Dipped Banana ขนมหวานทำง่าย อร่อยสไตล์สายคลีน

กล้วยหอม เป็นผลไม้ที่นิยมมาก ด้วยกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นแหล่งพลังงานชั้นดี อีกทั้งอุดมไปด้วยประโยชน์มากมายเลยทีเดียว

รู้หรือไม่ “กล้วยหอม” เป็นผลไม้ที่ประกอบไปด้วยน้ำตาลธรรมชาติ 3 ชนิด คือ ซูโครส ฟรุกโตส และกลูโคส อีกทั้งยังมีเส้นใยอาหาร รวมทั้งวิตามิน และเกลือแร่ต่าง ๆ อีกหลายชนิด

คุณค่าทางโภชนาการของกล้วยหอม

กล้วยหอม 1 ลูก ไม่รวมเปลือก (100 กรัม) ให้คุณค่าทางโภชนาการดังนี้

พลังงาน	132	กิโลแคลอรี
น้ำ	66.3	กรัม
โปรตีน	0.9	กรัม
ไขมัน	0.2	กรัม
คาร์โบไฮเดรต	31.7	กรัม
ไฟเบอร์	1.9	กรัม
ซัลเฟต	0.9	กรัม
แคลเซียม	26	มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส	46	มิลลิกรัม
เหล็ก	0.8	มิลลิกรัม
เบต้า-แคโรทีน	99	ไมโครกรัม
วิตามินเอ	17	ไมโครกรัม
วิตามินบี1	0.04	มิลลิกรัม
วิตามินบี2	0.07	มิลลิกรัม
ไนอะซีน	0.1	มิลลิกรัม
วิตามินซี	27	มิลลิกรัม

🍌ประโยชน์ของกล้วยหอม มีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ

ช่วยผ่อนคลายจากความเครียด เพราะอุดมไปด้วยสารโพแทสเซียม และวิตามินมากมาย ซึ่งสารอาหารเหล่านี้จะช่วยลดความดันเลือด ให้สามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติ นั่นเอง
แก้อาการท้องผูก เพียงแค่รับประทานกล้วยหอม วันละ 1 ลูก เป็นประจำทุกวันเท่านั้น เพราะกล้วยหอมอุดมไปด้วยไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ซึ่งส่งผลดีต่อระบบขับถ่าย
บำรุงสายตา เพราะอุดมไปด้วยวิตามินเอ และสารเบต้าแคโรทีน สารทั้งสองชนิดนี้ล้วนเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อดวงตาอย่างมาก
บำรุงหัวใจ ช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระ กล้วยหอมเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระได้ดี เพราะอุดมด้วยวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับหลอดเลือด และช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิด
แก้อาการนอนไม่หลับ กล้วยหอมเป็นตัวช่วยที่ดีและปลอดภัยกว่า เนื่องจากอุดมไปด้วยกรดอะมิโนและทริปโตเฟน สารอาหารเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนประกอบของการสร้างเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยทำให้ร่างกายหลับได้ง่ายขึ้น
ช่วยลดน้ำหนักเนื่องจากมีวิตามินบี1 และวิตามินบี2 ที่คอยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมันในร่างกาย ที่สำคัญยังมีสารอาหารสำคัญอย่างคาร์โบไฮเดรตและไฟเบอร์ชนิดที่ละลายน้ำได้ ซึ่งไฟเบอร์จะทำการดูดซับน้ำทำให้เกิดการพองตัว ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ด้วยเหตุนี้การรับประทานกล้วยหอมจึงช่วยลดน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น
ป้องกันกระดูกเปราะ ด้วยมีปริมาณของฟอสฟอรัสสูง เป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก บวกกับแคลเซียมที่อุดมอยู่ในกล้วยหอมก็มีหน้าที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกระดูกตามส่วนต่าง ๆ ในร่างกายได้เป็นอย่างดี

ข้อควรระวัง

กล้วยหอมมีฤทธิ์เย็น จึงไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดปัญหากับระบบการย่อย ท้องอืด และในคนที่มีปัญหาม้ามพร่อง ก็อาจมีอาการรุนแรงมากกว่าเดิม
ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรรับประทานให้หลากหลาย สลับกับผลไม้อื่น ๆ
ไม่ควรรับประทานในขณะที่กำลังหิวจัด เพราะจะไปสร้างแก๊สในกระเพาะอาหารอย่างรวดเร็ว ทำให้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายทำงานติดขัด
แม้ว่ากล้วยหอมจะถือเป็นผลไม้ลดน้ำหนัก แต่ก็ควรรับประทานให้ถูกช่วงเวลา คือ ช่วงมื้อเช้า หรือมื้ออาหารว่าง โดยอาจผสมกับโยเกิร์ตและผลไม้อื่น ๆ ซึ่งไม่ควรรับประทานเพื่อลดน้ำหนักในปริมาณมาก เพราะน้ำตาลที่มีในกล้วยอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมได้

ข้อมูลจาก