เด็กยุคใหม่ต้องสตรอง เจาะเทรนด์ LPR โพรไบโอติก เกรด A ตัวช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน

ปัจจุบันการดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคทุกกลุ่มให้ความสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะกลุ่มแม่ๆ ที่กำลังมองหาตัวช่วยเสริมเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับลูกและคนในครอบครัว  หนึ่งสิ่งที่เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว และกำลังอยู่ในกระแสความสนใจคือ LPR โพรไบโอติก หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่า LPR โพรไบโอติก คืออะไร? LPR โพรไบโอติก คือจุลินทรีย์ดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายที่จะเสริมระบบภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ลูกรัก การที่เด็กมีร่างกายที่แข็งแรงเป็นสิ่งที่แม่ๆ ยุคนี้ให้สำคัญอย่างมาก ซึ่ง LPR โพรไบโอติก นับเป็นเทรนด์ใหม่ที่มาแรงในทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดสุขภาพที่คุณแม่ยุคใหม่ให้ความใส่ใจมากขึ้น ผู้ผลิตจึงมุ่งเน้นและให้ความสำคัญต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามเทรนด์อยู่เสมอ การคัดสรรสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยความใส่ใจตลอดเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเตรียมความพร้อมต่อปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายรอบตัวลูกในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น ไวรัส หรือแบคทีเรียที่พบได้ในปัจจุบัน LPR โพรไบโอติก   ได้รับคำแนะนำระดับ Grade A สำหรับประโยชน์ในเรื่องของภูมิคุ้มกันจาก The consensus opinions from the 4th Triennial Yale/Harvard Workshop on Probiotics Recommendations (2015) ให้เป็นหนึ่งในจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ และกำลังได้รับความสนใจโดยเฉพาะในวงการผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทย และสมาคมผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ทั้งในยุโรป อเมริกา อเมริกาใต้ อีกทั้งยังมีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับมากที่สุด […]

“ดนตรี” ช่วยกระตุ้นความทรงจำผู้สูงวัยได้!

ดนตรี สามารถ กระตุ้นความจำ ของผู้สูงวัยได้นะ นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมของผู้สูงวัย ซึ่งผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และปัญหาหลักในผู้สูงอายุก็คือ ปัญหาด้านสุขภาพ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลง และเสื่อมถอยของระบบต่างๆ ของร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น การทำความเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและเสื่อมถอยนี้ เป็นพื้นฐานสำคัญใน การดูแลส่งเสริมสุขภาพ รวมทั้งป้องกันปัญหาสุขภาพที่จะเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ เพลงที่คุ้นเคย ช่วยกระตุ้นความทรงจำระยะยาว หลายคนคงคุ้นเคยเวลาได้ยินเพลงป๊อปที่ขึ้นชาร์จ ติดหู เหล่านี้ล้วนชวนให้นึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ หรือบางเพลงฟังแล้วเกิดแฟลชแบล็คขึ้นมาแบบอัตโนมัติ นั่นเพราะเพลงสามารถเชื่อมกับความทรงจำส่วนตัวของเราได้ และเมื่อเวลาผ่านไป ความทรงจำส่วนตัวเหล่านั้นก็กลายเป็นความทรงจำระยะยาว เมื่อเพลงสามารถเรียกภาพความทรงจำของผู้สูงอายุและกระตุ้นความทรงจำให้กลับคืนมา จึงเป็นเหมือนการพาผู้สูงวัยนั่งไทม์แมชชีนกลับไปชมนิทรรศการความทรงจำของเขาหรือเธอ ผ่านตัวแมชชีนที่ชื่อว่า “ดนตรี” ผลงานวิจัยระบุว่า หลังจากใช้ดนตรีบำบัดกับผู้สูงอายุ ผลปรากฏว่า ผู้สูงวัยที่ค่อนข้างเงียบหรือไม่ค่อยสื่อสาร สามารถเริ่มที่จะพูดหรือเริ่มเข้าสังคมได้มากขึ้น จากที่มีภาวะซึมเศร้าก็จะรู้สึกดีขึ้น ผู้ที่เคลื่อนไหวได้น้อยก็สามารถขยับตัวได้มากขึ้น ผู้ป่วยแต่ละคนมีการตอบสนองที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการเสื่อมของสมองในส่วนของการรับรู้ ทั้งนี้ทั้งนั้น นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่คนที่คุณรักจะสามารถสัมผัสความรู้สึกดีๆ ในชีวิตได้อีกครั้ง ที่มา : นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต

