตาล ดูแลช่องปาก ว่านหางจระเข้ เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรใกล้ตัว ที่มักมีตามบ้านต่างๆ สรรพคุณที่เรามักใช้กันคือ แปะบนแผลพุพอง แต่ความจริงแล้ว เจ้าสมุนไพรชนิดนี้มีประโยชน์มากกว่าที่คิดอีกนะคะ  ลดความดันโลหิต  นักวิจัยค้นพบว่า ผงว่างหางจระเข้ช่วยลดความดันโลหิต ทั้งขณะหัวใจบีบตัว และคลายตัวได้ เนื่องจากว่านหางจระเข้มีสาร อะโลอีโมดิน (aloe-emodin) และอะโลอิน ซึ่งทั้งสองตัวนี้มีสารที่ช่วยลดการอักเสบได้  ลดน้ำตาลในเลือด  ว่านหางจระเข้มีความสามารถในการลดการดูดซึมกลูโกสในทางเดินอาหาร และผลิตกลูโคสที่ลดลง  เสริมสุขภาพในช่องปาก  มีงานศึกษา โดยแบ่งคนเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มได้รับน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ เมื่อใช้นาน 1 เดือนพบว่าอาการเลือดออกตามเหงือก และคราบพลัคลดลงเท่ากับกลุ่มที่ใช้น้ำยาบ้วนปากผสมคลอเฮกซิดีน ซึ่งเป็นสารฆ่าเชื้อโรคที่นิยมใช้ในน้ำยาบ้วนปาก  ลดการเกิดสิว  ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการช่วยลดการอักเสบ จึงช่วยลดการเกิดสิว รวมถึงช่วยลดการเกิดรอยแดง รอยดำได้ แต่ไม่ควรนำว่านหางจระเข้สัมผัสโดยตรงกับสิว  ข้อควรระวัง  การนำว่านหางจระเข้มาใช้ หลักปอกเปลือกแล้วควรล้างยางเหลืองออกให้หมดจด เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้  การปลูก ว่านหางจระเข้เป็นพืชไม้ล้มลุก ที่ชอบดินร่วน มีการระบายน้ำได้ดี และต้องการแสงแดด  ข้อมูล everydayhealth.com, คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, บ้านและสวน 

ผัดถั่วงอก ลดความดัน เบาหวาน มงคลรับปีใหม่

ผัดถั่วงอก ลดความดัน เบาหวาน มงคลรับปีใหม่ ในช่วงเทศกาลขึ้นปีใหม่แบบนี้ เมนูที่มีชื่อ หรือความหมายพ้องกับสิ่งที่เป็นมงคลมักจะถูกจัดเสิร์ฟขึ้นบนโต๊ะ วันนี้แอดก็มีอีกหนึ่งเมนูมงคล พร้อมด้วยประโยชน์มากมายมาแนะนำเหมือนกันค่ะ เมนูที่แอดพูดถึงก็คือ ผัดถั่วงอก เมนูง่ายๆ ที่มีความหมายถึงการเจริญงอกงาม ให้เกิดขึ้นในปีใหม่ นอกจากนั้นแล้ว ผัดถั่วงอก ยังเป็นอาหารที่อุดมด้วยวัตถุดิบที่มีประโยชน์ หาง่าย และราคาไม่แพงเลยค่ะ  สำหรับวัตถุดิบหลักของเมนูผัดถั่วงอก แน่นอนว่ามีถั่วงอกเป็นพระเอก แล้วก็มีเต้าหู้มาคู่กัน สำหรับตัวถั่วงอกเป็นผักที่ให้พลังงานต่ำ เพราะใน 100 กรัม ให้พลังงานเพียงแค่ 30 กิโลแคลอรีเท่านั้นเอง นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยป้องกัน และลดความเสี่ยงการเกิดโรคได้ด้วยค่ะ  ลดเสี่ยงเบาหวาน ถั่วงอกไม่เพียงให้พลังงานต่ำ แต่ยังเป็นผักที่มีเส้นใยอาหารสูงมาก จึงช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลของร่างกายลงได้ นอกจากนั้นแล้วตัวถั่วงอกเองก็ยังเป็นผักที่มีค่า GI หรือดัชนีน้ำตาลต่ำ ทำให้เมื่อกินเข้าไปแล้วน้ำตาลในเลือดจะไม่สูงขึ้นมากนัก  ลดเสี่ยงความดัน และหัวใจ  ในตัวถั่วงอกอุดมด้วยสารอาหารสำคัญคือ ไอโซฟลาโวน โพแทสเซียม วิตามิอี และวิตามินเค ซึ่งเป็นกลุ่มสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่หัวใจ ลดภาวะเส้นเลือดตีบตัน และลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด จึงช่วยควบคุมความดันโลหิตได้นั่นเอง  นอกจากประโยชน์จากถั่วงอกแล้ว เต้าหู้เองก็มีประโยชน์ไม่น้อย โดยอัดแน่นด้วยโปรตีนสูงถึงร้อยละ 7.4 […]

