พริกตุ้ม
อีกหนึ่งวัตถุดิบที่หาได้ยาก! เป็นพืชพื้นบ้านทรงคุณค่าของจังหวัด “ระยอง” แต่บอกได้เลยว่า…คนนอกพื้นที่อย่างเราๆคงไม่รู้จักเจ้าพริกชนิดนี้เป็นแน่ และวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเจ้าพริกหน้าตาแปลกนี้กัน มาดูกันเลย^^
พริกตุ้มคืออะไร?
ลักษณะของเจ้าพริกชนิดนี้ คือจะแตกต่างจากพริกทั่วไปโดยสิ้นเชิง เพราะเป็นลูกกลมๆ คล้ายมะเขือพวง หรือมะเขือเทศลูกเล็กๆ ลำต้นสูง 1-2 เมตร ให้ผลถึง 1.5 กิโลกรัม มีสีที่ค่อนข้างโดดเด่น มีอายุเหมือนพริกขี้หนูทั่วไป 3 ปี ไม่เกิน 4 ปี
หลายๆคนอาจสงสัยใช่ไหมล่ะ! ว่ารสชาติของเจ้าพริกชนิดเป็นอย่างไร?
ถึงลักษณะหน้าตาของมันอาจจะดู….เผ็ดไม่เบา แต่ความจริงแล้วมีรสชาติเผ็ดน้อย เมื่อกินไปแล้วจะคล้ายกับมะเขือพวง กัดลงไปจะรู้สึกกรอบแน่นเผ็ดปลายลิ้น หายเผ็ดได้เร็ว มีกลิ่นหอม ๆ คล้ายกับพริกหยวก
ราคาล่ะ! แพงไหมอยากหาซื้อมากินบ้างจัง!
ถือได้ว่าเป็นพริกที่มีราคาขายค่อนข้างสูง เพราะพริกตุ้มมีน้ำหนักดีกว่าพริกขี้หนู และมีเมล็ดเยอะ เมื่อเทียบดูแล้วพริกตุ้ม 100 ผล น้ำหนัก 1 กิโลกรัม เชียวนะ!
แล้วในช่วงเก็บเกี่ยว มีราคาขายสูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งต่างกับพริกขี้หนู ที่มีราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 100-120 บาท โอ้โห!
อร่อยมากประโยชน์เพียบ!
เมื่อพูดถึงสรรพคุณก็จะไม่ต่างจากพริกขี้หนูทั่วๆไป ซึ่งช่วยในเรื่องของการขับลมได้ดี ช่วยในเรื่องไขข้อ กระดูก ช่วยเรื่องระบบไหลเวียนของโลหิต เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่มีมาแต่โบราณ
ปลาดอร์ลี่
ปลาดอรีที่เรารับประทานกัน แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ “แพนกาเซียสดอร์รี่” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pangasius ซึ่งเป็นตระกูลเดียวกับปลาสวาย โดยปลาดอรีพันธุ์แพนกาเซียสนั้นที่เราบริโภคกันนั้น หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเหมือนปลาสวายในบ้านเรา แต่ที่จริงแล้วเนื้อปลาดอร์รี่ที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศเวียดนาม และยังมีความแตกต่างในด้านคุณภาพของเนื้อปลา ด้วยวิธีการเลี้ยง สภาพแวดล้อม ตลอดจนอาหารที่ใช้ ส่งผลให้ลักษณะของเนื้อปลามี สีสัน และกลิ่นที่แตกต่างจากปลาสวายในไทยค่ะ ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพและคุณค่าทางสารอาหารเลย ส่วนอีกหนึ่งสายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ “ปลาดอร์รี่” (John Dory) ชื่อตามวิทยาศาสตร์ คือ Zenopsis Conchifera ซึ่งจะอาศัยอยู่แถบมหาสมุทรแอตแลนติก แถบเมดิเตอร์เรเนียน โดยเนื้อปลาจะมีสีขาว เนื้อค่อนข้างแน่น ไม่มีไขมันแทรก แต่ด้วยความที่เป็นปลาหายากจึงทำให้มีราคาสูง
ปลาดอร์รี่ อร่อยดีมีประโยชน์
ปลาดอร์รี่มีคุณค่าทางสารอาหารที่หลากหลาย เพราะอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็น (Essential Amino Acids) ครบถ้วน และยังมีกรดไขมันจำเป็น โอเมก้า-3 วิตามินบี 2 ซึ่งร่างกายสามารถนำไปใช้ในการเผาผลาญโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต มีวิตามินที่กระดูกจำเป็นต้องใช้ในการสะสมแคลเซียม นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วย ฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก สังกะสี ไอโอดีน และแมกซีเซียม
เลือกซื้อปลาดอร์รี่ ดูอย่างไร?
ส่วนใหญ่แล้วปลาดอร์รี่มักจะวางขายในรูปแบบของชิ้นเนื้อที่แล่มาแล้วแบบสำเร็จรูป วิธีการดูง่าย ๆ คือให้ดูชิ้นที่มีกล้ามเนื้อของปลาสีขาวนุ่ม ความมันน้อย ไม่มีกลิ่นคาว
ขอบคุณข้อมูลจาก
Based on 18 Review(s)