ทำความรู้จักกับ อนุมูลอิสระ ให้มากขึ้น

สารต้าน อนุมูลอิสระ (Antioxidant) คือ สารที่ช่วยชะลอการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิด อนุมูลอิสระ (Free Radical)  โดยจะแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ชนิดคือ Preventive antioxidant ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ Scavenging antioxidant ทำลายหรือยับยั้งอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น Chain breaking antioxidant ช่วยชะลอการเกิด “ออกซิเดชั่น” ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระนั่นเอง แล้วสารอนุมูลอิสระมาจากไหน ?  มันคือสารที่เกิดจากกระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกาย รวมถึงจากมลพิษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เช่น ฝุ่น ควันบุหรี่ ควันรถยนต์ โอโซน โลหะหนัก อนุมูลอิสระ ส่งผลเสียกับเราอย่างไร ? สำหรับตัวอนุมูลอิสระ จะเข้ามาทำลายโครงสร้าง และหน้าที่ของผนังเซลล์ ก่อเกิดความผิดปกติของเซลล์ ร่วมไปถึงเซลล์ต่างๆ ถูกทำลายจนเสื่อมสภาพ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น อย่างเห็นได้ชัดคือ ริ้วรอยที่มาก่อนวัย แก่ก่อนวัย ไปจนถึง เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือด และหัวใจขาดเลือด นอกจากนี้ยังส่งผมร้ายอื่นๆ ตามมาจากความเสื่อมของระบบเซลล์ […]

ทำอาหารให้ผู้สูงอายุอย่างไร ให้ปลอดภัย ?

รู้ไหมว่า การทำอาหารให้กลืนง่าย ดีต่อสุขภาพผู้สูงวัยมาก เพราะวิธีปรุงอาหารเล็กๆ น้อยๆ ช่วยลดอุปสรรคการเคี้ยวและกลืน จึงป้องกันการสำลัก ซึ่งเป็นสาเหตุของการกินอาหารได้น้อยและทำให้ขาดสารอาหาร โดยจะแบ่งเป็นการช่วยให้เคี้ยวง่ายขึ้น กับช่วยให้กลืนง่ายขึ้นดังนี้ ช่วยเคี้ยวง่ายขึ้น ข้าว 1.หุงข้าวให้นุ่มกว่าปกติ 2.ทำเป็นข้าวต้ม หรือข้าวเปียก เส้นต่างๆ / ขนมปัง 1.เส้นพาสต้าหรือก๋วยเตี๋ยวต้องหั่นให้สั้นลง 2.หลีกเลี่ยงเบเกอรี่เนื้อกรุงกรอบ 3.แช่ขนมปังในนมจนนุ่ม เพื่อทำให้เคี้ยวง่ายขึ้น เนื้อสัตว์ 1.เลือกเนื้อที่ติดมันเล็กน้อย เช่น สันนอกหมู หรือสะโพกไก่ 2.ตัดเอ็นออก ต้มให้นิ่ม 3.ปลาเนื้อไม่แข็ง เช่น ปลาตาเดียว ปลากะพง ปลานิล ผัก 1.ผักมีเส้นใยให้หั่นเป็นชิ้นสามเหลี่ยม หรือสี่เหลี่ยม หนา 5-8 มิลลิเมตร 2.ถ้าปรุงเป็นชิ้นใหญ่ให้บั้งเพื่อให้ความร้อนกระจายทั่วถึง 3.ต้มจนนิ่งเพื่อให้กลืนง่าย ช่วยกลืนง่ายขึ้น ข้าว 1.ข้าว ปั่นข้าวต้มให้เป็นเนื้อเนียนละเอียด เนื้อสัตว์ 1.ต้มจนนิ่ม (ใช้ตะเกียบหรือช้อนตัดขาด) 2.เลือกปลาเนื้อนิ่มมาต้มจนสุก ผัก 1.ต้มจนนิ่มแล้วทำเป็นน้ำราด เช่น ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า 2.ต้มจนเปื่อย […]