เสาวรส เปรี้ยวจี๊ด ประโยชน์ดี

เสาวรส ได้ทั้งเปรี้ยว ทั้งประโยชน์ดี  เสาวรส เป็นผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยรสชาติที่เปรี้ยวกลมกล่อม ที่สำคัญยังอุดมด้วยวิตามินซี แต่นอกจากนั้นแล้วเสาวรสก็ยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกเพียบเลยค่ะ  ไฟเบอร์สูง  เนื้อเสาวรสอุดมด้วยเส้นใยอาหาร จึงช่วยล้างลำไส้ให้สะอาด ทำให้อิ่มท้องได้นาน ขับถ่ายสะดวก นอกจากนั้นแล้ว สถาบัน American Heart Association ยังกล่าวด้วยว่าไฟเบอร์ช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้หัวใจแข็งแรง  เสริมภูมิต้านทาน อย่างที่บอกว่าเสาวรสวิตามินซีสูง จึงช่วยเสริมภูมิต้านทาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในยุคที่มีโรคระบาดแบบนี้  บำรุงหัวใจ เสาวรสมีโพแทสเซียมสูง และโซเดียมต่ำ จึงช่วยดูแลบำรุงหัวใจ รวมทั้งอุดมด้วยเส้นใยอาหารจึงช่วยลดคอลเลสเตอรอลในเลือดไปในตัว ซึ่งคุณสมบัติเหล่างนี้เป็นการลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ และควบคุมความดันให้เป็นปกติ ลดความเครียด ในเสาวรสมีแมกนีเซียม ซึ่งมีงานวิจัยยืนยันว่าช่วยลดความเครียด และความวิตกกังวลได้ นอกจากนั้นยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อในร่างกายได้ด้วยนะคะ  อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เสาวรสอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีประโยชน์มากๆ นะคะ เพราะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคร้ายมากมาย โดยเฉพาะกับสมองและระบบประสาท รวมทั้งลดการเกิดอักเสบของเซลล์ เมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้ว จึงทำให้เสาวรสช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอัลไซเมอร์ รวมถึงโรคมะเร็งด้วย มีประโยชน์มากขนาดนี้ แล้วยังรสชาติดีอีก ไปหาเสาวรสมากินกันดีกว่าค่ะ โดยจะกินเป็นแบบสดๆ หรือจะนำไปแปรรูปเป็นแยม เป็นน้ำเสาวรสหมักก็ได้นะคะ  ข้อมูล Medical News […]

ต้นอ่อนผัก สารอาหารแน่น บำรุงสุขภาพแบบจัดเต็ม

ต้นอ่อนผัก สรรพคุณเริ่ด ประโยชน์แน่น พอพูดถึง ต้นอ่อนผัก หลายคนน่าจะนึกถึงต้นอ่อนทานตะวันกินกับสลัด แต่จริงๆ แล้วมีมากกว่านั้นอีกนะคะ ที่เรากินเป็นต้นอ่อนได้ ที่สำคัญมีสารอาหารเยอะมาก มากกว่าผักโตเต็มวัย ที่กินกันทั่วไป  ต้นอ่อนผัก ให้สารอาหารมากกว่าปกตินั่นก็เพราะว่าในวัยต้นอ่อน เป็นช่วงวัยที่ต้นอ่อนสะสมสารอาหาร และพลังงานเพื่อเตรียมเติบโตนั่นเอง เมื่อเรากินในช่วงที่เป็นต้นอ่อน ก็ทำให้เราได้รับพลังงานและสารอาหารไปด้วยนั่นเอง  ช่วยควบคุมน้ำตาล  จากการศึกษาพบว่าการกินต้นอ่อนช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีปริมาณลดลงได้ ซึ่งมากจาก 2 เหตุผลหลักๆ คือ เหล่าต้นอ่อนมีคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่าผักทั่วไป นอกจากนั้นยังมีเอมไซม์ที่ช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรตได้ด้วย  ไฟเบอร์สูง พวกผักต้นอ่อนมีไฟเบอร์สูง จึงช่วยให้อิ่มท้องนาน ระบบขับถ่ายเป็นปกติ และยังเป็นพรีไบโอติกที่ช่วยเลี้ยงแบคทีเรียในลำไส้ให้แข็งแรง บำรุงหัวใจ เนื่องจากต้นอ่อนเหล่านี้มีคุณสมบัติลดคอเลสเตอรอลได้ จึงช่วยความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ ไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้ค่ะ สำหรับผักที่สามารถกินตั้งแต่ตอนยังเป็นต้นอ่อนได้ นอกจากต้นอ่อนทานตะวัน ก็ยังมีถั่วงอกที่เราคุ้นเคยก็เป็นต้นอ่อนเหมือนกันนะคะ นอกจากนั้นยังมีต้นอ่อนข้าวสาลี ต้นอ่อนหัวไชเท้า โต้วเหมียว ต้นอ่อนบร็อคโคลี่ ต้นอ่อนกะหล่ำดาว ต้นอ่อนแรดดิชแดง ต้นอ่อนเคล  แต่ถึงจะมีประโยชน์มากแค่ไหนก็มีข้อควรระวังนะคะ ควรระวังและล้างให้สะอาดเพราะอาจมีเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษปนเปื้อนได้ เนื่องจากต้นอ่อนมักปลูกในที่ชื้นแฉะและแออัด จึงอาจต้องนำไปผ่านความร้อนสักนิดเพื่อความปลอดภัยค่ะ นอกจากประโยชน์เยอะ กินได้หลากหลายแล้ว ต้นอ่อนก็ปลูกง่ายนะคะ เดี๋ยวนี้แอดเห็นชุดปลูกต้นอ่อนสำเร็จรูปขายมากมายเลยค่ะ มีหลายพันธุ์เลย ซึ่งถ้าเราปลูกเองก็มั่นใจได้ว่าปลอดสารพิษชัวร์ๆ  […]

