ชีวิตที่เชื่อมั่นในความดี ของ ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด (ตอนที่ 1)

ชีวิตที่เชื่อมั่นในความดี ของ ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด (ตอนที่ 1)

ทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าของ ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด  เราจะได้เห็นรอยยิ้มพร้อมเสียงหัวเราะของเธอเสมอ

ตัวจริงของเธอก็ไม่แตกต่างกัน ระหว่างพูดคุยเธอสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ทีมงานได้ตลอด แน่นอนว่าบางช่วงตอนในชีวิต แม้ต้องพบกับความทุกข์ แต่เธอก็รับมือและให้กำลังใจตัวเองจนก้าวผ่านมาได้ โดยมีสิ่งสำคัญที่เธอยึดถือและเชื่อมั่นมาโดยตลอดคือ “ความดี” 

เรื่องราวชีวิตของนักร้องและนักแสดงอารมณ์ดีคนนี้ยังมีอีกหลากหลายมุมที่คุณอาจยังไม่รู้

ชีวิตของเด็กหญิงผู้รักการร้องเพลง

ตั๊กเกิดและเติบโตที่จังหวัดนครสวรรค์ ชีวิตผูกพันอยู่กับตายาย ที่ต้องมาอยู่กับท่านเพราะแม่ต้องทำงานหาเลี้ยงลูกเพียงลำพัง เพราะพ่อแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันตั้งแต่ตั๊กเกิด

แม่เล่าว่าพ่อเป็นคนเจ้าชู้มาก พอแม่คลอดตั๊ก พ่อก็มีแฟนใหม่ แม้แม่จะอุ้มลูกไปตามง้อขอให้พ่อกลับมาอยู่ด้วยกันแต่พ่อก็ไม่ยอม พอโตขึ้นมาหน่อย แม่เคยพาตั๊กไปหาพ่ออีกครั้ง แต่พ่อไม่สนใจ ไม่เข้ามากอดมาอุ้ม แม้ตอนนั้นจะเด็กอยู่ แต่เรารู้ทุกอย่างและยังจำเหตุการณ์นั้นได้มาถึงทุกวันนี้

ส่วนครอบครัวตายายไม่ได้ร่ำรวยอะไร ตั๊กเห็นยายทำงานตลอด จึงช่วยท่านทำงานมาตั้งแต่เด็ก เวลายายไปขายขนมตามงานวัด ตั๊กก็ช่วยเข็นรถไปให้ ไปแต่ละงานก็อยู่ปักหลักกินนอนในวัดกันหลายวันจนงานจบ พอโตขึ้นมาหน่อยก็เข้ามาซื้อเสื้อผ้าเก่าจากโบ๊เบ๊ แล้วนำมาซักมือให้สะอาดและรีดก่อนนำไปขายต่อ

ตั๊กสนุกกับการทำงานมาก ไม่เคยคิดสักครั้งเลยว่าชีวิตตัวเองลำบาก จะมีแค่อยากกินอะไรแล้วไม่ได้กินเหมือนคนอื่นเขา ทำได้แค่ยืนมองแล้วคิดในใจว่า หนูอยากกินแต่ไม่มีตังค์ซื้อ เท่านั้นเองจริง ๆ

อีกเรื่องหนึ่งที่ตั๊กรักและชอบมากคือการร้องเพลงตั้งแต่จำความได้ ตั๊กก็ชอบร้องรำทำเพลงแล้ว เวลาไปดูหนังดูลิเก ยายก็หิ้วพาไปด้วยตลอด ชีวิตจึงไม่เคยขาดเรื่องบันเทิง พอที่บ้านรู้ว่าชอบด้านนี้ก็ส่งเสริมให้ร้องให้เต้นให้ดูในหมู่ญาติพี่น้อง

ตอนนั้นที่บ้านมีวิทยุเก่า ๆ หนึ่งเครื่อง ตั๊กก็เปิดเพลงและฝึกร้องตามเสมอ โชคดีที่ว่าในยุคนั้นเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุงสตริง สากลเป็นที่นิยมหมดทุกแนว ตั๊กจึงได้ฟังเพลงหลากหลายและร้องได้หมด พรสวรรค์ของเราโดดเด่นมากจึงได้เป็นตัวแทนห้องไปประกวดร้องเพลงและเต้นรำเสมอส่วนเรื่องเรียนตั๊กเป็นเด็กเรียนดีมาตลอด แต่น่าเสียดายที่พอขึ้นมัธยมก็เริ่มติดเพื่อน ติดคุย ติดเล่น ไม่ตั้งใจเรียนไม่ทำการบ้าน ทำให้การเรียนตก เรียนจบเพียง ม.3 และไม่ยอมเรียนต่อ