ปัญหา “ผมบาง ผมร่วง” รู้ก่อน แก้ไขได้ก่อน

หลายคนต้องเคยประสบกับปัญหา “ผมบาง ผมร่วง” กันบ้าง ไม่ใช่แค่ผู้ชายเท่านั้นผู้หญิงก็มีปัญหาผมบางได้เช่นกัน วันนี้เราจะมาให้ข้อมูลถึงสาเหตุ รู้สาเหตุจะได้หาทางรับมือและแก้ไขได้ตรงจุด ผมร่วง บอกอะไรเราได้บ้าง? ดร.พญ.พลินี รัตนศิริวิไล ผู้เชี่ยวชาญโรคเส้นผมและหนังศีรษะ โรงพยาบาล พญาไท 1 ได้กล่าวถึงภาวะผมร่วงและหนังศีรษะอ่อนแอ ว่า นอกจากจะมีผลกระทบต่อบุคลิก ทำให้ขาดความมั่นใจ และดูมีอายุเกินวัยแล้ว ยังอาจเป็นสัญญาณของความเจ็บป่วย หรือภาวะไม่สมดุลของสารอาหารและฮอร์โมนในร่างกายอีกด้วย ทั้งนี้ ภาวะผมร่วงสามารถพบได้ในวัยเด็ก วัยรุ่น จนถึงวัยผู้ใหญ่และวัยชรา ซึ่งปัจจุบันมีคนไทยจำนวนมากที่ต้องประสบปัญหาภาวะผมบาง หรือ ผมร่วง จนถึงขั้นศีรษะล้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ชายที่มีปัญหานี้ถึงกว่า 17 ล้านคน แต่อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้เรามีนวัตกรรมเพื่อช่วยในการวินิจฉัยและรักษาปัญหาดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป สาเหตุใด ทำไมจึงผมร่วง? สาเหตุของผมร่วงเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ “ภาวะผมร่วงตามพันธุกรรม” ซึ่งพบได้ทั้งในเพศชายและหญิง นอกจากนี้ยังมีภาวะอื่นๆ ที่ทําให้ผมร่วงได้อีก เช่น ฮอร์โมนไม่สมดุล ต่อมไทรอยด์ทํางานมากหรือน้อยกว่าปกติ ขาดสารอาหารบางอย่าง การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เกิดจากการทานยาบางชนิด การรักษาโรคมะเร็งด้วยเคมีบำบัด โรคเชื้อราบนหนังศีรษะ หรือเป็นผิวหนังอักเสบรุนแรง โรคผมร่วงเฉพาะจุด แพ้สารเคมีบางชนิด […]

ปรับสมดุลอย่างรื่นรมย์ กับชาธาตุเจ้าเรือน 

รู้หรือไม่ว่าร่างกายของเรานั้น ประกอบไปด้วยธาตุทั้งหมด 4 ธาตุ ซึ่งการแบ่งธาตุนี้จะเป็นไปตามทฤษฎีของการแพทย์แผนไทย มีชื่อเรียกว่า “ธาตุเจ้าเรือน” โดยแต่ละคนจะมีธาตุหลักประจำตัวเป็นของตัวเองกันทุกคน ว่ากันด้วยเรื่องของ “ธาตุเจ้าเรือน” จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไป ตามเดือนเกิดของบุคคลนั้น แต่ละธาตุจะมีบุคลิก ลักษณะนิสัย จุดอ่อน ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้การดูแลร่างกายมีความต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้นถ้าอยากให้ร่างกายมีความสมดุล การกินอาหารที่ตรงกับธาตุเจ้าเรือนของตน ก็มีส่วนช่วยเช่นกัน ธาตุเจ้าเรือนจะแบ่งได้ทั้งหมด 4 ธาตุ โดยแบ่งตามเดือนเกิดได้ดังนี้ ธาตุไฟ คือคนที่เกิดเดือน มกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม ลักษณะรูปร่างและนิสัย : เป็นคนขี้ร้อน ไม่ชอบที่อากาศร้อน ไม่ค่อยมีความอดทน ใจร้อน หิวบ่อย กินเก่ง ผมหงอกมาเร็วกว่ากำหนด มีผิวหนังย่น ผม ขน และหนวดจะมีลักษณะค่อนข้างนิ่ม มีกลิ่นปาก กลิ่นตัวแรง ควรรับประทานอาหารที่มีรสขม เย็น และจืด ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดร้อน  นอกจากนี้ยังแนะนำว่า ควรกินอะไรที่มีรสขม เย็น จืด เช่น มะระ มะเขือ […]

“8.88 Healthy Becomes Beauty” มิติใหม่ของการดูแลผิวหน้า เพื่อความงามอย่างครบองค์

เพราะความงามที่สวยสดใสเปล่งปลั่งอย่างธรรมชาติ เริ่มต้นจากการมีสุขภาพดี เปิดประสบการณ์ใหม่สุดล้ำค่า เมื่อ “น้ำแร่ไอซ์แลนด์ สปริง” (Iceland Spring) น้ำแร่ธรรมชาติ 100% จากประเทศไอซ์แลนด์ โดย คุณอรชุมา ดุรงค์เดช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอชทูโอ ไฮโดร จำกัด  ร่วมกับ ดีวานา ไทย เมด (Divana Thai Med) โดย คุณอภิรดี หิรัญรามเดช ผู้อำนวยการดีวานา ไทย เมด จัดงานเปิดตัวแคมเปญสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “8.88 Healthy Becomes Beauty” นำเสนอทรีทเม้นท์ “PM 2.5 Detox & O2 pH Balance” ตอบโจทย์ปัญหาผิวหน้า สะท้อนความงามจากภายในสู่ภายนอก ณ ดีวานา ไทย เมด ซอยสมคิด อรชุมา ดุรงค์เดช กรรมการผู้จัดการ […]