ไขความลับ “เก๋ากี้” ยาอายุวัฒนะในตำราจีน

เก๋ากี้ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Chinese Wolfberry และมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Lycium barbarum หรือบางตำราเรียกทับศัพท์ว่า โกจิเบอร์รี่ (Goji Berry) จัดอยู่ในกลุ่มผลไม้ชนิดหนึ่งในตระกูลเบอร์รี่ ลักษณะต้นเป็นพุ่มไม่สูงมาก มีสายพันธุ์ประมาณ 70 – 80 สายพันธุ์ มีสีแดงจัด เก๋ากี้ ลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ ผลที่สุกแล้วจะมีสีแดงเข้มเหมือนเลือด จึงมีอีกชื่อในภาษาจีนว่า “ฮ่วยกี้” หรือ “โก๋วฉีจึ”(枸杞子) ในบ้านเรานิยมใช้อยู่ 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ Lycium barbarum มีลักษณะสีแดงเม็ดเล็ก อมเปรี้ยวกว่ามักใส่ในซุปไก่ตุ๋น เรียกว่า “เก๋ากี้จีน” ส่วนอีกหนึ่งสายพันธุ์ คือ Lycium chinense สีแดงเข้มและเม็ดใหญ่กว่า ออกหวานมากกว่า ไม่เปรี้ยว มักใส่ในชา เป็นขนมเคี้ยวเล่นและใส่ในของหวาน เรียกว่า “เก๋ากี้ฮ่องกง” เก๋ากี้ นั้นมีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย เพาะปลูกและเติบโตได้ดีในแถบประเทศจีนตอนเหนือ เพราะมีอากาศเย็นและสภาพทางภูมิศาสตร์เป็นบริเวณเทือกเขา ผลของเก๋ากี้มักจะสุกในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง ชาวจีนจะนิยมเก็บผลมาตากแห้ง […]

กระตุ้นระบบเผาผลาญ ด้วยอาหารการกิน ทำหุ่นดีจริงนะเธอ

กระตุ้นระบบเผาผลาญ ด้วยอาหารการกิน ทำหุ่นดีจริงนะเธอ กว่าหลายปีที่ผ่านมา การเผาผลาญพลังงานนับเป็นเป้าหมายหลักของหลายคน เนื่องจากมีผลต่อน้ำหนัก ความอยากอาหาร และระดับไขมันในร่างกาย กระตุ้นระบบเผาผลาญ ได้สูงขึ้นเท่าใด พลังงานที่เผาผลาญได้ก็สูงขึ้นด้วยแม้จะอยู่ในขณะพักผ่อน อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจยังคงไม่ทราบว่าการที่ร่างกายเผาผลาญได้ดีหมายความว่าคุณอาจต้องรับประทานมากขึ้น และหรือปรับช่วงเวลาของมื้ออาหารเพื่อรักษาน้ำหนักตัวให้คงที่ มิเชล ริกเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาและการอบรมด้านโภชนาการทั่วโลก บริษัท เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น กล่าวว่า “สิ่งที่สำคัญในที่นี้คือ การเข้าใจว่าร่างกายของคุณจัดการกับอาหารอย่างไร และอาหารประเภทใดที่คุณจำเป็นต้องรับประทานเพื่อให้ร่างกายของคุณทำงานได้อย่างเหมาะสม” ร่างกายสร้างพลังงานได้อย่างไร แม้ว่าอาหารทุกชนิดจะช่วยเพิ่มพลังงานได้ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าอาหารประเภทใดที่เหมาะแก่การรับประทานเพื่อรักษาระดับพลังงาน โดยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ไขมันดี (อะโวคาโดและถั่ว) และโปรตีน (ปลา ไก่ เทมเป้ ไข่ และอื่น ๆ) จะใช้เวลาในการย่อยนาน ช่วยตอบสนองต่อความหิว และค่อย ๆ ให้พลังงานอย่างสม่ำเสมอ จึงมีค่าดัชนีน้ำตาลที่ต่ำ ซึ่งค่าดัชนีน้ำตาลต่ำถือเป็นสิ่งที่ดีด้วยเหตุผลต่อไปนี้ ร่างกายใช้พลังงานน้อยกว่าการย่อยอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลที่สูงหรืออาหาร “ขยะ” เนื่องจากมีส่วนผสมของวัตถุดิบที่ผ่านการขัดสี การย่อยที่เร็วทำให้หิวบ่อย และจะส่งความรู้สึกความอยากอาหารไปที่สมอง ในทำนองเดียวกันกับการอดอาหาร สาเหตุหลักประการหนึ่งที่ทำให้ “การอดอาหาร” ส่งผลเสียในระยะยาวคือ ทุกครั้งที่คุณอดอาหาร หรือร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงและมีการปล่อยฮอร์โมนชนิดหนึ่งในร่างกายที่กระตุ้นให้เกิดการสลายกล้ามเนื้อ ซึ่งไม่ใช่การเผาผลาญไขมัน […]

