ธีรภัทร์ สัจจกุล

ชีวิตบนกระดานโต้คลื่นของ ตุ้ย - ธีรภัทร์  สัจจกุล

ชีวิตบนกระดานโต้คลื่นของ ตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล

เป็นเรื่องธรรมดาที่มนุษย์ทุกคนต้องอยากมีชีวิตที่มีความสุขและราบรื่นแต่สำหรับ ตุ้ย ธีรภัทร์  สัจจกุล ไม่คิดเช่นนั้น  เพราะเขามองว่านิยามความสุขคือการใช้ชีวิตอยู่บนความตื่นเต้น  ท้าทายในทุกลมหายใจ  ซึ่งเป็นเครื่องการันตีว่าผู้ชายคนนี้มีแนวคิดการใช้ชีวิตที่ “น่าค้นหาและไม่ธรรมดา” จริงๆ

คุณตุ้ยใช้การลองผิดลองถูกในการดำเนินชีวิตหรือเปล่าคะ

ผมจะใช้คำว่า “Pushing the limits”ในการดำเนินชีวิตมาโดยตลอด  คืออย่าอยู่แต่ในคอมฟอร์ทโซน  แต่ต้องกล้าลุยออกไป  เพื่อค้นหาศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองเหมือนการยกน้ำหนัก  ถ้าเรายกเท่านี้ได้แล้วลองยกมากกว่านี้สัก 5 - 10 กิโลกรัมดูว่าจะยกไหวไหม  ถ้าไหว  นั่นคือบทพิสูจน์ว่าเราทำได้

ผมมองว่ากล้ามเนื้อกับจิตใจเหมือนกัน  การออกกำลังกายแบบฝืนแรงต้านอย่างการยกน้ำหนักช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นจิตใจก็เช่นกัน  ถ้าเราอดทนต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ อย่างไม่ยอมแพ้  จิตใจของเราก็จะแข็งแกร่งขึ้นและสามารถรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่ประเดประดังเข้ามาได้อย่างสบายเพราะมีกล้ามใจที่ใหญ่ขึ้น แกร่งขึ้นแล้ว

นี่คือเคล็ดลับที่ทำให้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังหนุ่มหรือเปล่าคะ

เคล็ดลับจริง ๆ คือคำว่า อดทน  บางคนอาจใช้คำว่าอดทนเป็นคำสุดท้าย  แต่ผมใช้คำนี้เป็นคำแรก  คำที่สองคือ ตั้งใจ  คำที่สามคือ พยายาม  “Don’t give up.”  คุณต้องไม่ลด  ละ  เลิก  ถ้าคุณเจออุปสรรค  สิ่งที่คุณต้องทำคือกัดฟัน  ต้องรู้จักกลืนเลือดให้เป็น  คำนี้เป็นคำที่ป๋าผมชอบใช้ เพราะมันเห็นภาพชัด  เวลาที่นักมวยโดนต่อยจนฟันยางหลุด สิ่งที่เขาทำคือกลืนเลือดและต่อยต่อเพื่อให้ได้ชัยชนะที่สำคัญที่สุดคือ ต้องอดทน  อดทนและอดทน  อย่าท้อแม้แต่วินาทีเดียวเปรียบเทียบง่าย ๆ กับคนที่วิ่งร้อยเมตรเข้าเส้นชัย  เขาชนะกันที่ .001 วินาที  จะเห็นว่ามันแค่นิดเดียวจริง ๆ  หลักคิดคือ ใครทะลุจุดที่ร่างกายไม่ไหวแล้วได้มากกว่า  อึดกว่าคนอื่นจะเป็นผู้ชนะ

