ติ๊ก

ติ๊ก – เจษฎาภรณ์ ผลดี พระเอกที่จริงจัง จริงใจ และไม่เฟค!

ติ๊ก – เจษฎาภรณ์ ผลดี พระเอกที่จริงจัง จริงใจ และไม่เฟค!

ตอนอายุ 60 ผมอยากเป็นเกษตรกรวัยชราที่ใจดี”  

ติ๊กเคยบอกไว้  เมื่อให้สัมภาษณ์ Secretเป็นครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน  ซึ่งเป็นคำตอบที่สอดคล้องกับความฝันประการหนึ่งของเขาคืออยากศึกษาต่อปริญญาโท  สายวิศวกรโรงงาน  เพื่อจะได้นำความรู้มาช่วยเกื้อหนุนเกษตรกรให้ทำการเกษตรในแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ทำไมคุณติ๊กถึงรู้สึกผูกพันกับวิถีเกษตรมากเป็นพิเศษล่ะครับ

เวลาเดินทางพ้นรังสิตไปแล้ว  เราจะเริ่มเห็นทุ่งนา  เห็นภูเขา  พื้นที่ธรรมชาติกว้าง ๆ  และพอมองลึกเข้าไปอีก  เราก็ได้เห็นวิถีชีวิตของเกษตรกร  วิถีชุมชนในแบบที่เรียบง่าย  ภาพทั้งหมดทำให้รู้สึกว่าเราอยากไปอยู่ตรงนั้น (ยิ้ม)

ผมเคยพูดไว้หลายครั้งว่า  ประเทศไทยเรามีพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์  เหมาะสมแก่การเพาะปลูก  ติดทะเล  แม่น้ำลำคลองเพียบ  ในน้ำมีปลาในนามีข้าว  มีภัยธรรมชาติน้อยมากถ้าเทียบกับอีกหลาย ๆ ประเทศแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคำถามขึ้นมาว่า  ทำไมเกษตรกรไทยไม่รวยสักที  ในขณะที่ประเทศที่มีน้ำมันเชื้อเพลิงกลับร่ำรวย  ทั้งที่ถ้าเรามองกันแบบตรงไปตรงมาแล้ว  เมื่อเทียบกันระหว่างเรื่องพลังงานกับเรื่องปากท้อง  เรื่องปากท้องสำคัญกว่า  แต่เกษตรกรกลับยังต้องกู้สหกรณ์  เป็นหนี้ธนาคาร  สุดท้ายก็ต้องขายที่ดิน  ซึ่งในที่สุดก็กลายเป็นหมู่บ้านจัดสรรไป

ในความคิดของคุณติ๊ก  เราควรแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไรครับ

ผมคิดว่า  ความเป็นจริงแล้วประเทศที่เป็นแหล่งผลิตอาหารควรมีการรวมกลุ่มกันแล้วกำหนดราคาในตลาดโลกได้เหมือนกับที่เขารวมกันเป็นกลุ่มโอเปก (OPEC)  แล้วกำหนดราคาน้ำมันในตลาดโลก ผมอยากให้มีการส่งเสริมและผลักดันผลผลิตที่ตัวเองมีให้กลายเป็นสินค้าส่งออกที่มีมูลค่า  อย่างการเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วยการเอาสินค้าเกษตรมาแปรรูปด้วยตัวของเราเอง  แล้วส่งไปต่างประเทศ  ไม่ใช่ว่าผลิตแล้วเอาไปตีตราเป็นของต่างประเทศ  แล้วส่งกลับมาขายเมืองไทยราคาแพง ๆ  หรือว่าทุกอย่างต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง  เกษตรกรไม่ได้เป็นคนกำหนดราคาเอง  และต้องทนรับตามสภาพกันไปเหมือนอย่างทุกวันนี้

โดยส่วนตัวผมเชื่อมั่นในภูมิปัญญาของคนไทย  มีคนไทยเก่ง ๆ เยอะ  สภาพแวดล้อมทุกอย่างเอื้ออำนวย นอกจากนั้นสมัยนี้ยังมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย  ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าของเกษตรกรได้อีกมากมาย  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมีการสนับสนุนจากฝ่ายรัฐแบบจริงจัง โปร่งใส  และไม่เอาเปรียบกัน

คลิกเลข 2 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป

ติ๊ก

ความคิดเหล่านี้ได้มาจากการทำรายการเนวิเกเตอร์ หรือเปล่าครับ

ผมคิดถึงเรื่องนี้มานานแล้วครับ  แต่ยิ่งไปถ่ายทำรายการตามสถานที่ที่มีพื้นที่เกษตรยิ่งได้เห็นก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้น  ซึ่งก็มีทั้งมุมมองที่เราเห็นว่าดีแล้วก็ไม่ดี  แต่เราก็พยายามคิดในด้านบวกเข้าไว้  แล้วก็อยากให้ทุก ๆ คนตระหนักถึงปัญหาพวกนี้มากขึ้น  แต่ถึงที่สุดแล้วคนไทยก็ต้องสามัคคีและรักกันซะก่อนปัญหาถึงจะได้รับการแก้ไขจริง ๆ

