เสาวลักษณ์ ลีละบุตร

แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร บนถนนสายใหม่ที่ไม่มีปลายทาง

แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร บนถนนสายใหม่ที่ไม่มีปลายทาง

หากเปรียบชีวิตเหมือนการเดินทาง ทุกคนย่อมมีถนนที่นำไปสู่จุดหมายปลายทางที่วาดหวัง แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ เธอกลับเลือกที่จะ “ไม่ให้ความสำคัญ” กับปลายทางถนนสายใหม่มากเท่ากับการชื่นชมทิวทัศน์รอบข้างของถนนสายนั้นไปทีละน้อย เสาวลักษณ์ ลีละบุตร หรือ แอม หนึ่งในศิลปินหญิงคุณภาพ (DIVA) ของเมืองไทย แจ้งเกิดในฐานะศิลปินกลุ่ม สาว สาว สาว ซึ่งโด่งดังอย่างมากใน พ.ศ. 2524 – 2534 ก่อนจะผันตัวเองเข้าสู่การเป็นศิลปินเดี่ยว

แอมเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นของ คุณแดง -ฉันทนา กิติยพันธ์ นักร้องคุณภาพรุ่นใหญ่อย่างแท้จริง เพราะเธอเพียบพร้อมทั้งทักษะทางดนตรีและความสามารถในการแต่งเพลงหลากหลายสไตล์ ด้วยความถนัดและสนุกกับการเรียงร้อยภาษาผ่านถ้อยคำที่สื่ออารมณ์และกระทบใจ ซึ่งเธอได้สอดแทรกมุมมองการใช้ชีวิตไว้อย่างแยบคายในหลายบทเพลง

ความสามารถรอบด้านเช่นนี้เอง จึงทำให้ แอมคือตัวจริงที่ยังโลดแล่นได้อย่างสง่างามบนถนนสายดนตรี…ไม่ว่าเวลาจะผ่านเลยไปนานเท่าใด

สองคืนในชีวิตที่หลับได้โดยไม่ฝัน
การฝันเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในชีวิตของแอมนับตั้งแต่จำความได้ เรียกได้ว่าแอมไม่เคยนอนหลับโดยที่ไม่ฝันเลยแม้แต่คืนเดียว แม้ว่าแอมจะพยายามหาทางแก้สารพัดวิธีก็ไม่เป็นผล…จนเริ่มท้อใจและแอบขอพรว่า “ขอสักคืนเดียวในชีวิตที่หลับสนิทแบบไม่ฝันเลย อยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร”หลายเดือนต่อมา วันที่แอมรอคอยก็มาถึง เมื่อแอมตัดสินใจไปปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกที่วัดป่าสุคะโต จังหวัดชัยภูมิ

ครั้งนั้นแอมได้ปฏิบัติธรรมอย่างครบถ้วนตั้งแต่ตีสี่จนถึงสองทุ่มครึ่งแล้วจึงเข้านอน มาตื่นอีกครั้งก็รุ่งเช้าแล้ว เป็นอย่างนี้ทั้งสองคืนโดยที่ไม่ทันได้ฉุกคิดว่า “เอ๊ะ นี่เราไม่ได้ฝันเลย” จนกลับถึงบ้าน นั่นเเหละจึงนึกขึ้นได้ ปัจจุบันแอมยังไม่รู้เลยว่าเรื่องราวมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร หรือจะเป็นเพราะผลการปฏิบัติธรรมที่ทำให้เปลี่ยนได้ในชั่วข้ามคืน

10 ชั่วโมงแรกในชีวิตที่ปลุกให้ตื่นจากความไม่รู้

ครั้งแรกที่แอมอ่านหนังสือเรื่องคู่มือมนุษย์ ของท่านพุทธทาส เพราะสะดุดตาในชื่อเรื่อง “เอ๊ะ เป็นมนุษย์ต้องมีคู่มือด้วยหรือ” อ่านไปหลายปีก็ไม่เข้าไปถึงใจสักที มีแต่ความรู้สึก“โห เหมือนที่เรียนมาเลย รู้หมดแล้ว” จนเมื่อ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ในวันเกิดของแอม ความรู้สึกอยากกลับไปอ่าน คู่มือมนุษย์ ก็ย้อนมาอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลย เพราะตลอดเวลา 10 ชั่วโมงระหว่างการเดินทางไปกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ กับการศึกษาคำสอนของท่านพุทธทาสอีกครั้ง…ทำให้แอมเกิดคำถามมากมายกับตัวเอง  “เฮ้ย! เฮ้ย! เฮ้ย! และเฮ้ย! เราผ่านตาไปได้ยังไงเนี่ย เราไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมเราไม่รู้”

แอมเหมือนกับถูกปลุกให้ตื่นโดยกะทันหันจากความไม่รู้ แต่คิดว่าตัวเองรู้ เหมือนกับฝุ่นผงได้หลุดออกจากตา เพราะวิธีที่แอมมองคนรอบข้าง วิธีการใช้ชีวิตที่มักใช้อารมณ์เป็นใหญ่ในการตัดสินวิธีคิดแบบสุดโต่ง ณ บัดนั้นมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เรียกได้ว่า ฟ้าเป็นเหว เหวเป็นฟ้า