ตั๊กกลับมาช่วยยายขายของและเรียน กศน.ไปด้วยโชคดีที่แม่รู้ว่าตั๊กชอบร้องเพลง และท่านก็รู้จักคนเยอะวันหนึ่งแม่ถามว่า อยากไปร้องเพลงไหม ตั๊กตอบตกลงทันที แม่จึงพาไปร้องเพลงที่คอฟฟี่ช็อปของเพื่อน ตั๊กจึงได้เริ่มอาชีพนักร้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ตอนกลางวันก็เรียน กศน.ตกกลางคืนก็ไปทำงาน เวลานั้นแม่ก็ตามไปดูที่ร้านตลอดเพราะเป็นห่วง เงินเดือนที่ได้มาตั๊กก็ให้แม่ให้ยายทั้งหมด

แจ้งเกิดเพราะประกวดร้องเพลง

ตั๊กร้องเพลงตามร้านอาหารจนถึงอายุ 17 วันหนึ่งก็เห็นคนมุงดูทีวีกันเป็นกลุ่มใหญ่ ด้วยความอยากรู้ว่าเขาดูอะไรกัน ก็แหวกเข้าไปขอดูด้วย จึงได้เห็นว่าเป็นรายการประกวดร้องเพลงของสยามกลการซึ่งจัดที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในใจคิดว่า ทำไมยิ่งใหญ่อย่างนี้นะ ตั๊กรู้สึกว่าการประกวดนี้ดูขลังและอลังการมาก ดูไปก็ขนลุกไปแต่ในใจก็ตั้งมั่นว่า

“ฉันจะต้องไปประกวดเวทีนี้ให้ได้” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยประกวดร้องเพลงที่ไหนมาก่อน เรียกว่าไม่เคยคิดที่จะแข่งกับใครเลยด้วยซ้ำ แต่พอตั้งใจแล้วก็ได้ไปประกวดเวทีนี้จริง ๆ

ตอนไปประกวดเหนื่อยมาก เพราะอยู่นครสวรรค์ต้องนั่งรถทัวร์เข้ากรุงเทพฯกับแม่ และต้องไปกันหลายรอบเพราะผ่านเข้ารอบมาเรื่อย ๆ สุดท้ายก็ผ่านเข้ารอบสิบคนสุดท้าย ตั๊กไม่คิดเลยว่าจะเข้ารอบลึกขนาดนี้ เพราะเราก็เป็นแค่เด็กบ้านนอกคนหนึ่ง เวลานั้นคิดเพียงว่า ฉันเป็นตัวแทนของจังหวัดนครสวรรค์ ฉันต้องสู้สุดใจ ไม่ว่าใครจะเก่งแค่ไหนตั๊กก็ไม่กลัว และสุดท้ายก็ได้ตำแหน่งนักร้องดีเด่นมา

พอได้ตำแหน่งชีวิตก็ดีขึ้นทันที เพราะ คุณหญิงพรทิพย์ณรงค์เดช เจ้าของสยามกลการ ท่านดูแลเป็นอย่างดีทั้งส่งไปเรียนร้องเพลงกับ อาจารย์ดุษฎี พนมยงค์ และดูแลงานให้ ตั๊กจึงมีโอกาสได้ไปเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร้องเพลงในงานที่ฮ่องกงด้วย เป็นการนั่งเครื่องบินและไปต่างประเทศเป็นครั้งแรก ตั๊กตื่นเต้นมาก แต่แม่เห่อยิ่งกว่าไปแค่สามวัน แม่มาส่งและคล้องพวงมาลัยให้ถึงสนามบิน

หลังจากนั้นก็มีค่ายเพลงหลายแห่งเข้ามาคุยมาติดต่อเหมือนมาให้ความหวัง แต่สุดท้ายก็เงียบหายกันไปหมดตั๊กรอจนท้อใจ จึงบอกแม่ว่า

“แม่ หนูไม่อยากอยู่กรุงเทพฯแล้ว หนูท้อ หนูคงไม่ได้เป็นนักร้องออกอัลบั้มแน่ ๆ หนูอยากกลับไปอยู่บ้านแล้ว”

