ติ๊ก ชิโร่ มนัสวิน นันทเสน

ชีวิตนี้มีแต่ “ให้” ของ ติ๊ก ชิโร่ มนัสวิน นันทเสน (จบ)

ชีวิตนี้มีแต่ “ให้” ของ ติ๊ก ชิโร่ มนัสวิน นันทเสน (จบ)

ดูจากบุคลิกภายนอกของผม ติ๊ก ชีโร่ มนัสวิน นันทเสน หลายคนอาจไม่เชื่อว่าผมรักการเรียน ในชีวิตนี้ผมคิดว่าเราเรียนรู้ได้ไม่จบไม่สิ้น การศึกษาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์จะทำให้ตัวเองได้ และการเรียนสำหรับผมก็เป็นเรื่องสนุกจริงๆ ครับ

หลังจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชมงคลนครราชสีมาแผนกศิลปกรรม ผมก็เรียนจนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา สาขารัฐประศาสนศาสตร์ และได้รับปริญญาโทอีกสองใบจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ (EPA)และจากวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ สาขาบริหารธุรกิจ (MBA) และปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

นี่เป็นการเรียนรู้ในห้องเรียนของผม แต่นอกห้องเรียนผมก็ได้เรียนรู้อะไรอีกมากมาย ตั้งแต่เด็กๆ มาแล้ว ผมไม่ได้ตีกลองเก่ง แต่ด้วยความมุมานะในการฝึกซ้อมทำให้ผมได้รับรางวัลมือกลองยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2527 และยังได้รับรางวัลจากความหมั่นเรียนรู้อื่นๆ คือ รางวัลโปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยม สีสันอะวอร์ดส์ 2533รางวัลนักร้องชายยอดเยี่ยม สีสันอะวอร์ดส์ 2534 รางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมจากเรื่อง วิมานมะพร้าว 2534 ฯลฯ

ทุกวันนี้ผมพอใจกับความสำเร็จของตัวเอง และคิดว่าตัวเองโชคดีกว่าเอลวิส เพรสลีย์ และไมเคิล แจ๊คสัน รวมกัน เพราะผมมองว่าในขณะที่เอลวิส เพรสลีย์ ประสบความสำเร็จ คุณแม่ของเขาก็ไม่ได้มีชีวิตเห็นความสำเร็จนั้น แต่สำหรับผม ในวันที่ประสบความสำเร็จ

ผมมีทั้งพ่อแม่ พี่น้องคอยยินดีกับความสำเร็จของผม ถึงแม้ว่าความสำเร็จนี้จะเทียบไม่ได้เลยกับความสำเร็จของเอลวิส เพรสลีย์

ส่วนไมเคิล แจ๊คสัน เขาเป็นนักร้องโด่งดังมีชื่อเสียงไปทั่วโลกร่ำรวยมีเงินเป็นหมื่นล้านพันล้าน สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถใช้เงินที่หา

มาได้อย่างที่ใจต้องการ แต่สำหรับผม ผมยังมีลมหายใจ มีเงินแบบพอกินพอใช้ และยังสามารถเผื่อแผ่ให้คนอื่นได้

“ผมอยากให้โอกาสเด็กๆ”

ผมเป็นคนรักเด็ก จึงอยากให้โอกาสกับเด็กๆ ในสังคม ที่สำคัญผมพบว่ายังมีเด็กในสังคมอีกมากมายที่ยังไม่ได้รับโอกาสเท่าที่ควรในการแสดงออกถึงความสามารถ ตั้งแต่เริ่มทำเพลง “ไชโย” ผมได้คัดเลือกเด็กตามจังหวัดต่างๆ โดยประสานงานผ่านคุณครู เพื่อให้เด็กๆ ได้เข้ามาเห็นวิธีการทำงานจริงในสตูดิโอ รวมทั้งคัดเลือกเด็กบางคนมาร่วมร้องเพลงเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออก เด็กหลายคนเมื่อเติบโตขึ้นพวกเขาก็ยังประทับใจกับประสบการณ์ที่ได้รับในวันนั้น บางคนได้เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง บางคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมรู้ว่าสิ่งเล็กๆ ที่ผมทำมีคุณค่ามากกว่าที่คิด

ที่ผ่านมาผมทำงานอยู่ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังในวงการดนตรีมาเกือบยี่สิบปี ได้ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนเด็กๆ อย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ผมยังบริจาคเงินส่วนตัวปีละ 50,000 บาทเพื่อเป็นทุนการศึกษาระยะยาวแก่เด็กในจังหวัดต่างๆ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ ปัตตานี ยะลาและภูเก็ตด้วย