ประโยชน์ของทับทิม ลดความดัน แก้ท้องเสีย

ประโยชน์ของทับทิม ลดความดัน แก้ท้องเสีย ประโยชน์ของทับทิม มีมากมายเลยค่ะ ไม่เพียงแต่ในผลวิจัยของต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังขึ้นชื่อมาตั้งแต่ยุคโบราณ โดยปรากฏชื่อ และสรรพคุณอยู่ในตำรายาโบราณมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแผนไทย ในคัมภีร์ทางศาสนา เป็นต้น  โดยชาวอิหร่านในสมัยโบราณนิยมนำดอกทับทิมแห้งมาบดเป็นผงผสมกับสมุนไพรอื่น ๆใช้บรรเทาอาการปวดบวมที่เหงือกและลดอาการอักเสบ นอกจากนั้นในหลาย ๆ ประเทศทางตะวันออกกลางนำเปลือกต้นทับทิมมาใช้ทำยาถ่ายพยาธิ ส่วนแก่นของต้นนำมาทำน้ำยาทำความสะอาดร่างกาย ส่วนเปลือกของผลทับทิมนำมาทำน้ำยาบ้วนปาก เมล็ดนำมาบดเพื่อใช้เป็นเครื่องเทศ สุดท้ายผลนำมากินเป็นผลไม้และคั้นน้ำดื่มเพื่อดับกระหาย นิยมมากในหมู่พ่อค้าและนักเดินทางที่ข้ามผ่านทะเลทรายอันร้อนระอุ เห็นไหมคะว่า ประโยชน์ของทับทิม มีมากมายจริงๆ นอกจากนั้นในปัจจุบันมีการศึกษาพบว่า ทับทิมมีใยอาหาร วิตามินซี วิตามินเค และโพแทสเซียมสูง ที่สำคัญมีสารแอนติออกซิแดนต์สูงกว่าไวน์แดงและชาเขียวถึง 3 เท่า มีการศึกษาพบว่า การกินทับทิมเป็นประจำอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไปจะช่วยลดความดันโลหิต ไตรกลีเซอไรด์ ป้องกันโรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดปัญหาระบบย่อยอาหารและลำไส้ทำงานไม่ปกติ โรคแผลในกระเพาะอาหาร น้ำคั้นจากผลทับทิมช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชลล์ที่ผิดปกติได้เนื่องจากมีสารพอลิฟินอลอย่างกรด Ellagic Acid และกรด Punicic Acid สูง ขณะที่ราก  เปลือกผลทับทิม และใบ มีสารแทนนินซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และในก้านกับรากมีสารแอลคาลอยด์ชื่อ Isopelletierine ช่วยในการขับถ่ายพยาธิ ตามตำรายาไทยระบุว่า ทับทิมมีคุณสมบัติทางยา […]

อาหารฟาสต์ฟู้ด ของอร่อย ดีต่อใจ แต่ไม่ใช่สุขภาพ

อาหารฟาสต์ฟู้ด กินอร่อย แต่สุขภาพแย่ การกิน อาหารฟาสต์ฟู้ด อาหารแปรรูป หรืออาหารขยะ สำหรับบางคน เปรียบเสมือนการให้รางวัลแก่ตัวเอง วิธีคิดนี้ ส่งผลให้สมองปล่อยสารโดพามีนและสารเคมีอื่น ๆ ที่สมองของเราตีความว่าเป็นสิ่งที่น่าพอใจ ซึ่งบางครั้งความคิดถึงและความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ดีหรือช่วงเวลาที่รู้สึกแย่ในชีวิตของเรา ก็เป็นตัวผลักดันความอยากอาหารแปรรูปได้เช่นเดียวกัน 7 พฤติกรรมที่ควรหยุดก่อนเสพติดอาหาร ใครจะคิดว่าอาหารก็สามารถทำให้เราเสพติดได้ รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเป็นที่เรียบร้อย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้บ่งบอกพฤติกรรม 7 อย่างที่อาจทำให้คุณเสพติดอาหารโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจะเป็นพฤติกรรมที่คุณกำลังทำอยู่หรือไม่ ไปเช็กพร้อม ๆ กันเลยค่ะ เลือกซื้ออาหารชนิดนั้นเป็นประจำ หรือมากกว่าสัปดาห์ละ 3 ครั้ง กินอาหารชนิดนั้นแล้วไม่อยากหยุดกิน มีความอยากกินอาหารชนิดนั้นมากกว่าอาหารชนิดอื่น แม้ว่าจะไม่หิวก็ยังจะกินอาหารชนิดนั้น หากไม่ได้กินอาหารชนิดนั้นในวันนั้นจะรู้สึกไม่แฮ็ปปี้ หงุดหงิดเหมือนขาดอะไรไป และอาจมีอาการที่แสดงออกมาทางร่างกาย เช่น ปวดหัว วิงเวียนศีรษะ ไม่มีสมาธิหากไม่ได้กินอาหารชนิดนั้น หาข้ออ้างหรือเหตุผลในการกินอาหารชนิดนั้นให้กับตัวเองเสมอ วิธีควบคุมความอยากอาหารขยะ วิธีที่ดีที่สุดในการลดความอยากอาหารขยะ คือ การจำกัดปริมาณอาหารแปรรูปที่คุณกินโดยเริ่มกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ อัดแน่นด้วยคุณค่าทางอาหารตั้งแต่มื้อแรกของวัน เพราะถ้าร่างกายมีสารอาหารเพียงพอที่จะรักษาระดับพลังงาน ร่างกายจะไม่ส่งสัญญาณให้คุณกระหายอาหารที่มีน้ำตาลหรือเกลือที่อยู่ในอาหารขยะเหล่านี้ แม้ว่าความอยากอาหารไม่ได้เกิดจากการขาดสารอาหารเพียงอย่างเดียว เพราะมีบ่อยครั้งที่การจัดกัดอาหารบางอย่างทำให้ร่างกายได้รับปริมาณแคลอรีไม่เพียงพอ รวมไปถึงสารอาหารหลักอย่างไขมัน โปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ร่างกายจึงกระตุ้นให้เรากินอาหารมากขึ้น […]