ความเปลี่ยนแปลงในตัวเองเริ่มเกิดขึ้นทีละน้อย แอมเริ่มเห็นทุกสิ่งอย่างที่เป็นอยู่จริง แต่ก็มีหลายครั้งที่เกือบไหวเอนกลับไปคิดไปทำแบบเดิม หากเมื่อนึกถึงคำสอนท่านพุทธทาสคราใด ก็เหมือนกระตุกแอมให้กลับมาเดินบนถนนชีวิตสายใหม่ทุกครั้ง

มากกว่าแค่…หนังสือเดินทาง

ในทุกตราประทับบนหน้าหนังสือเดินทาง คือเรื่องราวความประทับใจ ที่เมื่อเปิดย้อนกลับไปครั้งใดก็ทำให้แอมนึกถึงวันวานเก่าๆ ไม่ว่าจะสุข ทุกข์ หรือเศร้า อยู่กับใคร ทำอะไร และที่ไหน ได้ทุกครั้ง หลายๆ ครั้งที่ความเหงา อารมณ์คิดถึงบ้าน มักถือครองความเป็นพระเอก แต่ในทริปอัมสเตอร์ดัมครั้งนั้น พระเอกคือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากที่แอมเข้าใจธรรมะเป็นครั้งแรก

จากเดิมที่แอมเป็นคนชอบดอกไม้ทุกชนิด ทุกครั้งที่มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนถึงแปลงปลูก จึงอดไม่ได้ที่จะจับจองเป็นเจ้าของหอบหิ้วกลับมาเมืองไทยให้มากที่สุด แม้จะลำบากแค่ไหนก็ตาม  ทว่าวันนี้ที่สวนเคอเคนฮอฟ เมืองลิซเซ ซึ่งขึ้นชื่อที่สุดในเรื่องความงามของดอกทิวลิป แต่แอมกลับไม่ซื้อดอกไม้กลับมาแม้แต่ดอกเดียว มีเพียงภาพถ่ายเป็นบันทึกความทรงจำและความรู้สึก “อิ่มแบบพอดี” แต่ไม่ต้องการเป็นเจ้าของ…เพราะแอมได้รู้แล้วว่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริง

ของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิต

แอมมีแฟนคลับตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงาน จนถึงวัยผู้ใหญ่มากๆ ก็มี ซึ่งทุกคนต่างรักและผูกพันกับแอมมานาน เรื่องของฝากของขวัญจึงเป็นเรื่องปกติที่เราจะหยิบยื่นให้แก่กัน เว้นเพียงของมีราคาซึ่งเป็นข้อห้ามที่ทุกคนรู้กันว่า ต้องโดนดุแน่ๆ ถ้าซื้อมาให้พี่แอม โดยเฉพาะน้องๆ ที่ยังหาสตางค์ไม่ได้ จะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ แล้วเรื่องดีๆ ก็เกิดกับทริปอัมสเตอร์ดัมซ้ำอีกครั้ง เพราะของขวัญที่น้องๆ นำมาให้แอมที่สนามบินในวันนั้น แม้จะเป็นเพียงซองกระดาษเล็กๆ พร้อมคำว่า Happy Birthday ค่ะแต่เมื่อแกะออกมา ภายในซองกลับเป็นรายการบริจาคอาหารสัตว์ สิ่งของเครื่องใช้ให้มูลนิธิสงเคราะห์สัตว์พิการ ในนามแอมแฟนคลับ

เช่นเดียวกับน้องอีกคนหนึ่งที่ส่งเอสเอ็มเอสมาว่า วันเกิดพี่ปีนี้ หนูไปบริจาคเลือดแค่นั้นก็ทำให้แอมถึงกับอึ้งไปในทันทีว่า “โห คนคนหนึ่งเดินไปจิ้มเข็มบริจาคเลือดให้คนอื่นเพื่อมาเป็นของขวัญวันเกิดเรา” ของขวัญที่เกิดจาก “การให้” เหล่านี้ เป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตที่แอมได้รับและมีความสุขทุกครั้งที่นึกถึง เพราะถึงคุณจะมีเงินมากมายแค่ไหนก็หาซื้อไม่ได้ในโลกนี้

แม้ว่าถนนสายเดิมที่เสาวลักษณ์ ลีละบุตร เดินทางมากว่า 40 ปีจะปิดตัวลงอย่างถาวรแล้ว แต่ทุกวันนี้เธอกลับมีความสุขยิ่งขึ้น เมื่อได้ถนนสายใหม่ที่มี “พระธรรม” เป็นที่พึ่งที่ประเสริฐสูงสุด ช่วยให้เธอก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมีสติ รู้เท่าทัน โดยไม่ให้ความสำคัญกับปลายทาง


เรื่อง วรลักษณ์ ผ่องสุขสวัสดิ์ ภาพ อนุพงศ์ เจริญมิตร
Special Thanks : ร้านครัวชลิต ท็อปส์มาร์เก็ตเพลส สุขุมวิท 103


บทความน่าสนใจ

นรีกระจ่าง คันธมาส กับ ชีวิตใหม่ใต้แสงธรรมส่อง

7 ข้อคิด บทเรียนชีวิตจากคนดัง ผู้ก้าวผ่านความทุกข์

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.