10 เรื่องไม่ลับของ “ประจำเดือน” ที่คุณอาจไม่เคยรู้

ผู้หญิงกับ ประจำเดือน เป็นของคู่กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถึงแม้ทุกคนจะมีประจำเดือน แต่ก็ยังมีข้อควรรู้อีกมากมายที่ต้องเรียนรู้ เพื่อการดูแลตัวเองและรู้จักสังเกตอาการของตัวเองค่ะ 1. ปกติผู้หญิงจะเริ่มมีประจำเดือนตอนอายุ 12 – 13 ปี แต่บางคนอาจมาเร็วกกว่านั้น เคยพบว่าเด็กอายุ 8 ปี ก็มีประจำเดือนแล้ว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้มีเร็วคือ โรคอ้วน   2. ระยะเวลาการมีประจำเดือนเฉลี่ยแล้วคือ 6 วันต่อรอบ แต่มีเพียง 4% ที่มีประจำเดือนน้อยกว่า 4 วัน และมีถึง 9 – 14% ที่มามากกว่า 7 วัน   3. แต่ก็มีผู้หญิงอีก 4% ที่มีประจำเดือนมากกว่า 8 วัน   4. การที่เรามีประจำเดือนครั้งละมากๆ และมาติดต่อกันหลายวัน อาจเป็นสาเหตุของโรคโลหิตจางได้ มีวิธีการเช็กคือ ให้สังเกตว่าตัวเองมีการเพลีย เหนื่อยง่าย และใจสั่นหรือไม่ 5. ผู้หญิงบางคนที่ไม่มีประจำเดือน จะส่งผลให้ร่างกายมีฮอร์โมนเอสโตเจนที่ต่ำ […]

ตะคริวกินตอนดึก เกิดจากสาเหตุอะไรนะ ?

เคยเป็นกันไหม เวลากลางคืนทีไรจะรู้สึกปวดขาเหมือนเป็น “ตะคริว” อยู่ตลอด แถมยังเป็นแค่ข้างเดียวด้วยนะ แต่ที่แปลกกว่านั้นพอเวลาตื่นขี้นมา อาการปวดก็หายไปในพริบตา เหมือนกับไม่เคยเกิดขึ้น ที่เป็นแบบนี้มันเป็นเพราะอะไร และเราเสี่ยงเป็นโรคอะไรกันแน่ ? สำหรับอาการที่เกิดขี้นนี้ อาจเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ได้ดังนี้ 1. หมอนรองกระดูกสันหลัง ตรงเวลาบริเวณเอวเคลื่อน เราจะรู้สึกปวดบริเวณสะโพก และปวดร้าวลงไปถึงขา เป็นการปวดแบบแปล๊บๆ ส่วนใหญ่จะมีอาการชาร่วมด้วย 2. ช่องไขสันหลังตีบแคบเล็กลง โรคนี้ปัจจัยหลักคือความเสื่อมของอายุ แต่อาจพบได้ในเด็กที่มีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด หรือพบในคนที่เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวข้องบริเวณหลัง ส่วนมากจะเกิดความปวดเวลานอน หรือเวลาแอ่นตัว แล้วอาการจะหายไป เมื่อนั่งพัก 3. อากาศที่หนาวจัด หรือเย็นเกินไป จากการนอนอยู่ในห้องแอร์ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการปวดขา หรือปวดเกร็งได้ บางคนอาจจะรู้สึกปวดน่อง เพราะเกิดจากเหน็บชาส่งผลให้น่องปูดขึ้นเป็นลูก ทำให้รู้สึกปวดขาได้ด้วย เบื้องต้นหากไม่อยากรู้สึกปวดขาตอนกลางคืน แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการใช้งานขาอย่างหนัก และใครที่มีอาการนี้แล้ว ควรงดการออกกำลังกาย การวิ่ง รวมถึงการใส่รองเท้าส้นสูงออกไปก่อนนะคะ ที่มา : Pobpad  

