กาญจนา รอดประดิษฐ์

แบกความกล้า…ตามหาฝัน กาญจนา รอดประดิษฐ์ 

แบกความกล้า…ตามหาฝัน กาญจนา รอดประดิษฐ์

แบกความกล้า…ตามหาฝัน กาญจนา รอดประดิษฐ์  “เที่ยวรอบโลก” อาจเป็นฝันฟุ้งในวัยเด็กของใครหลายคน แต่ด้วยวันและวัยที่เดินหน้าไป หลายเหตุหลายปัจจัยเข้ามาย้ำเตือน เราว่าสิ่งที่คิดคงไม่มีวันเป็นจริงได้ หลายคนจึงจำใจต้องพับเก็บความฝันที่เคยคุกรุ่นนั้นไว้ แล้วปล่อยให้มันเป็นเพียงแค่ฝันลอย ๆ

6 ปีกับการเดินทางไปเยือนกว่า 24 ประเทศรอบ โลก อาจฟังดูไม่น่าประหลาดใจ เพราะเพียงแค่มีเงิน ใคร ๆ ก็สามารถไปไหนก็ได้ตามใจต้องการ แต่สำหรับ กาญจนา รอดประดิษฐ์ หรือ กาญจน์ สาวมั่นผู้โด่งดังจากบันทึกการเดินทางในเว็บไซต์พันทิปกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น กาญจนา แบกเป้ตะลุยเดี่ยวไปทั่ว โลก ด้วยเงินเพียงน้อยนิด เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และตามหาฝันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ความสำเร็จจากการบินไปสู่ฝันของ กาญจนา มีจุดเริ่มต้นมาจากเหตุการณ์ในวัยเยาว์ของเธอ ซึ่งนับเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เธอตัดสินใจออกเดินทาง

“เรามาจากครอบครัวยากจนที่สุดของตำบลหนึ่งในนครศรีธรรมราช พ่อเป็นลูกจ้างของกรมการข้าว ส่วนแม่เป็นชาวนา ยากจนขนาดที่ว่าไข่ฟองหนึ่งยังต้องแบ่งกันกินกับพี่น้องอีกห้าคน หรือบางอย่างให้คนนี้กิน อีกคนหนึ่งก็ต้องไม่ได้กิน…” กาญจนา เล่าถึงความคับแค้นในวัยเด็กด้วยแววตาจริงจัง

แม้ฐานะทางบ้านจะไม่สู้ดี แต่โชคยังเข้าข้างที่พ่อแม่เห็นความสำคัญของการศึกษา ถึงขั้นกระเสือกกระสนไปหยิบยืมเงินคนอื่นมาส่งลูกเรียน โดยไม่สนใจสายตาหยามเหยียดของชาวบ้านกาญจนา ได้เข้าเรียนในโรงเรียนคุณภาพดี พร้อมกันนั้นเธอก็ตั้งปณิธานไว้อย่างแน่วแน่ว่า จะไม่ทำนาเหมือนพ่อแม่ และจะไม่ให้ชาวบ้านดูแคลนอีกต่อไป

“เราจนแต่เรียนโรงเรียนคนรวย เลยไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะฉะนั้นที่ที่เหมาะสำหรับเราคือห้องสมุด หนังสือช่วยเปิดโลกกว้างให้เรา ทำให้เรารู้จักประเทศนั้นประเทศนี้สั่งสมมาเรื่อยๆ…อยากจะไป แต่ก็รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้”

กระทั่งวันหนึ่งการศึกษาสามารถปูทางไปสู่อนาคตของเธอได้ดังหวัง เธอเข้ารับราชการครูที่โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ในกรุงเทพฯ พ่อแม่ก็เปลี่ยนมาทำสวนยางพารา มีรายได้มาใช้จ่ายไม่ขาดมือ ชีวิตครอบครัวเริ่มพลิกผัน กลับกลายมาเป็นครอบครัวที่สุขสบายที่สุดในตำบล แม้แต่ชาวบ้านที่เคยด่าว่า ก็แทบไม่อยากจะเชื่อสายตา

