จิรศักดิ์ ปานพุ่ม

เมื่อทำนอง “ธรรม” กระทบใจ แมว – จิรศักดิ์ ปานพุ่ม (ตอนจบ)

เมื่อทำนอง “ธรรม” กระทบใจ แมว – จิรศักดิ์ ปานพุ่ม (ตอนจบ)

แมว จิรศักดิ์  ปานพุ่ม  คือร็อคเกอร์หนุ่มเจ้าของผลงานเพลงชื่อดังจำนวนมาก หากมองแต่เพียงผิวเผินเขาดูเป็นนักร้องมาดนิ่งและมีความเป็นตัวเองสูง ยิ่งได้ชื่อว่าเป็นร็อคเกอร์แล้ว  ย่อมหนีไม่พ้นภาพลักษณ์ของแบดบอยไปได้

การบวชครั้งนี้ผมฝึกปฏิบัติอย่างเต็มที่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมตั้งใจบวชให้ “พ่อ” ด้วย

เหตุผลส่วนหนึ่งในการบวชครั้งนี้คือผมรู้สึกผิดกับพ่อ ตอนที่พ่อเสียชีวิต ผมไม่ได้ไปงานศพท่าน เพราะติดงานอยู่ต่างจังหวัดและอาจเป็นเพราะไม่ได้ผูกพันกับพ่อมากนักจึงไม่ได้กลับมากราบศพท่านเลยสักครั้ง ไม่รู้แม้กระทั่งว่าศพท่านอยู่ที่ไหน ช่วงที่บวชผมจึงอุทิศบุญกุศลให้พ่อทุกวัน

วัดป่าสันติพุทธารามเป็นวัดที่เน้นด้านปฏิบัติ ผมจึงได้นั่งสมาธิและเดินจงกรมอย่างเต็มที่และทำให้จิตใจสงบมาก อัตตา ความอยากได้ อยากมี อยากเป็นต่าง ๆ ก็ลดลงไปมากอย่างเห็นได้ชัด ทั้งยังได้อุทิศบุญกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรในชาติก่อนและชาติปัจจุบันด้วย

วันหนึ่งผมเดินจงกรมผ่านไปสองชั่วโมงรู้สึกว่าจิตนิ่งเป็นสมาธิมาก จนสัมผัสได้ถึงปีติสุข ร่างกายเบาสบายมาก แต่จู่ ๆ กลับรู้สึกว่าในห้องนั้นเต็มไปด้วยใครมากมาย จนทำให้ผมรู้สึกแน่นอกแทบจะหายใจไม่ออก แต่จิตก็ยังไม่ว่อกแว่ก ผมเข้าใจว่าเขาน่าจะมาขอบุญกุศล จึงเริ่มอุทิศบุญให้ โดยให้พ่อเป็นคนแรก ต่อมาก็เป็นยาย และเจ้ากรรมนายเวร พอออกสมาธิก็ถึงกับน้ำตาไหลด้วยความปีติสุข เพราะรู้สึกว่าทุกคนที่เราแผ่บุญกุศลให้ได้รับผลบุญนี้แล้ว

ช่วงที่ผมบวชเป็นเวลาที่หลวงตามหาบัวมรณภาพ ผมมีโอกาสได้ไปสวดอภิธรรมให้ท่าน ในใจคิดอยู่เสมอว่า เป็นบุญมากที่ได้มาพบท่าน ได้เป็นลูกศิษย์ท่าน และเริ่มคิดได้ว่าตัวผมเองก็เป็นศิษย์มีครูนะ เพราะฉะนั้นต้องไม่ทำให้ครูท่านผิดหวัง ต้องกลับตัวกลับใจเป็นเรื่องเป็นราวให้ได้

เกิดใหม่” อีกครั้งหลังจากบวช

ชีวิตหลังจากบวชเรียกว่าเป็นการ “เกิดใหม่” ได้อย่างเต็มปาก โดยมีครูบาอาจารย์เป็นผู้ให้กำเนิด ผมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เข้าใจชีวิตมากขึ้น แรก ๆ ผมไม่กล้าพูดถึงอดีตของตัวเองว่ามันเละแค่ไหน นั่นเป็นเพราะผมยังไม่วางตัวตน แต่เมื่อปฏิบัติมากขึ้นก็รู้สึกว่าเราจะมาถืออัตตาอย่างนี้คงไม่ใช่แล้ว

หลังบวชผมยังคงฝึกปฏิบัติอยู่เสมอเมื่อชีวิตกลับมามีสติ ก็ใส่ใจชีวิตมากขึ้นคิดเรื่องต่าง ๆ รอบตัวละเอียดขึ้น จากที่ไม่เคยสนใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนรอบตัว ก็เริ่มใส่ใจความรู้สึกพวกเขามากขึ้น