คุณทำงานด้วยแนวคิดแบบนี้  ทำให้ยิ่งทำยิ่งเครียดไหมครับ 

ไม่เลยครับ  ผมว่ายิ่งทำก็ยิ่งสนุกมากขึ้นนะ  ไม่เหมือนกับตอนทำเทปแรกเมื่อเก้าปีที่แล้ว  ตอนนั้นมีหลายอย่างที่เข้ามารบกวนจิตใจเรา  เหมือนมือใหม่หัดขับทั่วไปที่เครียดและพะวงไปทุกอย่าง  แต่ ณ ตอนนี้ถือว่าสบายขึ้นมาก  จะมีความกังวลบ้างก็คือโจทย์ของเรายากกว่าเดิม  เพราะถึงตอนนี้เรามีมาตรฐานของตัวเอง  ผมก็เลยพยายามจะทำให้ดีกว่าเดิมให้ได้  คิดแต่ว่าจะต้องทำอย่างไร  รายการ เนวิเกเตอร์ ถึงจะอยู่ในหัวใจคนมากที่สุด  ทำอย่างไรให้คนดูเข้าใจในสิ่งที่เราอยากจะเล่า  และตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมได้ด้วยวิธีการเล่าที่ง่ายที่สุด  ซึ่งนั่นหมายถึงว่าเราต้องใช้เวลามากขึ้นและพิถีพิถันขึ้นอีก

ขอเปลี่ยนมาถามเรื่องใกล้ตัวบ้างสำหรับคุณติ๊ก  ครอบครัวมีอิทธิพลในชีวิตอย่างไรบ้างครับ

ผมคิดว่าน่าจะทุกแง่เลยนะครับเพราะด้วยวิถีชีวิต  ด้วยวิธีที่ถูกเลี้ยงดูมาพ่อแม่เขาอยากให้เราเป็นแบบไหน  เขาก็ทำให้เราเห็นแบบนั้น  แล้วก็คอยตบ ๆ ให้เข้ากรอบที่บ้านเราเป็นอยู่  ซึ่งแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน  แต่ด้วยความที่ผมเป็นลูกคนโต  พี่คนโตต้องมีความเป็นผู้นำ  และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว  ก็เหมือนพ่อที่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกนั่นแหละครับ

แต่ถึงอย่างนั้น  ผมเองก็ไม่ใช่คนที่ดีที่สุดเสมอไป  ผมไม่ได้ต่างจากน้อง ๆ หรือเด็กผู้ชายทั่วไปที่ย่อมมีความซนอยู่ในตัวทุกคนซนหมด  แต่เราต้องรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานะไหน  ตรงไหน  เวลาไหนมากกว่า  เวลาไหนต้องจริงจัง  เวลาไหนถึงเล่นได้  ถ้าจัดการตัวเองแบบนี้ได้  ถึงจะเอาอยู่ (ยิ้ม)

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการต้องดูแลน้องก็ไม่ได้มีอะไรยากหรือเหลือบ่ากว่าแรงอะไรนะครับแค่ต้องคุยกันให้เข้าใจ  ตั้นเอง (พิเชษฐ์ไชยผลดี) ก็มีตอง (ปิยะโชติ  ผลดี) น้องคนเล็กให้ดูแล  เขาก็ต้องเป็นผู้นำให้กับน้องให้ได้เหมือนกัน

คุณติ๊กได้นำพุทธศาสนามาปรับใช้ในการทำงานและการใช้ชีวิตบ้างไหมครับ

หลักธรรมที่ง่ายที่สุดที่ผมยึดไว้กับหัวใจและชีวิตมาโดยตลอดคือ  “ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว” หากเราคิดดี ประสงค์ดีกับคนอื่น  นอกจากจะได้ผลตอบแทนดี ๆ กลับมาแล้ว  เรายังได้ความรู้สึกดี ๆ กับตัวเองด้วยนะครับ  ในขณะเดียวกัน  เราย่อมรู้อยู่แก่ใจว่า  ถ้าหากทำไม่ดีกับคนอื่น  สักวันหนึ่งก็ย่อมมีคนทำไม่ดีกลับมา  แล้วเราก็คงจะไม่มีความสุขแน่นอน  เวลาผมทำไม่ดีกับคนอื่น  ผมจะรู้สึกโคตรทุกข์  โคตรอยากจะเดินไปขอโทษเขาเลย  ดังนั้นแล้วผมก็อยากบอกผู้อ่าน Secret ว่า  ถ้าไม่อยากให้คนอื่นทำกับเราอย่างไร  เราก็อย่าไปทำอย่างนั้นกับคนอื่นเลยนะครับ  มาคิดดีทำดีกันดีกว่า (ยิ้ม) แล้วเวลาคุณทำไม่ดี  แล้วเกิดรู้สึกทุกข์มากๆ  คุณมีวิธีคลายทุกข์อย่างไรครับ