แม้ชีวิตจะเปลี่ยนไป ทว่าสิ่งที่เคยใฝ่ฝันไว้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เธอรวบรวมเงินและความฝันแบกเป้ออกตะลอนทุกปิดเทอม ทริปเปิดโลกครั้งแรกของเธอเริ่มต้นที่ประเทศกัมพูชากับเงินเพียงแค่ห้าพันกว่าบาท เมื่อรู้แล้วว่าการเดินทางไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายเธอก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะออกเดินทางไป รอบโลก ให้ได้

หลังจากนั้นทุกปิดเทอม กาญจน์ตัดสินใจแบกเป้ตะลุยเดี่ยวเที่ยว รอบโลก ปิดเทอมหนึ่งครั้งไปหนึ่งประเทศ โดยควานหาที่พักราคาถูกจากทั่วโลก และใช้ชีวิตอย่างประหยัดที่สุดเท่าที่จะทำได้

“เราชอบเดินไปเรื่อย ๆ ตามถนน ไม่นั่งรถเมล์ ไม่ขึ้นรถไฟฟ้า ไม่เคยเปลืองเงินกับเรื่องพวกนั้น เราไปเพื่อให้เห็น เราไม่ได้ไปเพื่อสบาย ถ้าอยากสบายนอนบ้านตัวเองก็ได้ ส่วนเรื่องกินก็กินอะไรเท่าที่เรามีความสามารถจะกินได้ก็พอ…

“ตอนไปเนปาล ชาวบ้านที่นั่นเดินไปตรงไหนถ้าอยากถ่ายก็จะถ่ายลงตรงนั้น เราต้องนั่งกินข้าวข้างกองอุจจาระตลอดเวลา ถ้าไม่กินก็ตาย เวลานอนก็ต้องนอนบนลานที่ปูด้วยขี้จามรี นอนท่ามกลางผู้ชายที่เป็นคนนำทาง จากนั้นมา เรากินอะไร นอนที่ไหนได้หมดเลย เพราะที่นั่นลำบากที่สุดแล้ว”

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้หญิงตัวคนเดียวจะออกไปโลดแล่น รอบโลก ได้โดยปราศจากอุปสรรคหรือไม่เสี่ยงอันตราย ไม่เพียงแค่ตกรถ ตกเครื่อง หรือหลงทาง บ่อยครั้งที่หญิงสาวตัวเล็ก ๆ ผิวคล้ำคนนี้ถูกมองว่าเป็นหญิงขายบริการ ถูกหญิงจัณฑาลในอินเดียรุมตีหัวเพราะไปถ่ายรูปพวกเขา ถูกขโมยกระเป๋าทั้งยังถูกจี้จนต้องวิ่งหนีเตลิด

…แม้บางครั้งถึงกับต้องเสียน้ำตา ทว่าขาของเธอก็ไม่เคยหยุดก้าวเดิน…

จากประสบการณ์เลวร้ายที่ผ่านมาหลายครั้งหลายคราทำให้เธอต้องหาวิธีป้องกันตัวสารพัด

“ตั้งแต่วันที่ตัดสินใจเดินทางคนเดียว เราก็ตัดสกินเฮดเพื่อจะได้ดูเป็นทอม แม้ว่าจะชอบไว้ผมยาวมากก็ตาม ไม่แต่งตัวยั่วยวน ไม่แต่งหน้า ถ้าวันไหนต้องนอนรวมกับผู้ชาย เราจะใส่กางเกงยีนนอน แล้วก็ใส่แหวนนิ้วนางข้างซ้ายตลอด ให้คนคิดว่าเราแต่งงานแล้ว”

การแบกเป้ออกเดินทางของ กาญจนา ไม่ได้เป็นไปเพื่อความสนุกและความสุขของตัวเองเท่านั้น แต่เธอยังได้แบ่งปันประสบการณ์และมีส่วนสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ ที่โรงเรียนโดยการจัดกิจกรรม หรือจัดบอร์ดรูปภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่ไปเยี่ยมเยือนทุกครั้งที่เดินทางกลับมา

