น้ำฝน

เปลือยใจ “น้ำฝน กุลณัฐ” หญิงมั่นหัวใจแกร่งยอดกตัญญู

เปลือยใจ “น้ำฝน กุลณัฐ” หญิงมั่นหัวใจแกร่งยอดกตัญญู

ตลอดยี่สิบปีของการยืนหยัดอยู่ในวงการบันเทิงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของ น้ำฝน กุลณัฐเป็นเพียงแค่ขวากหนามที่ช่วยสอนให้เธอเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง วันนี้เธอพร้อมแล้วที่จะเปิดใจในความกตัญญูของเธอที่มีต่อคุณแม่

คุณน้ำฝนได้แบบอย่างความกตัญญูมาจากใครคะ

จากแม่ค่ะ ท่านไม่ได้สอนเราโดยตรง แต่ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ฝนเกิดมาอากงอาม่าเสียหมดแล้ว เหลือแค่คุณยายคนเดียว ทุกวันอาทิตย์แม่ขับรถไปมีนบุรีเพื่อไปเยี่ยมคุณยาย

ตอนที่พ่อป่วยเป็นมะเร็ง ฝนเพิ่งเข้าวงการได้ประมาณ1 ปี หาเงินได้เท่าไหร่ให้พ่อหมด เพราะอยากตอบแทนพระคุณพ่อ ท่านรักและเลี้ยงฝนอย่างทะนุถนอม พ่อดูแลฝนอย่างดี แม้แต่เรื่องซักกางเกงในยกทรงของลูก พ่อก็ทำให้ซึ่งฝนจะโดนแม่บ่นทุกที แม่อยากให้เราทำเองเพราะเป็นลูกผู้หญิง แต่พ่อก็แอบทำให้

ตอนพาพ่อไปหาหมอ หมอบอกว่าพ่อจะอยู่ได้อีก6 เดือน แต่พ่อก็ใจสู้อยู่มาได้ 5 ปี ช่วงที่พ่อป่วย ฝนคิดว่าเราต้องเริ่มหัดทำอะไรด้วยตัวเอง ฝนเลยเริ่มเรียนรู้และทำทุกอย่างเองหมด ทั้งเรื่องเสื้อผ้าหรือการดูแลของใช้ส่วนตัวตอนพ่อเสีย ฝนเหลือเงินก้อนสุดท้ายอยู่หกหมื่นบาท มันเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับตอนที่โดนแบนงาน โชคดีที่ได้เงินก้อนค่าถ่ายละครจากพี่กอบสุขมาช่วยทำศพ

การตายของพ่อทำให้ฝนสนิทกับแม่มากขึ้น พูดคุยกันเหมือนแม่เป็นเพื่อนผู้หญิง เรานอนคุยกัน สิ่งไหนที่ติดค้างในใจที่ไม่ได้ทำให้พ่อก็มาทำให้แม่ ดูแลแม่ให้ดีที่สุด พาไปกิน ไปเที่ยว และให้ความสุขเท่าที่จะทำได้ กระทั่งแม่มาป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองเมื่อ 2 ปีที่แล้ว

เมื่อรู้ว่าคุณแม่ป่วย ทำใจอย่างไรคะ

ทำใจไม่ได้เลย เพราะไม่พร้อมที่จะเสียแม่ไป แม่มีโรคประจำตัวคือโครงสร้างหัวใจผิดปกติ ตอนนั้นเราไม่รู้ว่ามันจะมีผลทำให้เส้นเลือดในสมองตีบ จนกระทั่งวันหนึ่งจู่ ๆแม่ก็เป็นอัมพาตไปครึ่งตัว เพราะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอทำให้พิการแบบฉับพลัน ช่วงนั้นฝนเริ่มเป็นผู้จัดละครเองแล้วงานยุ่งมาก เพราะพี่กอบสุขต้องการฝึกให้เราทำเป็นทุกอย่างจึงต้องลงมือทำเองหมด

ก่อนแม่จะเป็นอัมพาตประมาณ 2 อาทิตย์ แม่โทร.หาฝนบ่อยมาก เล่าว่ารู้สึกไม่ค่อยมีแรง เหนื่อยง่าย ตอนนั้นพี่โจ พี่ชายของฝนพาแม่ไปหาหมอ แต่แม่กลัวลูกเสียเงินเยอะเวลาโทร.ไปถามอาการ แม่จะบอกว่าดีขึ้นเยอะแล้ว แต่วันรุ่งขึ้นอาการก็กำเริบอีก