ในโลกแห่งความเป็นจริง  คนเก่งจะแพ้คนอึด  เพราะคนเก่งกว่าอาจไม่อดทนเท่าคุณ  แต่ถ้าคุณสามารถทนกับความทรมานได้มากกว่า  ก็มีสิทธิ์พบความสำเร็จเข้าเส้นชัยก่อน  ผมเชื่อว่าความเก่งเกิดจากพรสวรรค์กับพรแสวง  สำหรับพรสวรรค์ผมคิดว่าคนเรามีในตัวไม่เกินสิบเปอร์เซ็นต์  นอกนั้นคือเรื่องของพรแสวงล้วน ๆ  ซึ่งคือการฝึกทำซ้ำ  ยิ่งทำ  ยิ่งดี  ยิ่งทำ  ยิ่งเพอร์เฟ็กต์แต่ก่อนที่คุณจะทำงานอะไรก็ตามให้ได้ดีทั้งร้อยครั้ง  คุณจำเป็นต้องฝึกจิตใจให้แข็งแกร่งก่อน  ซึ่งคนแต่ละคนมีวิธีฝึกแตกต่างกันออกไป  สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องอดทน  เผชิญกับความทรมานให้ได้  เรียกว่าต้องกลืนเลือดให้เป็น  นี่คือสิ่งที่พ่อผมสอน

ขอย้อนถามไปถึงตอนที่ทำงานเพลงออกอัลบั้ม teerapatตอนนั้นประสบความสำเร็จมากและทำให้เป็นที่รู้จักมาจนทุกวันนี้ความดังทำให้คุณตุ้ย “เหลิง”บ้างไหมคะ

ต้องถามว่านิยามของคำว่าเหลิงคืออะไร  ถ้าเหลิงคือยืนหน้ากระจกแล้วบอกตัวเองว่า  เฮ้ย  กูก็เจ๋งเหมือนกันนี่หว่า  อันนี้มีบ้างเหมือนกัน  แต่ถ้าเหลิงแบบผงาดขึ้นมาว่าฉันคือตุ้ย - ธีรภัทร์  แล้วสะบัดงวงสะบัดงาให้คนอื่นเดือดร้อน  ทำให้คนอื่นหมั่นไส้อย่างนี้ไม่มีครับ  ขอเรียกว่าเป็นการหลงระเริงกับฝันที่เป็นจริงมากกว่า  เหมือนLiving the dream  ความรู้สึกจะเหมือนเราเดินอยู่บนเวทีแล้วมีสโมกฟุ้ง ๆ แบบนั้น

ผมกล้าพูดว่าโมเมนต์ที่ดีที่สุดสำหรับนักร้องคือการได้อยู่บนเวที  เพราะมันเป็นปรากฏการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วที่เราสามารถส่งความสุขไปให้ผู้รับสารที่อยู่ข้างล่างแล้วเขาก็ตอบรับสารความสุขนั้นกลับมาหาเราเป็นร้อยเป็นพัน  มันเหมือนตัวเราถูกอาบไปด้วยพลังแห่งความสุข  นั่นแหละที่ทำให้ผมหลงระเริง

ตอนนั้นเรียกได้ว่าเป็นจุดพีคที่สุดของชีวิตวัยหนุ่มเลยก็ว่าได้  เป็นช่วงเวลาที่ได้ใช้ต่อมจินตนาการของเราครบเลย  เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ผมค้นพบว่าดนตรีหล่อเลี้ยงชีวิตผมอยู่ตลอดเวลา

ถามเรื่องครอบครัวบ้าง คุณตุ้ยให้คำจำกัดความ คำว่าคุณค่ากับครอบครัวอย่างไรคะ

ความเป็นครอบครัวทำให้ต่างคนต่างรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า  เช่น  เราเป็นลูกที่ดีเราก็มีคุณค่ากับพ่อแม่  เป็นพี่ที่ดี  ก็มีคุณค่ากับน้อง  เป็นน้องที่ดี ก็มีคุณค่ากับพี่เป็นสามีที่ดี  ก็มีคุณค่ากับภรรยา  พอมีลูกเราก็เป็นพ่อที่ดี มีคุณค่ากับลูก