“เด็กในโรงเรียนของเราคือเด็กยากจน เราเองก็จน แต่ทำไมเราถึงไปเที่ยวรอบ โลก ได้ล่ะ เราใส่ความคิดนี้ลงไปเพื่อให้เด็ก ๆ เกิดแรงบันดาลใจ กล้าที่จะฝัน แล้วไปให้ถึงฝันนั้น…มีเด็กที่เราไม่ได้สอนเดินมาบอกว่า…‘ครูคะ ๆ รู้ไหมคะว่าครูคือไอดอลของหนู ครูทำให้หนูมีกำลังใจ’…เราจะสอนเขาว่า

อย่าดูถูกตัวเอง…เราเชื่อว่าที่เราเป็นแบบนี้ได้เพราะความฝันในวัยเยาว์เช่นกัน”

ในวัยนี้ แม้คนส่วนใหญ่จะมองว่าเธอควรเก็บเงินไว้เลี้ยงตัวเองยามแก่ชรา แต่นางสาวกาญจนา กลับไม่คิดเช่นนั้น เธอใช้เงินที่ได้มาจากหยาดเหงื่อแลกกับการออกเดินทางเพื่อเป็นรางวัลให้ตัวเอง เธอเชื่อว่าชีวิตคนเรานั้น การจะอยู่ได้อีกนานเท่าไรเป็นเรื่องไม่แน่นอน และความสุขก็อยู่ที่เส้นทางที่เราเลือกเอง

“คิดว่าคงจะเดินทางไปจนกว่าขาจะเดินไม่ได้หรือร่างกายจะไปไม่ไหว…ที่ตลกมากคือเดินทางรอบ โลก ไม่เป็นไร แต่ดันมาถูกรถชนที่หน้าโรงเรียนแล้วเดินไม่ได้ ตอนนั้นเสียใจมากที่ไม่ได้ไปแบ็กแพ็ค แต่ได้พบสัจธรรมเลยว่า สิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตเราไม่ใช่เงิน แต่เป็นขาฉันเองนี่แหละ” พูดจบพร้อมกับหัวเราะขำ

“เราทุกคนมีความฝันในวัยเด็กที่เข้มข้นอยู่ในจิตใจ เราไม่รู้หรอกว่าฝันนั้นจะเป็นไปได้หรือไม่ แต่ถ้าเรากล้า มันจะส่งให้เรามีแรงบันดาลใจ แล้วอยู่อย่างมีความหวัง และพร้อมที่จะทำฝันนั้นให้เป็นจริง”

หากวันนี้สองขายังมีเรี่ยวแรง ลองค้นเอาความฝันในวัยเยาว์ที่วางทิ้งไว้ในลิ้นชักออกมาปัดฝุ่น พร้อมกับพกความกล้าใส่กระเป๋าเป้ แล้วสะพายออกไปตามหาฝันของตัวเองตั้งแต่ตอนนี้…ก็ยังไม่สาย

 

เรื่อง รำไพพรรณ บุญพงษ์ ภาพ วรวุฒิ วิชาธร


บทความน่าสนใจ

ไข่มุก ชุติมา ดุรงค์เดช กล้าที่จะ”ฝัน”และทำมันให้เป็น “จริง”

พัชรมณฑ์ เสวะนา หญิงผู้วาดความฝันด้วยเท้าทั้งสองข้าง

น้องโอ เด็กดี ผู้มีมานะ ขายข้าวไข่เจียวเลี้ยงตนและน้อง สานฝันเรียนให้จบดั่งใจหวัง

5 เทคนิค เก็บเงิน เที่ยวต่างประเทศ เพื่อทริปในฝันของคุณ

“ออกแบบความคิดพิชิตฝัน” แรงบันดาลใจผ่านตัวอักษรของ เอกพนิฏฐ์ นาคนคร

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.