วันหนึ่งพี่ชายโทร.มาหาแต่เช้า บอกว่าแม่ล้ม ร่างกายซีกซ้ายไม่ทำงานและต้องหายใจทางปากเหมือนคนใกล้ตายลิ้นก็แข็ง พูดไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ วันนั้นพี่ชายฝนร้องไห้เลยเพราะดูอาการแม่แล้วแย่มาก ฝนให้พี่เรียกรถพยาบาลแล้วตามไปสมทบ กว่าจะหาโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือพร้อมต้องพาไปโรงพยาบาลถึง 4 แห่ง

ตอนอยู่บนรถพยาบาล ฝนได้แต่สวดมนต์ภาวนาให้แม่ตลอดทาง ตอนนั้นคิดว่าเราอาจต้องเสียแม่ไปวันนี้ แต่ทำใจให้ยอมรับไม่ได้จริง ๆ พอไปถึงโรงพยาบาลรามคำแหงซึ่งเป็นแห่งที่ 4 หมอเอกซเรย์พบว่าเส้นเลือดตรงแกนสมองตีบหมอบอกว่าโชคดีนะที่ 3 โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ไม่ได้รักษาอะไรเพราะหากโรงพยาบาลมีเครื่องทำบอลลูนแล้วฉีดเข้าไปในสมองอาจทำให้เลือดไหลในสมองและเสียชีวิตได้ ฉะนั้นจึงเป็นประสบการณ์สำหรับฝนเลยว่า เวลาป่วยเป็นอะไร ต้องไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุดเท่านั้น ครั้งนั้นหมอให้แค่ยาละลายลิ่มเลือดซึ่งแม่ตอบสนองยาได้ดี ทำให้อาการดีขึ้นภายใน 3 วัน เริ่มหายใจเองได้ แต่อาการก็ยังทรง ๆ

น้ำฝน

ช่วงนั้นคงเครียดมาก

ฝนเพิ่งเข้าใจคำว่าเครียดแล้วถ่ายไม่ออก ตอนแม่ป่วยไม่รู้ตัวว่าไม่ดื่มน้ำเลย จนวันหนึ่งเราปวดท้องเข้าห้องน้ำแล้วถ่ายออกมาเหมือนอึกระต่าย และปวดท้องมากจนต้องไปหาหมอ ถึงได้รู้ว่าเป็นเพราะเครียดมาก เป็นอย่างนี้อยู่ประมาณ2 อาทิตย์ ต่อมาก็เป็นทอนซิลอักเสบ เนื่องจากพักผ่อนน้อยเพราะต้องนอนเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล โรคของแม่จะประหลาดอยู่อย่างหนึ่งคือหลับตอนกลางวัน แต่ตื่นตอนกลางคืน แม่ตื่นตอนตีสาม ฝนต้องคอยลุกขึ้นมาดูเพราะแม่จะดึงสายน้ำเกลือออก ก็ต้องต่อสู้กันจนถึงตีห้าทุกวัน ฝนต้องคอยเรียกแม่ว่า แม่ นี่ฝนนะ เพราะแม่จำฝนไม่ได้ พูดไม่ได้โรคนี้เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ปล่อยให้อยู่คนเดียวไม่ได้เลยหาคนดูแลก็ยาก ฝนและพี่ ๆ ต้องสลับกันมาดูแล กว่าจะลงตัวเข้าที่เข้าทางก็ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน

จากที่คุณแม่เคยปกติ แล้วมาป่วยอย่างนี้มีวิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเองอย่างไรคะ

ฝนได้กำลังใจจากพี่ ๆ น้อง ๆ คนในครอบครัว หมอก็สำคัญ หมอบอกเสมอว่าอย่าไปคิดอะไรมาก เรื่องเกิดแก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา สมัยนี้มียาดี ยังไงก็รักษาได้ หมอพูดให้เราคิดบวกเสมอ พี่ ๆ ทุกคนรวมทั้งฝนเสียใจนะที่แม่เป็นอย่างนี้ แต่เราทรุดไม่ได้ ถ้าเราเป็นอะไรไปแล้วใครจะดูแลแม่ ทุกคนต้องช่วยให้กำลังใจซึ่งกันและกันเราต้องคอยพูดว่าแม่ดีขึ้นแล้ว จะหายแล้ว เราต้องพูดแต่สิ่งดี ๆ อย่างตอนนี้แม่ต้องเจาะท้อง ให้อาหารทางหน้าท้องเพราะกินข้าวไม่ได้ พวกเราบอกแม่ว่า สะดวกดีจัง ไม่ต้องเคี้ยว คือพยายามทำทุกอย่างให้แม่รู้สึกดีมีกำลังใจ