ถ้านอกเหนือจากการไปขอโทษคนนั้นผมก็มักจะแก้โดยแนวคิดเตือนใจหนึ่งของตำรวจ…ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ  คือ  “จงอดทนต่อความเจ็บใจ”  แค่นี้เอง  ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรค  ปัญหา  ความรู้สึกไม่ดี  หรือสิ่งเลวร้ายที่กำลังครอบงำชีวิตของเรา  เราต้องตระหนักให้ได้ว่าที่สุดแล้วสิ่งนั้นคืออะไรแล้วจากนั้นก็ค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะอดทนกับสิ่งนั้นให้ได้  ค่อย ๆ คิด  ค่อย ๆ แก้ปัญหาไปทีละเรื่อง  สิ่งไม่ดีที่เข้ามาก็จะค่อย ๆ คลี่คลายลง  แล้ววันหนึ่งเมื่อเรามองย้อนกลับไปก็จะรู้ว่า  ที่สุดแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นช่างเล็กน้อยมากจริง ๆ

และนอกจากจะต้องอดทนกับความเจ็บใจให้ได้แล้ว  ผมขอเติมต่อท้ายไปอีก 2 ประโยคว่า  “จงมีความสุขบนความสุขของผู้อื่น  อย่ามีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น”เพราะสำหรับผมแล้ว  ไม่ว่าเราจะทำธุรกิจอะไรก็แล้วแต่  ต่อให้ร่ำรวย  ใหญ่โต  ขับรถคันใหญ่  มีบ้านหลังมหึมา  มีเงินฝากธนาคารเยอะแยะ  แต่ถ้าเราได้สิ่งเหล่านั้นจากความทุกข์ของคนอื่น  ก็อย่าไปทำเลย  เพราะเราจะไม่อาจมีความสุขที่แท้จริงได้เลย

คลิกเลข 3 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป

ติ๊ก

คุณทำรายการที่เน้นเนื้อหาสอนใจผู้ชมในแง่มุมต่างๆ เสมอ  แล้วมีอะไรจะแนะนำผู้อ่านที่เป็นเยาวชนบ้างครับ

ผมก็อยากฝากในเรื่องเกี่ยวกับพวกเทคโนโลยีเครื่องมือสื่อสาร  หรืออะไรต่าง ๆ ที่ทุกคนใช้กันอยู่ในทุกวันนี้  คือ  มีก็ดี  แต่ก็อยากให้ใช้ในแง่มุมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวเอง  สังคม  และประเทศชาติด้วยไม่ใช่ว่าตื่นขึ้นมาจะคิดแต่ว่า  ก่อนกินข้าวต้องโชว์รูปให้ใครดู  แต่กลับลืมนึกถึงคนที่อยู่ที่บ้าน  ลืมนึกถึงพ่อแม่  พี่น้อง  พี่ป้าน้าอา  ผมอยากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวให้มาก  ที่พูดมาทั้งหมดไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบเทคโนโลยีนะครับ  เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ดี  แต่ต้องใช้ให้เป็น

นอกจากนั้นก็อย่าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเกินไป  ถึงแม้ว่าเราไม่มีเหมือนกับคนอื่นเขา  ก็ไม่เป็นไร  เมื่อก่อนย้อนกลับไปสมัยเด็ก ๆ  ผมก็ไม่มีอะไรพวกนี้ใช้  ก็ไม่เห็นมีใครตาย  ชีวิตเราก็ดำเนินต่อไปได้ตรงกันข้าม  ผมกลับมองว่าเป็นเรื่องดีเสียอีกที่ไม่มีเครื่องมือสื่อสารเหล่านี้  เพราะทำให้คนได้มองหน้ากันและมีปฏิสัมพันธ์ด้วยการพูดคุยกันมากกว่าสมัยนี้

ในความคิดของผม  ถึงแม้ปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย  แต่เรื่องจิตใจคนเราก็ต้องพัฒนาตามด้วย  อย่าให้สวนทางกันน่าเสียดายที่ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นในระบบสังคม  การศึกษา  หรืออะไรก็แล้วแต่  เรามักจะหยิบยกเรื่องของเทคโนโลยี  วิชาการอะไรพวกนี้เป็นตัวนำ  ในขณะที่เมื่อก่อนเด็กจะได้เรียนเรื่องคุณธรรม  จริยธรรมและพุทธศาสนาค่อนข้างมาก  ซึ่งล้วนแล้วแต่ช่วยพัฒนาด้านจิตใจได้ดีมาก ๆ