แจกสูตร หัวไชเท้า แก้ไอ ขับเสมหะ

หัวไชเท้า สรรพคุณ แก้ไอ ลดน้ำตาลได้ หัวไชเท้า เป็นพืชหัวในตระกูล Cruciferae จัดอยู่ในวงศ์ผักกาด มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน โดยศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ภาสกิจ วัณณาวิบูล แพทย์แผนปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์การแพทย์แผนจีนอธิบายไว้ในหนังสือ หายป่วย สุขภาพดี ด้วยอาหารและสมุนไพรจีน ว่า หัวไชเท้ามีฤทธิ์เย็น มีรสเผ็ด หวาน สรรพคุณช่วยขับพิษ บรรเทาอาการท้องร่วง ท้องเสีย โรคบิด ขับปัสสาวะ กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว แก้ไอ ขับเสมหะ ลดน้ำตาลในเลือด บรรเทาอาการเลือดกำเดาไหล และแก้อาเจียน ปัจจุบันมีการศึกษาพบว่า หัวไชเท้ามีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และมีวิตามินบี 1 บี 12 ไนอะซิน วิตามินชีสูง อีกทั้งในน้ำคั้นหัวไชเท้าสดยังมีเอนไซม์ช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน จึงมีสรรพคุณบรรเทาอาการท้องผูกได้ นอกจากนั้นยังมีประโยชน์ด้านความสวย ความงาม คือ สามารถนำน้ำคั้นหัวไชเท้ามาทาเพื่อลบจุดด่างดำและฝ้าบนใบหน้าได้ ประเด็นดังกล่าวชีวจิต ได้ค้นคว้าและตรวจสอบข้อมูลแล้วพบว่ามีความเป็นไปได้ ดังที่ข้อมูลจากสำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล […]

ตัวบวม หน้าบวม เพราะกินอาหารรสจัด (เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม) มากเกินไปหรือเปล่า?

ตัวบวม หน้าบวม เพราะกินอาหารรสจัด ? “จะบอกว่าอ้วนขึ้นก็ไม่ใช่ แต่ทำไมหน้ากับตัวถึงดูอืดๆยังไงพิกลก็ไม่รู้” สาวๆ (หรือแม้กระทั่งหนุ่มๆ) คะ เคยสังเกตตัวเองกันบ้างไหมว่า บางช่วงเวลาของชีวิต ทำไมเราถึงมีภาวะอาการหน้าและตัวบวม (สาร)น้ำ ต้องบอกไว้ก่อนว่า ภาวะนี้ ไม่ได้ถึงกับเป็นโรคที่บ่งบอกว่า สุขภาพเราแย่ขนาดเป็นโรคตับไต แต่มันสะเทือนใจเพราะมีผลต่อความสบายใจในรูปลักษณ์ของเราค่ะ อาการหน้าและตัวบวม(สาร)น้ำ ถ้าในการแพทย์เราจะเรียกว่า edema คือ ภาวะที่มีการเพิ่มขึ้นของสารน้ำในเนื้อเยื่อ ซึ่งมักสะสมที่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง จนสังเกตเห็นว่ามีอาการบวมเกิดขึ้น1 ซึ่งจากคำนิยามข้างต้น แพทย์เราก็จะหาสาเหตุค่ะ ว่าเกิดจากความผิดปกติในระบบอวัยวะใด แต่อาการบวมนั้น อย่างที่บอกไปข้างต้นค่ะ ว่าบางครั้ง เราไม่ได้ถึงกับเป็นโรค แต่เกิดจากการใช้ชีวิตของเรานี่แหละที่ไม่เหมาะสม แล้วทำให้เกิดอาการบวมได้ นั่นก็คือ การรับประทานอาหารรสจัด ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่เผ็ดนะคะ แต่หมายถึงได้ทั้ง หวาน มัน เค็ม เปรี้ยว แซ่บ จัดจ้าน ซึ่งก็คือ อาหารที่มีองค์ประกอบของแร่ธาตุโซเดียมเยอะเกินควรนี่เอง เมื่อเรารับประทานอาหารที่หมอดาวกล่าวไปนั้น แร่ธาตุโซเดียมที่เข้าสู่ร่างกายที่มากเกินควร จะทำให้ร่างกายจับได้ว่า ความเข้มข้นของโซเดียมมากเกินไปแล้วนะ ร่างกายจะมีกลไกในการรักษาสมดุลเกลือแร่ กลไกง่ายๆอย่างหนึ่งคือ การเพิ่มปริมาณสารน้ำเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เราหิวน้ำ ส่วนกลไกในร่างกายเอง […]