เคยมีเหมือนกันที่เพื่อนแม่มาเยี่ยม แล้วพูดไม่ดีว่าไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นได้ขนาดนี้ แม่ฝนได้ยินอย่างนั้นก็ร้องไห้ ฝนต้องบอกให้เขาออกไปข้างนอกห้อง แล้วไล่กลับไปเลย ฝนบอกเขาว่า วันหลังไม่ต้องมาเยี่ยมอีกถ้าจะพูดแบบนี้

ทุกวันนี้อาการของแม่เริ่มดีขึ้น แม่ไม่สับสนแล้วสมองก็เริ่มฟื้นฟู แม้จะพูดออกมาไม่เป็นคำ ฟังไม่รู้เรื่องเราก็ต้องใช้จิตวิทยาคุยกับแม่เหมือนว่าเราฟังรู้เรื่อง โดยจะเออ ๆ ออ ๆ ไปกับท่าน ถ้าเราไปเค้นหรือบังคับให้แม่พูดชัด ๆ แม่จะไม่พูด ฝนไม่อยากให้แม่รู้สึกว่าตัวเองผิดปกติตอนนี้ฝนไม่เครียดนะ แต่รู้สึกเศร้า

ทุกวันนี้สวดมนต์อธิษฐานขอพรพระให้แม่กลับมาพูดได้อยากให้แม่หายเป็นปกติ แม่ป่วยมาได้ปีครึ่งแล้ว ฝนเริ่มขอพรพระน้อยลง คือขอแค่ให้แม่กลับมานั่งได้ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง นิดหน่อยก็ยังดี เพราะแม่อายุ 76 แล้ว การฟื้นฟูทำได้ยาก ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการรักษาแม่ ฝนเป็นคนดูแลเพราะหาเงินได้เยอะที่สุดในบ้าน ส่วนพี่ ๆ ก็ช่วยบ้างตามกำลัง ไม่ว่าอย่างไร ฝนตั้งใจจะดูแลแม่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

ใช้ธรรมะในการดำเนินชีวิตบ้างไหมคะ

ใช้นะ นั่นคือคำว่า ต้องรู้จักปลง เวลาเกิดเรื่องร้าย ๆที่ทำให้เราไม่สบายใจ ก็จะคิดว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเดี๋ยวมันก็จบ มันไม่อยู่กับเรานานหรอก ได้วิธีคิดแบบนี้มาจากตอนที่ไปฝึกปฏิบัติธรรม ฝนเคยไปถือศีลที่เสถียรธรรมสถาน และเคยไปเข้าคอร์สของ คุณแม่สิริ กรินชัย ที่ฉะเชิงเทรา 7 วัน ตอนนั้นต้องปิดวาจา ปฏิบัติเคร่งมาก ฝนเกือบอยู่ไม่ครบคอร์ส คือพอเข้าวันที่ 3 ร้องไห้อยากกลับบ้าน แต่ก็อดทนอยู่จนครบ7 วัน สิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือฝนได้เรื่องการฝึกสติมาใช้ในชีวิตประจำวัน คือรู้สึกตัวมากขึ้น เช่น เวลาเสียใจก็จะรู้ว่าตัวเองกำลังเสียใจ มีสติบอกตัวเองว่าเดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้น ฝนชอบคุยกับตัวเอง ปลอบใจตัวเองว่าพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้จะไม่เจ็บเท่าวันนี้

 

cover-%e0%b8%99%e0%b8%b3%e0%b9%89%e0%b8%9d%e0%b8%992055

 


Secret BOX

ถ้าได้ความรักและกำลังใจจากครอบครัว 

ไม่ว่าชีวิตจะเจออุปสรรคมากแค่ไหน

ก็จะผ่านไปได้ด้วยดีเสมอ

น้ำฝน กุลณัฐ


เรื่อง ธันยาภัทร์ รัตนกุล, ภันทิลา ทนงคงสวัสดิ์ ช่างภาพ วรวุฒิ วิชาธร สไตลิสต์ ณัฏฐิตา เกษตระชนม์ แต่งหน้า - ทำผม ชุติมันต์ โมมา

ขอบคุณ KTC เอื้อเฟื้อสถานที่ เสื้อผ้า FLY NOW III, III SHOP SIAM CENTER

Posted in MIND
BACK
TO TOP
cheewajitmedia
Writer

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.