ผมกลับไปดูแลแม่ให้ดีกว่าเดิม เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ดูแลท่านมากเท่าที่ควรผมเริ่มคิดถึง ทิกเกอร์ (ลูกชายคนแรก) เพราะที่ผ่านมาแทบไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของลูกเลย เมื่อผมเริ่มครอบครัวใหม่อีกครั้งและวางแผนจะมีลูกอีกคน จึงเริ่มเป็นห่วงว่าทิกเกอร์จะรู้สึกอย่างไร ผมจึงถามเขาเสมอว่าอยากมีน้องไหม ถ้ามีน้อง อยากให้น้องชื่ออะไร แรก ๆ เขาก็เฉย ๆ ไม่ตอบอะไร

ผมจึงค่อย ๆ พาเขาไปเล่นกับลูกของเพื่อน เริ่มให้เขาเข้าใจคำว่า “น้อง” ไปเรื่อย ๆใช้เวลาเป็นปี จนในที่สุดเขาก็เริ่มรับได้และบอกว่าอยากให้น้องชื่อ “แจสเปอร์” พอวันที่น้องคลอด เขาก็ดีใจที่เป็นคนตั้งชื่อให้น้องชายเอง

คลิกเลข 2 เพื่ออ่านหน้าถัดไป

จิรศักดิ์ ปานพุ่ม

ลูกคือหนึ่งความปีติสุขในชีวิต

ก่อนมีแจสเปอร์ ผมและภรรยาสวดมนต์ทำบุญกันตลอด และอธิษฐานขอให้เด็กดี ๆ มาเกิดกับเรา ช่วงนั้นผมสวดมนต์และนั่งสมาธิวันละไม่ต่ำกว่าชั่วโมง บางวันนานถึงสี่ชั่วโมงก็มี เพราะเราสองคนคิดกันว่าสภาวจิตที่สงบและมีจิตอันกุศลของพ่อแม่จะน้อมนำให้ลูกที่จะมาเกิดมาด้วยกุศลเช่นกัน

แจสเปอร์เป็นเด็กที่ชอบการสวดมนต์มาก เขาจะคอยบอกผมทุกวันว่า “แดดดี๊สวดมนต์กันเร็ว” เพราะเมื่อเขาเห็นว่าพ่อกับแม่ชอบสวดมนต์ ไปวัด เขาก็ทำตาม บางวันผมเปิดเสียงสวดมนต์ของพระไว้ เขาก็นั่งนิ่งตั้งใจฟัง พอผมไปชวนคุยเข้า เขาก็จะบอกว่า “แดดดี๊ พระสวดอยู่”

ถ้าช่วงไหนผมไม่ได้สวดมนต์ให้เขาฟังเกินสามวัน เขาจะงอแงมาก บางครั้งผมรู้สึกว่าลูกเป็นเหมือนครูของผมคนหนึ่ง เพราะเขาสอนผมหลายอย่าง สอนให้ผมรั้งตัวเองไว้ในเรื่องของความโกรธ ไม่ให้ดุหรือตีเขาในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงปีติสุขโดยไม่ต้องเข้ากรรมฐาน เพราะเป็นความปีติสุขที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน และเขาทำให้ผมรู้สึกว่าจะต้องทำตัวเองให้ดีขึ้น

ส่วนทิกเกอร์เป็นเด็กผู้ชายพูดน้อยเรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย แต่เข้าใจคิดความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัวก็เข้ากันได้ดี ผมกับ คุณกี้ (นิโคล เทริโอ) เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ทิกเกอร์และแจสเปอร์ก็มีโอกาสได้เจอกันบ่อย ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นทิกเกอร์และแจสเปอร์เล่นด้วยกัน ทิกเกอร์เป็นพี่ที่ดี คอยดูแลน้องเสมอ สิ่งเหล่านี้มาจากความรักที่เรามอบให้เด็กทั้งสองคนนี้

อดีตสอนใจ

ถ้าถามว่าอยากกลับไปแก้อดีตช่วงไหนผมบอกเลยว่าคงทุกช่วงเลยครับ ตั้งแต่วันที่รับปากว่าจะเล่นดนตรีกับพี่ชาย ถ้าย้อนกลับไปได้คงบอกตัวเองว่า ตั้งใจเรียนให้เป็นเรื่องเป็นราวก่อนเถอะ เพราะชีวิตที่มีสติของผมหายไปตั้งแต่เหล้าแก้วแรกเข้าปาก จากนั้นก็มีแต่เรื่องลบ ๆ ที่สั่งสมไว้

เมื่อก้าวผ่านอดีตเหล่านั้นมาได้ ผมก็เข้าใจตัวเองและเข้าใจชีวิต มีคำหนึ่งที่ผมชอบมากคือคำว่า “พลังงาน” ผมเชื่อว่าตัวเราทุกคนและสรรพสิ่งทุกอย่างล้วนมีพลังงานแฝงอยู่ เพียงแต่เราจะนำพลังงานด้านบวกหรือด้านลบมาใช้ ซึ่งแย่หน่อยว่าที่ผ่านมาในอดีต ผมดึงแต่พลังงานลบออกมาโดยคิดไปว่ามันคือพลังงานบวกที่ทำให้ตัวเองมีความสุข