ผมโชคดีที่ได้เจอ แอนนา  ต้องเรียกว่าเขาเป็น soulmate ของผม  ผมว่าการที่เราจะเจอคนที่สามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสอดคล้องสบายใจ  โดยไม่ได้มีดีเอ็นเอเหมือนกันนั้นค่อนข้างยาก  แอนนากับผมอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข  ผมโชคดีมากที่ได้มาเจอคู่ชีวิตที่มีวิธีคิดและตัวตนที่ไปด้วยกันได้

ช่วยเล่าถึงวิธีการดูแลครอบครัวในแบบของคุณตุ้ยให้ฟังหน่อยค่ะ

ผมว่าไม่มีทฤษฎีใดทฤษฎีหนึ่งที่เหมาะสมกับมนุษย์ทุกคน  ดังนั้นผมจึงไม่เคยหยุดทดลองที่จะใช้ชีวิตและลองผิด-ลองถูกกับทุกสิ่งทุกอย่าง  ผมเชื่อว่าเราสามารถทดลองไปได้เรื่อย ๆ ตราบใดที่ยังอยู่บนพื้นฐานของความรักความผูกพัน  แล้วเราจะพบคำตอบที่ใช่และเหมาะสม  ผมพยายามทำวันนี้ให้ดีที่สุดในฐานะพ่อคนหนึ่ง  คืออบรมสั่งสอนให้ลูกเป็นคนดี  เป็นสุภาพบุรุษมีประโยชน์ต่อสังคม  ผมปรารถนาให้ลูกเป็นคนอดทน  เป็นคนอึด  ซึ่งก็คือเหตุผลว่า  ทำไมผมจึงตั้งชื่อเขาว่า “ไททัน”  เพราะผมอยากให้เขาดูแลคนรอบข้างได้ดี  มีจิตใจเข้มแข็ง  อดทน  แกร่งเหมือนไทเทเนียมนั่นคือสิ่งที่ผมหวังไว้

ความสุขของคุณตุ้ยคืออะไรคะ

นิยามความสุขของผมนั้นง่ายมาก  ผมขอแค่หายใจให้ชุ่มปอดเป็นพอ  ถ้าดูตามหลักการทำงานของร่างกายแล้ว  เวลาที่เราเจออุปสรรคหรือปัญหา  สมองจะสั่งให้กระบังลมเกร็งโดยไม่รู้ตัว  ปอดถูกบีบให้เล็กลง  ส่งผลให้หายใจไม่เต็มปอด  ทางออกก็คือ เราแค่หายใจเอาออกซิเจนเข้าไปให้ชุ่มปอด  สูดลมหายใจเข้า - ออกให้ลึก ๆแค่นี้ก็เป็นความสุขแล้ว  หรือจะพูดว่าอุปสรรคที่ทำให้ร่างกายไม่มีความสุขคือการหายใจไม่เต็มปอดนั่นเอง

ผมขอขยายความอย่างนี้  พระเจ้าให้มนุษย์มีความวิตกจริตเพื่อให้ระแวดระวังอันตราย  แต่ถ้าคุณระแวดระวังอยู่ทุกขณะจิต  คุณจะหายใจไม่เต็มปอด  คิดไม่ออกแก้ปัญหาอะไรไม่ได้  ทางที่ดีที่สุดคือให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน  ซึ่งก็คือหายใจเข้าให้มีความสุข  หายใจออกให้มีความสุข  ซึ่งเป็นหลักของพระพุทธศาสนาที่ผมยึดปฏิบัติอยู่เสมอและจะยึดไปตลอดชีวิต


เรื่องโดย : ธันยาภัทร์  รัตนกุล

ภาพโดย : วรวุฒิ  วิชาธร


บทความที่น่าสนใจ

แพนเค้ก-เขมนิจ กับ การเรียนรู้บนโลกที่ไม่หยุดนิ่ง

10 อันดับ ข้อคิด เรียนรู้ชีวิตจากดารา ศิลปิน คนดัง  นิตยสาร Secret

3 สุขที่สุดในชีวิตของพระเอกตลอดกาล – เคน ธีรเดช

 

Posted in MIND
BACK
TO TOP
cheewajitmedia
Writer

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.