กินสร้างสมดุลอินซูลิน ลดน้ำตาลในเลือด เพื่อผู้ป่วยเบาหวาน

เคล็ดลับกิน ลดน้ำตาลในเลือด ปรับสมดุลอินซูลิน ผู้เขียนจะพามาทำความรู้จักกับอินซูลินให้มากขึ้น ทำความเข้าใจหน้าที่ของฮอร์โมนผู้กุมชะตาชีวิต พร้อมแนะวิธีกินและใช้ชีวิตเพื่อให้ฮอร์โมนอินซูลินไม่ตีจาก จะได้อยู่กับร่างกายตราบนานเท่านาน เป็นแนวทาง ลดน้ำตาลในเลือด ดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน อินซูลิน คือรถขนอาหารคันใหญ่ อินซูลินคือฮอร์โมนชนิดหนึ่ง ผลิตจากตับอ่อน ทำงานเกี่ยวข้องกับสารอาหารหลักของร่างกาย ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน มีผลต่อเซลล์เกือบทุกชนิดในร่างกาย ฮอร์โมนอินซูลินทำหน้าที่คล้ายรถขนส่งอาหาร ซึ่งพร้อมออกปฏิบัติการทุกครั้งเมื่อมีอาหารส่งมาถึงกระแสเลือด โดยหลังจากกินอาหารและผ่านการย่อย น้ำตาลจะถูกดูดซึมเข้าสู่ลำไส้ ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มขึ้น เป็นสัญญาณกระตุ้นให้ตับอ่อนรีบปล่อยอินซูลินออกมาเพื่อจัดการรวบรวมน้ำตาลที่กำลังลอยล่องอยู่ในกระแสเลือด แล้วตระเวนส่งน้ำตาลให้กับเซลล์ในอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย เมื่อน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ จะเผาผลาญเพื่อให้พลังงานแก่เซลล์ต่างๆ นอกจากนี้ยังเปลี่ยนเป็นพลังงานสำรองที่เรียกว่าไกลโคเจน (glycogen) เก็บไว้ในตับและกล้ามเนื้อ สำรองไว้ใช้ระหว่างมื้ออาหารแต่หากน้ำตาลยังเหลือ เซลล์ต่างๆก็อิ่มแล้ว แถมตู้เสบียงเก็บพลังงานสำรองก็เต็ม ตับอ่อนคงถอนใจเฮือกใหญ่ เพราะต้องส่งฮอร์โมนอินซูลินออกมาพาน้ำตาลไปเคาะประตูบ้านเซลล์ต่างๆอีกครั้ง เพื่อจัดการแปลงโฉมน้ำตาลเสียใหม่ให้กลายเป็นไขมัน แล้วฝากแปะติดไว้กับอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย ทีนี้หลายคนคงคิดว่าจบงานแล้ว ตับอ่อนคงได้พักเสียที แต่เปล่าเลย หากปากเรายังขยับ กินอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูงอย่างต่อเนื่อง กินหวานจนเคยชิน น้ำตาลจะถูกเติมเข้าสู่กระแสเลือดเรื่อยๆ เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ตับอ่อนจะพยายามผลิตฮอร์โมนอินซูลินมากขึ้น เพื่อพาน้ำตาลออกจากเลือดเข้าสู่เซลล์ ยิ่งเติมน้ำตาลให้ร่างกายมากเท่าไร ตับอ่อน ก็ยิ่งทำงานหนักขึ้น และอาจทำงานหนัก เช่นนี้เป็นแรมปีจนเกิดอาการล้า ไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินได้เพียงพอสุดท้ายจึงจำเป็นต้องฉีดฮอร์โมนอินซูลินจากภายนอกเข้าสู่ร่างกายแทน กินถนอมตับอ่อน […]

“มังคุด” ราชินีผลไม้เพื่อสุขภาพ

ภายใต้เปลือกหนาสีม่วงอมน้ำตาลของผลไม้นาม “มังคุด” มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งราชวงศ์อังกฤษ เคยรับสั่งว่า จะพระราชทานตำแหน่งอัศวินหรือเงิน 100 ปอนด์ แก่คนที่สามารถนำผลมังคุดสดมาถวายพระนางได้ จริงเท็จอย่างไรไม่มีผู้ใดทราบ แต่ที่แน่ ๆ มังคุด คือผลไม้ที่คนไทยอวยยศความอร่อยให้เป็น “ราชินีแห่งผลไม้ทั้งปวง” ไม่นานมานี้มีข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ว่าปีนี้ผลผลิตมังคุดจากภาคตะวันออกมีมากกว่าปีที่ผ่านมา อาจส่งผลให้ราคามังคุดตกต่ำได้ ซึ่งผลผลิตจะออกมามากที่สุดในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ ฟังแล้วก็ปลุกพลังไทยช่วยไทยในใจขึ้นมา อยากชวนคุณไปอุดหนุนมังคุด ช่วยเหลือเกษตรกรกันสักหน่อย และเพื่อให้การกินมังคุดลึกซึ้งยิ่งขึ้น จึงขอนำแง่มุมต่าง ๆ ของมังคุดมาฝากกัน เปลือกมังคุดเป็นยา เปลือกมังคุดมีรสฝาดจากสารแทนนิน รสฝาดนี้เป็นสิ่งบ่งชี้ สรรพคุณยาตามศาสตร์แพทย์แผนไทยคือ ฤทธิ์สมานบาดแผลและรักษาอาการท้องผูก เปลือกมังคุดจึงเป็นหนึ่งในสมุนไพรในงานสาธารณสุขมูลฐานที่นำไปใช้รักษาอาการท้องร่วง ท้องเสี่ยเรื้อรัง หรือโรคบิด โดยนำเปลือกมังคุดแห้งครึ่งผล มาย่างไฟให้เกรียมแล้วฝนกับน้ำปูนใสประมาณครึ่งแก้ว หรือบดเป็นผงแล้วละลายน้ำชาวข้าวหรือน้ำต้มสุก ดื่มทุก 2 ชั่วโมง นอกจากนี้แพทย์พื้นบ้านยังใช้เปลือกมังคุดแห้งฝนกับน้ำปูนใสเพื่อใช้ทารักษาแผลเรื้อรังในผู้ป่วยเบาหวานอีกด้วยแต่ก็มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรทายาจากผิวมังคุดบริเวณใกล้ดวงตา หรือทาบนเนื้อเยื่ออ่อน ๆ เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ และควรล้างทำความสะอาดให้ดีก่อนนำไปตากทำยา เพื่อขจัดสารเคมีตกค้าง แพทย์แผนจีนยังมีตำรับยาที่ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก โดยนำเปลือกมังคุดแห้งบดผงมาผสมกับน้ำมันถั่วลิสงแล้วทาบริเวณที่เป็นแผลอีกด้วย ปัจจุบันมีการนำเปลือกมังคุดมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางรักษาสิว ผลิตภัณฑ์ลดกลิ่นปาก ยาสมานแผลในช่องปาก และรักษาโรคปริทันต์ เพราะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านเชื้อแบคทีเรียบางชนิดซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาดังกล่าว […]