วิธีรับมือกับ “กรดไหลย้อน” ที่คอยตามกวนใจ

หลายคนเป็น “กรดไหลย้อน” เรื้อรัง นานๆ เข้า อาการเริ่มรุกหนัก แม้เวลานอนก็ไม่เว้น ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้อาการทุเลาเบาบางลงได้ 1. กินอาหารเย็นเร็วขึ้น การเข้านอนโดยที่ท้องอิ่มแปล้เป็นการเพิ่มความเสี่ยงของอาการกรดไหลย้อนควรกินอาหารเย็นอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนนอนเพื่อทําให้ท้องว่างก่อนเข้านอน 2. เดินผ่อนคลาย หลังอาหารให้เดินผ่อนคลายสบายๆ สักครู่ วิธีการนี้จะช่วยย่อยอาหารได้ดี ป้องกันอาการกรดไหลย้อนได้แต่ไม่แนะนําให้ออกกําลังกายก่อนนอน เพราะทําให้มีอาการกรดไหลย้อนได้ 3. จดบันทึกของแสลง อาหารแต่ละชนิดจะกระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อนในแต่ละคนแตกต่างกันไป ดังนั้นควรจดรายการอาหารเย็นของทุกวัน ถ้าพบว่ากินอาหารเย็นชนิดไหนแล้วมีอาการกรดไหลย้อนตอนกลางคืนบ่อยๆ ก็จะรู้ได้ว่าควรเลี่ยงอาหารชนิดนั้น 4. ใส่ชุดนอนแบบหลวมสบาย ระวังขอบกางเกงชุดนอนที่คับเกินไป เพราะชุดนอนที่คับจะทําให้เกิดแรงกดที่ท้องเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการกรดไหลย้อน 5. นอนตะแคงซ้าย นายแพทย์ชาร์ลส์ เอลสัน จากมหาวิทยาลัยแอละแบมา วิทยาเขตเบอร์มิงแฮม ประเทศสหรัฐอเมริกา ศึกษาพบว่านอนท่านี้ ช่วยจัดท่าทางให้กระเพาะอาหารอยู่ในท่าที่เหมาะสม ช่วยทําให้กรดในกระเพาะอาหารไม่ตีกลับขึ้นไปที่กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารตอนล่าง ข้อมูลจาก คอลัมน์เกร็ดสุขภาพ ชีวจิตมือโปร นิตยสารชีวจิต ฉบับ 336

กินเท่าไรก็ไม่อิ่ม อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้าย

กินเท่าไรก็ไม่อิ่ม กินได้เรื่อยๆ กินตลอดเวลา หรือบางครั้งกินทีครั้งละมากๆ (หมายถึงมากจนผิดปกติกว่าคนทั่วไป) แบบนี้อาจเข้าข่ายอาการผิดปกติ มาลองสังเกตกันว่าตัวเราหรือคนรอบข้างมีอาการแบบนี้บ้างไหม ? โรคที่เกิดขึ้นขึ้นมีชื่อเรียกว่า “Binge Eating Disorder” เป็นการที่เราสามารถกินอาหารหมดได้อย่างรวดเร็ว หรือกินในปริมาณมากๆ มากจนเกินคนทั่วไป อาจจะเกิดขึ้นได้เป็นบางช่วง ซึ่งเวลาที่เกิดขึ้นมักจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ สำหรับโรคนี้เป็นไปได้ว่า ได้รับการพัฒนามาจาก การที่เรากินอาหารตามอารมณ์มากเกินไป แต่จะมีความแตกต่างกันที่หากเป็นการกินตามอารมณ์จะมีเรื่องของ ความสุข ความเศร้า ความเครียดเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดขึ้น ทางการแพทย์ยังหาสาเหตุที่ชัดเจนไม่ได้อย่างชัดเจน แต่สันนิษฐานว่า เกิดจาก 3 อย่างนี้ – เคยลดน้ำหนักโดยใช้วิธีที่ผิดมาก่อน – มีปัญหาทางด้านครอบครัว ที่มีผลกระทบต่อจิตใจโดยตรง – ความเครียดสะสม   โรคนี้มักจะพบมากที่วัยรุ่นตอนปลาย ช่วงอายุ 23 ปี และมักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพราะมันพัฒนามาจากการกินที่ผิดปกติ การลดน้ำหนักที่ผิดวิธี ไม่ยอมกินอาหาร นานวันเข้ามันได้พัฒนากลับมาเป็นอีกขั้ว คือกินเท่าไรก็ไม่รู้จักพอ ลองเช็กอาการเบื้องต้นว่าเราหรือคนรอบตัวเข้าข่ายโรคนี้กันหรือยัง ? – ทุกครั้งที่เริ่มกินอาหาร รู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมปริมาณอาหารที่กินได้ – ถึงแม้จะไม่รู้สึกหิว […]