พวกภาพลวงเรื่องแสงสี ชื่อเสียงเกียรติยศ ก็มีอยู่เป็นธรรมดาของมัน เราจะไปโทษสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ ต้องดูตัวเองว่าใช้ชีวิตอย่างมีสติหรือเปล่า เราประคองตัวเองได้ดีแค่ไหน ผมไม่ได้บอกว่าชื่อเสียงหรือมีเงินมีทองไม่ดี เพียงแต่ว่ามีแล้วก็อย่าไปหลงใหลจนทำให้ตัวเองเปลี่ยนไป ผมได้เรียนรู้สัจธรรมเหล่านี้จากชีวิตตัวเองล้วน ๆโดยไม่ต้องมีใครมานั่งบอกนั่งสอนเลย

ความสุขทุกวันนี้คือการทำให้คนรอบข้างมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนหรือแม้แต่คนที่เรานั่งคุยอยู่ด้วย ผมรู้สึกปลอดภัยโดยไม่ต้องพกปืนไปเล่นคอนเสิร์ตมีความสุขโดยที่ไม่ต้องเล่าเรื่องตลกให้ใครหัวเราะ หรือเพราะมีเงินทองมากมาย แต่เพียงแค่คิดบวก ใจเราก็สุข แล้วก็จะมีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้น

เวลานี้ผมได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากทำ หนึ่งในนั้นคือการเรียนต่อ เพราะจริง ๆ แล้วผมรักการเรียนมาก ช่วงเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯก็หาโอกาสไปเรียน กศน. สอบเทียบได้วุฒิ ม.ปลาย และเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง แม้จะใช้เวลาเรียนนานมาก แต่ในที่สุดก็จบคณะเศรษฐศาสตร์

ตอนนี้ผมกำลังเรียนปริญญาโทด้านดนตรีแจ๊ซ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต หลายคนบอกว่า “จะบ้าเหรอ อายุก็เยอะแล้ว จะเรียนไปทำไม” แต่ผมคิดว่า ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็เรียนได้ ผมสนุกกับการเรียนมาก และอยู่ในช่วงการทำวิทยานิพนธ์ ส่วนเรื่องงานเพลงก็ยังไม่ทิ้งไปไหน ตอนนี้ก็มีวงของตัวเองอย่างที่ฝันไว้ ชื่อวง Type 1 Error ผมเป็นนักร้องนำ และได้ทำเพลงแนวเมทัลที่ชอบ นอกจากนี้ก็ยังทำร้านอาหารจีนด้วย

ปัจจุบันนี้ความตั้งใจของผมคือ ถ้าลูกโตจนเรียนจบ ดูแลตัวเองได้แล้ว ผมกับภรรยาคิดเหมือนกันว่าอยากบวชนาน ๆ เลยเพราะตัวผมเองอยากละทุกสิ่งทางโลกจริง ๆทุกวันนี้ก็เริ่มทำแล้ว แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควรเพราะสิ่งเร้ารอบตัวยังเยอะมาก ดังนั้นการบวชจึงเป็นเป้าหมายชีวิตที่วางแผนไว้

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของผมเป็นการพบเจอ “ธรรมะ” อย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่การเรียนรู้คำสอน เพราะธรรมะเข้ามา“กระทบใจ” ให้ผมคิดและเปลี่ยนแปลงชีวิตจนพบกับความสุขสงบใจอย่างแท้จริง 

ขอขอบคุณสถานที่ :

ร้านระเบียงแซ่บ  ติดสถานทูตกัมพูชา  เหม่งจ๋าย โทร. 0-2158-9399 - 400

เรื่อง จิรศักดิ์  ปานพุ่ม  เรียบเรียง เชิญพร  คงมา  ภาพ สรยุทธ  พุ่มภักดี

ผู้ช่วยช่างภาพ ธนทัช  หิรัญวรกุล  สไตลิสต์ ณัฏฐิตา  เกษตระชนม์

ผู้ช่วยสไตลิสต์ จุฑามาศ  ประดุงศิลป์  แต่งหน้า - ทำผม ภูดล  คงจันทร์

ติดตามรายละเอียดได้ในคอลัมน์ This is Life นิตยสาร Secret ฉบับ 187 (10 เม.ย. 59) – 189 (10 พ.ค. 59)

บทความน่าสนใจ

เมื่อทำนองธรรมกระทบใจ แมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม ตอนที่ 1

เมื่อทำนองธรรมกระทบใจ แมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม ตอนที่ 2

Posted in MIND
BACK
TO TOP
cheewajitmedia
Writer

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.