ผมเชื่อมั่นว่าประเทศชาติจะพัฒนาหรือก้าวต่อไปได้  ก็ด้วยการขับเคลื่อนของคนและคนที่จะสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้ก็ต้องมีจิตใจที่ดี  มีระเบียบวินัย  รวมทั้งต้องรักสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  มีความเห็นใจซึ่งกันและกัน

คุณติ๊กมีเคล็ดลับการดูแลเรื่องความสัมพันธ์กับคนรักอย่างไรบ้างครับ

ผมว่าแต่ละครอบครัวคงมีวิธีที่ไม่เหมือนกันนะครับ  สำหรับกรณีของผมน่าจะเรียกได้ว่าข้ามสเต็ปคำว่ารักไปแล้ว  แต่จะให้ความสำคัญกับคำว่า “ความเข้าใจ” มากสำหรับผม  คำนี้สามารถอธิบายได้หมดทุกอย่าง  ต่อให้เราต้องไปทำงาน  ไม่มีเวลาให้กันมากมาย  แต่ถ้าเราเข้าใจกัน  ทุกอย่างจะมีแต่เรื่องดี  แล้วในขณะเดียวกัน  สิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ก็เป็นเรื่องของสัมมาอาชีพไม่ได้เป็นอะไรที่เสียหาย  ไม่ว่าจะเป็นรายการเนวิเกเตอร์ หรืองานแสดง  ล้วนแต่เป็นการทำงานให้กับสังคม  อีกอย่าง  เราก็ไม่ได้มีพฤติกรรมที่สำมะเลเทเมาอะไร  เพราะฉะนั้นทั้งหมดก็เป็นเรื่องที่เราสามารถเข้าใจกันได้นะครับ

ชีวิตในอุดมคติของคุณติ๊กเป็นอย่างไรครับ

ผมเป็นคนที่ค่อนข้างมีระเบียบ  ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้อิทธิพลมาจากคุณพ่อ  รวมทั้งอยู่ในจุดที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมค่อนข้างมาก  ผมก็อยากให้ประเทศเรามีระเบียบเรียบร้อยมากกว่านี้  โดยสามารถนำแบบอย่างเรื่องการวางพื้นฐานระบบระเบียบของหลาย ๆประเทศ  อย่างสิงคโปร์ มาเป็นตัวอย่างที่ดีได้

นอกจากนั้น  ผมก็อยากให้คนบ้านเรามีความรักและสามัคคีกันมากกว่านี้  ถ้าหากทำสิ่งเหล่านี้ได้  ประเทศของเราคงเป็นที่ที่มีความสุขมาก  ชีวิตในอุดมคติของผมน่าจะเป็นแบบนี้แหละครับ (ยิ้ม)

ติ๊ก

3 งาน 3 มุมของเจษฎาภรณ์  ผลดีที่ไม่ค่อยมีใครรู้

  •  งานดนตรี  

สมัยเรียนมัธยม  ด.ช.ติ๊กเคยเป็นมือกีตาร์ของวงชื่อ โลกแคบ มาก่อนและเคยฝากเสียงร้องเอาไว้ในเพลงประกอบละครหลายเรื่อง  รวมถึงในฐานะแขกรับเชิญของศิลปินอินดี้ชื่อSleeper One

  • งานพากย์เสียง

นอกจากงานแสดงเบื้องหน้า  ติ๊กยังเป็นเจ้าของเสียงพากย์บท ชิงหยางจื่อในภาพยนตร์ไต้หวันเรื่อง Legend ofthe Sacred Stone

  •  งานกำกับ

พระเอกหัวใจสีเขียวคนนี้เคยกำกับ  เขียนบท และดำเนินรายการให้กับภาพยนตร์สั้นในโครงการ “พลิกใจ”รักษ์ป่า  สร้างคน 84 ตำบล  วิถีพอเพียงมาแล้ว


secret  box

เงินพันบาท  ถ้ามองว่าน้อย  เราจะคิดว่าตัวเองยังจน แต่ถ้ารู้สึกว่ามาก  เราก็จะพอ

เจษฎาภรณ์  ผลดี


Secret คือแรงบันดาลใจ
สั่งซื้อนิตยสารหรือสมัครสมาชิก Secret ได้ที่ 0-2423-9889
ทาง Naiin.com : https://www.naiin.com/magazines/title/SC/

Posted in MIND
BACK
TO TOP
cheewajitmedia
Writer

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.