อยากกิน เพราะความหิว หรือแค่อารมณ์เบื่อ

การกินเพราะหิวกับกินตามอารมณ์ มักผสมปนเปจนบางทีก็แยกไม่ออก การปล่อยให้อารมณ์นำการกินมักทำให้ร่างกายได้รับพลังงานจากอาหารเกินกว่าความจำเป็น และส่งผลต่อน้ำหนักตัวได้ในที่สุด เราจึงมาชวนสังเกตพฤติกรรมการกินของตัวเอง ว่าที่กินๆ อยู่นี่เพราะหิวหรือเพราะแค่เบื่อ กินเพราะหิว คือความหิวจริงๆ ที่ร่างกายต้องการอาหารเพื่อแปลงเป็นพลังงาน ถ้าหิวและกินเพราะสาเหตุนี้จริงๆ จะรู้สึกได้ว่าท้องว่าง บางทีก็ท้องร้องครืดคราด จนรู้สึกหิว และถ้าไม่กิน อาจต้องเจอกับอาการระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ รู้สึกอ่อนแรง เหนื่อยล้า ไม่มีสมาธิ กินเพราะเบื่อ ความเบื่อเป็นหนึ่งในสาเหตุที่นำไปสู่ความหิวที่ไม่ได้มาจากร่างกายต้องการอาหาร เป็นเหมือนการกินอาหารตามอารมณ์ ยกตัวอย่างเช่น กินเพราะเครียด กล่าวเพิ่มเติมคือคนที่จมอยู่กับความเบื่อหน่ายมีแนวโน้มที่จะกินอาหารมากเกินไป หรือกินตามอารมณ์ได้สูง รวมไปถึงผู้ที่มีภาวะเครียดเรื้อรังจะกระตุ้นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกหิว นี่จึงเป็นคำอธิบายเมื่อเวลาระดับฮอร์โมนของเราเปลี่ยนแปลง น้ำหนักตัวเราอาจเพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมการกินที่เปลี่ยนไป จะสังเกตได้อย่างไรว่าหิวจริงๆ ความหิวจริงๆ (รวมไปถึงกระหายน้ำ) จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากความเบื่อและความอยากกินตามอารมณ์ สัญญาณแรกๆ มักมากับความรู้สึกหิวเบาๆ รู้สึกท้องว่าง และท้องร้อง (แต่สัญญาณเหล่านี้ก็จะแตกต่างไปในรายบุคคล) ส่วนความรู้สึกกระหายจริงๆ มักมาพร้อมกับอาการปากแห้ง ระคายคอ จนรู้สึกอยากดื่มเครื่องดื่มรวมไปถึงน้ำเปล่า ในทางกลับกัน ความรู้สึกกระหายแบบตามอารมณ์ เรามักมีเครื่องดื่มเฉพาะเจาะจงในใจอยู่แล้วว่าอยากดื่มอะไร เช่น ชานมไข่มุก น้ำอัดลม ดังนั้น เมื่อเกิดความรู้สึกหิว ให้สังเกตตัวเองตามนี้ – ตอนนี้รู้สึกอย่างไร -รู้สึกเบื่อ วิตกกังวล […]

5 ไลฟ์สไตล์ทำร้ายดวงตา

พฤติกรรมที่เราทำอยู่จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน บางครั้งมันก็ส่งผลร้ายโดยตรงต่อดวงตาของเรา โดยที่เราไม่รู้ตัว มาดูกันว่าอะไรบ้างที่เรามองข้ามไป ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก ส่งผลให้สมองและระบบประสาทเสื่อมง่าย ทำให้เส้นประสาทรอบดวงตาเสื่อมก่อนวัย   พฤติกรรมติดจอ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ หากมากเกินไป ทำให้เสียสายตาเกิดอาการอ่อนล้า นอกจากนี้ แสงสีฟ้า (Blue Light) จากจอก็ทำให้จอประสาทตาเสื่อมได้   กินยาต้านเครียด ซึมเศร้า และยาขับปัสสาวะ เพราะยากลุ่มนี้ส่งผลต่อการควบคุมกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อรอบดวงตา ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้า ระยะสายตายาวขึ้นเพราะสายตาโฟกัสได้ไม่ดี คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคตา เช่น โรคต้อหิน โรคต้อกระจก เป็นต้น   ใช้ตัวช่วยเพิ่มความสวยให้ดวงตา เช่น เทปกาวติดตาสองชั้น คอนเท็กต์เลนส์ โดยอุปกรณ์เหล่านี้เมื่อใช้เป็นระยะเวลานานจะส่งผลต่อการควบคุมกล้ามเนื้อรอบดวงตาทำให้เพ่งมากเกินไป การกะระยะผิดพลาด เพราะฉะนั้นหมอแนะนำว่าไม่ควรใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน (ข้อมูลจากคอลัมน์ Anti-Aging นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 509)