แม่ก็ตามใจ ให้เตรียมตัวกลับนครสวรรค์ ระหว่างนั้นก็พอดี พี่แจ้ – ดนุพล แก้วกาญจน์ มาแอบดูตั๊กร้องเพลงตามคำบอกปากต่อปากกันว่ามีนักร้องเสียงดีร้องเพลงที่นี่พอแกฟังเสียงแล้วก็ปิ๊งเลย เรียกตั๊กไปคุยและเซ็นสัญญาออกเทปทันที ตั๊กดีใจมาก ร้องไห้กอดกันกับแม่ และอยู่สู้ทำเพลงมาด้วยกัน

ชีวิตมีขึ้นลง

วันแรกที่อัลบั้มเพลงของ “ตั๊ก ลีลา” วางแผงคือวันที่เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ วันนั้นตั๊กนอนก่ายหน้าผากเลยค่ะ ได้แต่คิดว่า ทำไมชีวิตเราต้องเป็นแบบนี้นะ ช่วงนั้นติดเคอร์ฟิว ตั๊กรับงานไม่ได้เลยได้แต่นั่งแกร่ว นั่งเซ็งอยู่ที่บ้าน ใจก็สงสารพี่แจ้มาก เพราะเขาลงทุนให้เรา แต่น่าแปลกมาก ที่สุดท้ายแล้วเทปของตั๊กขายได้เป็นล้านตลับ ไม่น่าเชื่อว่าเหตุบ้านการเมืองหนักขนาดนี้ แต่เทปเรากลับขายได้ดีมาก จนพี่แจ้ตะลึงทุกคนตะลึงกันหมด

หลังจากตั๊ก ลีลา แจ้งเกิดล้านตลับ กระแสก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ เทปชุดต่อมาก็ขายดีมาก มีงานเข้ามาตลอด เรียกว่าในประเทศไทยไม่มีจังหวัดไหนที่ตั๊ก ลีลา ไม่เคยไปโชว์ตัว แล้วก็ดังอย่างนี้หลายปี เพราะในยุคนั้นนักร้องไม่เยอะเหมือนสมัยนี้ ประกอบกับตั๊กร้องแนวที่ไม่เหมือนใคร น้ำเสียงก็มีเอกลักษณ์ ตรงนี้ต้องขอชื่นชมพี่แจ้ เขาเป็นคนปั้นเราให้มีจุดขายและโดดเด่นไม่เหมือนใคร

พอถึงยุคหนึ่งกระแสความดังของตั๊ก ลีลา ก็ค่อย ๆลดลง พี่แจ้เริ่มปั้นคนอื่นด้วย แกคงอยากปั้นนักร้องไว้ประดับวงการหลายคน จึงต้องใช้เงินทุนเยอะ แต่สุดท้ายกลับไม่ประสบความสำเร็จนัก จนวันหนึ่งพี่แจ้ต้องปิดค่ายเพลงไป แล้วพาตั๊กไปฝากไว้กับค่ายมีเดีย ออฟมีเดียส์ แต่อยู่ได้สักพักค่ายเพลงนี้ก็ยุบอีก

แม้ไม่มีกระแสจากการออกอั้ลบั้มเพลง แต่เวลานั้นตั๊กเป็นที่รู้จักแล้ว จึงมีงานโชว์ตัวและงานร้องเพลงทุกวันการที่เรามีงานตลอดทำให้ใช้ชีวิตประมาท ซื้อบ้าน รถคอนโด แต่ใช้ระบบผ่อนทั้งหมด ไหนจะบัตรเครดิตอีกหลายใบที่ใช้จับจ่ายซื้อของตลอด ตั๊กไม่เคยคาดคิดเลยว่าการใช้ชีวิตเช่นนี้จะนำมาซึ่งความทุกข์ใจในอนาคต

คลิกลิ้งค์ด้านล่างเพื่ออ่านเรื่องราวชีวิตของพี่ตั๊กต่อ >>>

ชีวิตที่เชื่อมั่นในความดี ของ ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด (ตอนที่ 2)

ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด กับ ชีวิตที่เชื่อมั่นในความดี (ตอนจบ)

นิตยสาร Secret คอลัมน์  This is Life

เรื่อง ศิริพร อยู่ยอด เรียบเรียง เชิญพร คงมา 

ภาพ สรยุทธ พุ่มภักดี สไตลิสต์ ณัฏฐิตา เกษตระชนม์

แต่งหน้า วงศธร ศิริพรเทพ ทำผม ศรัณยพัชร์ มาลากุล ณ อยุธยา

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.