ย่านาง วัตถุดิบอร่อยตำรับอีสาน ภูมิปัญญาในหม้อแกงหน่อไม้

ย่านาง วัตถุดิบอร่อยตำรับอีสาน ภูมิปัญญาในหม้อแกงหน่อไม้ ย่านาง วัตถุดิบอร่อยตำรับอีสาน ภูมิปัญญาในหม้อแกงหน่อไม้ ย่านาง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tiliacora triandra (Colebr.) Diels ลักษณะต้นเป็นเถาไม้เลื้อย ใบเป็นใบเดี่ยวคล้ายใบพริกไทย ออกติดกับลำต้นแบบสลับรูปร่าง ลักษณะคล้ายรูปไข่หรือรูปไข่ขอบขนาน ปลายใบเรียว ฐานใบมน ขนาดใบยาว 5 – 10 เซนติเมตร พบได้ทั่วทุกภาคในประเทศไทย หมอยาภาคอีสานขนานนามพืชสมุนไพรชนิดนี้ว่า ย่าหมื่นปีไม่แก่สรรพคุณของใบย่านางมีรสจืดขม ใช้ถอนพิษ แก้ไข้ แก้ไข้รากสาด ไข้เซื่องซึม ไข้หัว ไข้พิษ ปวดหัวตัวร้อน อีสุกอีใส หัด ลิ้นกระด้างคางแข็ง ใช้ทำยากวาดคอ แก้ไข้ฝีดาษ ไข้ดำแดง ถ้านำน้ำคั้นใบย่านางมาสระผมจะช่วยให้ผมดำ นุ่มสลวย ส่วนราก ใช้ต้มเป็นยาแก้อีสุกอีใส ตุ่มผื่น ถ้านำรากย่านางผสมรากหมาน้อยมาต้ม แก้ไข้มาลาเรียได้ ส่วนเถาย่านาง ใช้ทำเชือกหรือใช้มัดตับหญ้าคา นิยมใช้มุงหลังคาเพราะมีความเหนียวทนทาน ปัจจุบัน ชาวอีสานนำน้ำคั้นใบย่านางมาปรุงอาหารหลายเมนู เช่น แกงหน่อไม้ แกงอ่อม แกงเห็ด […]

น้ำเต้าหู้ ของดีใกล้ตัว บำรุงสมอง ดูแลหัวใจ

น้ำเต้าหู้ เครื่องดื่มมากประโยชน์  น้ำเต้าหู้ หรือนมถั่วเหลือง เป็นของดีอุดมด้วยโปรตีนจากถั่ว แล้วยังมีฮอร์โมนเพศหญิงที่ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมน จึงนับได้ว่าเป็นว่าเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ แล้วยังอร่อย รวมถึงทำง่ายด้วยค่ะ แต่ก่อนจะไปดูวิธีการทำ เรามาดูประโยชน์กันก่อนดีกว่า บำรุงหัวใจ อุดมด้วยไขมันดี ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ อีกทั้งยังมีแร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ ที่ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง  บำรุงกระดูก  นอกจากโปรตีนแน่นๆ แล้วอีกอย่างที่มีเยอะไม่แพ้กันคือ แคลเซียม น้ำเต้าหู้จึงเป็นอีกทางเลือกของผู้ที่ต้องการบำรุงกระดูก แต่ดื่มนมไม่ได้  บำรุงสมอง โอเมก้า 3 ไม่ได้มีแค่ในปลาทะเลน้ำลึกเท่านั้น แต่ยังหาได้ในนมถั่วเหลืองอีกด้วย ซึ่งมีผลการวิจัยพบว่า โอเมก้า 3 ไม่เพียงช่วยบำรุงสมอง แต่ยังลดโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคอัลไซเมอร์ ควบคุมความดันโลหิต โพแทสเซียมในน้ำเต้าหู้ ช่วยควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมทั้งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย ฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกาย อย่างที่บอกไปแล้วว่าน้ำเต้าหู้อุดมไปด้วยโปรตีน จึงเหมาะที่จะดื่มหลังการออกกำลังกายเพื่อให้โปรตีนไปซ่อมแซมร่างกายที่อาจบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย  ทำน้ำเต้าหู้กัน จะเห็นได้ว่าน้ำเต้าหู้เป็นเครื่องดื่มมากประโยชน์จริงๆ แต่บางครั้งน้ำเต้าหู้ที่ซื้อมาก็อาจจะใส่น้ำตาลเยอะเกินไป หรือมีถั่วเหลืองแบบเจือจางเพราะอย่างนั้น เรามาทำน้ำเต้าหู้ด้วยตัวเองกันดีกว่าค่ะ เพราะวิธีการทำนั้นง่ายมากๆ  วัตถุดิบ ถั่วเหลือง 1 ถั่ว  น้ำเปล่า 5 ถ้วย  ใบเตย 2-3 ใบ […]