เคลียร์ให้ชัดกับเรื่อง “ฝังเข็ม” ที่ควรรู้

“การฝังเข็ม” (Acupuncture)  เป็นหัตถการทางการแพทย์ของการแพทย์แผนจีนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมานานนับพันปีแล้ว  โดยใช้เข็มปักตามตำแหน่งจุดเฉพาะต่างๆ ของร่างกาย  เพื่อปรับสมดุลร่างกาย ให้อวัยวะและระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายกลับทำงานได้เป็นปกติ ปัจจุบันองค์การอนามัยโลก (WHO)  รับรองว่าการฝังเข็มเป็นวิธีที่สามารถรักษาโรคและได้ผลเป็นที่น่าพอใจ    “การฝังเข็ม” มีมาตั้งแต่ยุคหิน จากหลักฐานทางโบราณคดียุคหินใหม่ ซึ่งขุดพบเข็มที่ฝนมาจากแท่งหิน รูปร่างต่าง ๆ เช่น เข็มกลม เข็มสามเหลี่ยม และเข็มรูปร่างคล้ายมีดสั้น แสดงให้เห็นว่า มีการฝังเข็มมาเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า  4 พันปีมาแล้ว สันนิษฐานว่า การนำเข็มมาใช้รักษาโรค คงจะเกิดจากการสังเกตว่า ในยามเจ็บป่วยนั้นเมื่อกดนวด หรือใช้วัตถุแข็ง เช่น หิน กระดูก กิ่งไม้ กดแทงลงบนอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายที่รู้สึกเจ็บปวด หรือไม่สบาย แล้วทำให้อาการเจ็บป่วยนั้นทุเลาลงได้   หลักฐานอีกเรื่องที่ยืนยันว่าการฝังเข็มมีมานานหลายพันปี คือการค้นพบ “Otzi”  ซากศพมนุษย์ยุคปลายหินอายุกว่า 5,000 ปี  ซึ่งกลายเป็นมัมมีตามธรรมชาติเนื่องจากถูกรักษาไว้อย่างสมบูรณ์โดยธารน้ำแข็ง  เรื่องที่น่าสนใจสำหรับการแพทย์คือ  Otzi มีรูปรอยสักตามรอยเส้นลมปราณ(Meridian)บนร่างกายหลายจุด ทั้งรูปกางเขนด้านในเข่าซ้าย หกเส้นคู่ขนานเรียงเป็นแถวสองแถวบนหลังยาวประมาณ 6 นิ้ว […]

ชวน ฟิน กิน Thai SELECT สิทธิพิเศษจาก KTC

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KTC ส่งเสริมโอกาสทางการตลาดให้กับร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT และสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคได้รู้จัก และได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารไทย จากร้านที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมมอบโปรโมชั่น ส่วนลด และสิทธิพิเศษต่าง ๆ แก่ลูกค้า ภายใต้แคมเปญ “ชวน ฟิน กิน Thai SELECT” สนับสนุนสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิต KTC รับส่วนลดสูงสุด 10% หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมายเมื่อใช้บริการที่ร้านอาหารตราสัญลักษณ์ Thai SELECT อีกทั้งยังสามารถแลกรับเครดิตเงินคืน 10% เมื่อใช้คะแนน KTC FOREVER เท่ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร/เซลส์สลิปมากไปกว่านั้น! ต่อที่ 1 ยังสามารถรับส่วนลดสูงสุด 10% หรือสิทธิพิเศษอื่นๆ และต่อที่ 2 หากทำการลงทะเบียน ยังสามารถแลกรับเครดิตเงินคืนได้ถึง 10% อีกด้วย อย่ารอช้า ! […]