ขมิ้นชัน สมุนไพรไทย บำรุงปอด หัวใจ ป้องกันมะเร็ง

ขมิ้นชัน ตัวท็อป บำรุงปอด หัวใจ ป้องกันมะเร็ง ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรที่ขึ้นชื่อเรื่องแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หลายคนจึงมีพกติดตัวไว้กินหลังมื้อหนักๆ แต่ความจริงขมิ้นชันนั่นเป็นอีกหนึ่งสุดยอดสมุนไพร ที่ช่วยได้หลายเรื่องเลยค่ะ ที่สำคัญคือช่วยป้องกันมะเร็งได้อีกด้วย และเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากขมิ้นชันสูงสุด ก็มีการศึกษาพบว่าการกินขมิ้นชันในเวลาที่แตกต่างกัน จะทำให้มีสรรพคุณในการดูแล บำรุง และป้องกันที่ต่างกันออกไป  03.00-05.00 เป็นช่วงเวลาของปอด การกินขมิ้นชันในเวลาจะช่วยบำรุงปอดให้แข็งแรง และยังป้องกันมะเร็งมดลูก รวมถึงดูแลเรื่องระบบหายใจและภูมิแพ้  05.00-07.00 เป็นช่วงเวลาของลำไส้ การกินขมิ้นชันจะช่วยฟื้นฟูปลายประสาทลำไส้ ทำให้ขับถ่ายได้ปกติ ป้องกันการเกิดริดสีดวงทวาร และมะเร็งลำไส้ 07.00-09.00 เป็นเวลาของกระเพาะอาหาร การกินขมิ้นชันเวลานี้จะลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และบำรุงสมอง ป้องกันความจำเสื่อม  09.00-11.00 เป็นเวลาของม้าม การกินขมิ้นชันในช่วงเวลานี้จึงช่วงเรื่องน้ำเหลือเสีย บรรเทาอาการเบาหวาน เกาต์  11.00-13.00 เป็นเวลาของหัวใจ ขมิ้นชันจะเข้าไปเข้าบำรุงหัวใจให้เข็งแรง  15.00-17.00 เป็นเวลาของกระเพาะปัสสาวะ ช่วยระบบขับถ่าย ทำให้ร่างกายขับสารพิษออกมาได้มาก  หลัง 5 โมงเย็น จนถึงเวลาเข้านอน กินขมิ้นชันในช่วงเวลานี้จะช่วยบำรุงความจำ การขับถ่าย และทำให้ตื่นมาไม่อ่อนเพลีย แพ้ขมิ้นชัน! และถึงแม้ขมิ้นชันจะมีข้อดีมากมาย […]

ใช่ว่าทุกคนจะกิน คีโตได้

“คีโต” อ่านให้ละเอียด ไม่ได้เหมาะกับทุกคน คีโต เป็นการควบคุมอาหารอีกรูปแบบหนึ่ง ที่คนนิยมนำมาใช้กัน โดยเป็นการกินที่งดแป้งและน้ำตาล แต่ใครที่กำลังสนใจการกินแบบนี้ อาจต้องหยุดอ่านก่อนเพราะไม่ได้เหมาะสมกับคนทุกคนนะคะ  คีโต หรือชื่อเต็มคือ Ketogenic Diet เป็นการกินอาหารที่ทำให้ร่างกายสลายไขมัน โดยกินแป้ง และน้ำตาลในปริมาณที่น้อยมากๆ จนร่างกายรู้สึกว่าไม่เพียงพอ จนดึงไขมันเดิมที่มีอยู่มาใช้ จนเกิดสารที่ชื่อว่า คีโตน จึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง การทำงานของคีโต ร่างกายดึงไขมันออกมาใช้เผาผลาญ ร่างกายสูญเสียน้ำ จากการเผาผลาญไขมัน สารคีโตน ทำให้เบื่ออาหาร จึงกินอาหารได้น้อยลง การเลือกกินอาหาร อย่างที่รู้ว่าคีโต นั้นจะเป็นการไม่กินแป้ง และน้ำตาล แต่เน้นไปที่การกินไขมันแทน แต่ก็ควรเลือกกินให้เหมาะสม คือ เลือกกินไขมันดี เนื่องจากการกินคีโต สามารถกินไขมันและเนื้อสัตว์ได้เต็มที่  ดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตร เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำไปเป็นจำนวนมาก  ผลกระทบจากคีโต สำหรับผู้ที่กินคีโตนอกจากน้ำหนักที่ลดลงแล้ว ก็ยังมีผลกระทบอื่นๆ ตามมา ในช่วงแรก คือ  หงุดหงิด นอนไม่หลับ  คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง  ซึ่งอาารเหล่านี้จะคงอยู่ประมาณ 3-5 […]

keyboard_arrow_up