รากบัวที่เราคุ้นเคย กับประโยชน์ที่ไม่เคยรู้

“รากบัว” สมุนไพรที่เราคุ้นหน้าคุ้นตา เอามาทำน้ำดื่มก็ได้รสละมุน เอามาทำอาหารก็อร่อย แต่สิ่งที่มาควบคู่กับรสชาติดีๆ ก็คือสรรพคุณมากมายที่มีประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพ และความงาม   ช่วยระบบย่อยอาหาร ในรากบัวมีกากใยสูง ที่แน่ๆ จึงคือทำให้อิ่มท้องและยังช่วยในการย่อยอาหาร รวมถึงทำให้ท้องไม่ผูก จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาท้องผูกไม่ขับถ่าย   ควบคุมความดันโลหิต รากบัวมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยร่างกายขับน้ำและโซเดียมออก นอกจากนั้นยังลดการหดเกร็งของเส้นเลือด จึงทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น รวมถึงยังอุดมด้วยธาตุเหล็กที่ทำให้เลือดไหลเวียนได้คล่องตัวมากขึ้น   ลดความเครียด รากบัวมีวิตามินบีสูง จึงช่วยให้สมองลดความเครียด ความหงุดหงิด รวมถึงอาการปวดหัวด้วย   ลดการบวมน้ำ โพแทสเซียมในรากบัวไม่เพียงช่วยในเรื่องควบคุมความดันโลหิต แต่เพราะการขับโซเดียมและน้ำออกจากร่างกายก็ยังช่วยลดอาการบวมน้ำได้ ทำให้ไตไม่ต้องทำงานหนัก   สำหรับเมนูแนะนำของรากบัวก็มีมากมายเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรากบัวกรอบ ที่เพียงแค่นำไปลวก แล้วแช่น้ำเย็น หรือจะต้มกับพุทราจีนปรุงด้วยน้ำตาลนิดๆ ก็อร่อยและมากคุณค่าเลยล่ะค่ะ   ทั้งนี้แพทย์หญิงศรันยา สาครินทร์ แพทย์แผนปัจจุบันจากโรงบาลรามาธิบดี ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและโรคภัยจากทั้งศาสตร์ตะวันออกและตะวันตก แนะนำว่าควรกินรากบัววันละ 6 – 12 กรัม หรือ ประมาณ 2 – 3 ชิ้นต่อวันค่ะ […]

ไม่ส่องไม่รู้ พยาธิในช่องคลอด มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า !!

พยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งคนที่เป็นจะไม่แสดงอาการใดๆ จะมีเพียงแค่ 30% เท่านั้นที่มีอาการบ่งชี้ว่าเป็น และผู้ป่วยบางรายแสดงอาการภายใน 5 – 28 วันหลังจากติดเชื้อ โดยอาการที่แสดงมีดังนี้ มีตกขาวเป็นสีเหลือง สีเขียว หรือสีเทา รู้สึกคันบริเวณช่องคลอด แดงและแสบภายในช่องคลอด หรือบริเวณส่วนช่องคลอด ช่องคลอดส่งกลิ่นเหม็น เวลาปัสสาวะรู้สึกแสบ หรือระคาย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงของโรคนี้ ติดต่อได้ง่ายผ่านทางเพศสัมพันธ์ และบางครั้งเพียงแค่สัมผัสอวัยวะเพศก็สามารถติดต่อได้ และคนที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีประวัติเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นๆ มาก่อน รวมถึงคนที่เคยมีประวัติได้การเป็นโรคพยาธิในช่องคลอดมาด้วย นอกจากนี้คู่รักที่มีความสัมพันธ์แบบหญิง – หญิง ก็สามารถเสี่ยงเกิดโรคติดต่อนี้ได้เช่นกัน เราสามารถป้องกันได้โดยวิธี ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย และควรตรวจร่างกายทั้งตัวเองและคู่นอนอย่างสม่ำเสมอ และไม่ลืมที่จะสวมถุงยางอนามัย   ที่มา : โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์  

ไลโคปีน ที่เราได้ยินกันมา ความจริงแล้วมันคืออะไร ?

ไลโคปีน (Lycopene) คือสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหนึ่งของแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) เป็นสารอาหารชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรา และไม่ได้มีดีแค่บำรุงผิวพรรณเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบได้ในผักผลไม้ชนิดอื่นๆ นอกจากมะเขือเทศอีกด้วย ประโยชน์ของไลโคปีน ที่เราส่วนใหญ่มักรู้กัน คือช่วยเรื่องผิวพรรณดูแลผิวให้แข็งแรง แถมยังช่วยลดปัญหาผิวไวต่อแดดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และยังมีงานศึกษาวิจัยจากกลุ่มคนที่มีอาการเผาผลาญผิดปกติ ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดความดันและไขมันในเลือดสูง พบว่าสารสีแดงมีส่วนช่วยปรับสมดุลของสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะฉะนั้นคนที่เป็นความดันและไขมัน การกินอาหารที่มีไลโคปีนจะสามารถช่วยได้   โดยไลโคปีน ส่วนมากจะพบในผักผลไม้ที่มีสีแดง อย่าง มะเขือเทศ แตงโม มะละกอ และฟักข้าว ซึ่งในแต่ละวัน   เราควรรับไลโคปีน 9 – 21 มิลลิกรัมต่อวัน    

keyboard_arrow_up