นอกจากนั้นผมยังเคยร่วมงานกับยูนิเซฟและกรีนพีซเพื่อร่วมรณรงค์ในด้านต่างๆ รวมทั้งเข้าร่วมโครงการ “สายเด็ก 1387” หรือ

เรียกสั้นๆ ว่า “Child Line” ซึ่งก่อตั้งโดย หม่อมราชวงศ์สุพินดาจักรพันธุ์ ร่วมกับองค์กรยูนิเซฟและบริษัท ทศท.คอร์ปอเรชั่น จำกัด

(มหาชน) เพื่อทำหน้าที่รับเรื่องร้องทุกข์จากเด็กที่ประสบปัญหาทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ ทั้งเป็นตัวกลางในการประสานงานส่งต่อเรื่อง

ของเด็กให้องค์กรหรือหน่วยงานที่เหมาะสม เพื่อให้เด็กหลุดพ้นจากความยากลำบาก

ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สึนามิ ผมก็ลงไปช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจของคนที่นั่น ตอนนั้นมีผู้ใจบุญบริจาครถตู้ให้ผมทำเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่เพื่อนำหนังสือไปให้เด็กๆ อ่าน รวมทั้งร้องเพลงให้พวกเขาฟัง

ยิ่งไปกว่านั้น ผมยังได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรตามโรงเรียนต่างๆและได้รับเชิญไปพูดคุย ให้กำลังใจน้องๆ เยาวชนที่ต้องโทษ ผมมี

โอกาสไปพูดคุย โอบบ่าโอบไหล่กับพวกเขา นำโดนัทไปให้พวกเขาทานได้สอนเขาเต้น และร่วมกันร้องเพลง ทั้งหมดนี้ผมอยากให้เขารู้ว่า

เขาเป็นบุคคลที่มีคุณค่าของสังคมได้ ถ้าเขารู้จักพัฒนาศักยภาพของตัวเองไปในทางที่ถูกต้อง

ศิลปะคือชีวิตของติ๊ก ชิโร่

คนรอบข้างมักประหลาดใจกับความสามารถที่หลากหลายของผมไม่ว่าจะเป็นงานเบื้องหน้าอย่างร้องเพลง เล่นคอนเสิร์ต แสดงภาพยนตร์เล่นละคร หรืองานเบื้องหลังอย่างแต่งเพลง โปรดิวซ์เพลง จัดรายการวิทยุ รวมทั้งงานที่ทำด้วยใจรักอย่างการทำงานศิลปะ เปิดแกลเลอรี่ของตัวเอง

สำหรับผม ศิลปะคือสิ่งสำคัญในชีวิต ตั้งแต่เริ่มลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้า จนถึงเวลาที่จะหลับตานอนตอนกลางคืน ชีวิตของเราล้วน

ต้องเกี่ยวข้องกับศิลปะด้วยกันทั้งนั้น ผมมีใจรักในการวาดภาพและในที่สุดก็ได้แสดงผลงานของตัวเองในฐานะจิตรกรที่ห้องภาพ 44 อาร์ท คลับแกลเลอรี่ ที่ถนนข้าวสารในปี 2549 ในสายตาของผู้ชม ผลงานของผมมีบางสิ่งบางอย่างที่น่าสนใจ นอกจากจะมีนักสะสมภาพที่มีชื่อเสียงซื้อภาพของผมเก็บไว้แล้ว ก็ยังมีเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงซื้อภาพเก็บสะสมไว้อีกด้วย

ล่าสุดผมได้ร่วมงานกับ คุณอังเดร ฟุกส์ (Mr. Andre Fuchs)ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการดาราดังระดับโลกมาก่อน เขาทำหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับการนำงานศิลปะของผมไปแสดงที่ต่างประเทศ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการติดต่อห้องแสดงภาพศิลปะ เพื่อจัดแสดงภาพวาดของผมในยุโรปและนิวยอร์ก

3 สิ่งที่สำคัญในชีวิต

ทุกวันนี้ผมแบ่งชีวิตออกเป็น 3 ส่วน คือ ครอบครัว งาน และสังคมเพื่อนฝูง เวลาในชีวิตของผมต้องหารสาม ไม่สามารถเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้อย่างเดียว เพราะทั้งหมดคือชีวิตจิตใจของผม

ผมอยากมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น จึงพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมให้อิสระลูกสาวทั้งสองคน (ชามันดา – เลอทีญานันทเสน) ในการแสดงออก เขาจะวาดภาพ ร้องเพลง หรือทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น ขอให้เขามีความสุขในสิ่งที่ทำ ส่วนภรรยา คุณอ้อ -พรรทิรา นันทเสน ผมพยายามใช้เวลากับเธอให้มากที่สุด เพราะรู้ดีว่างานของผมไม่มีเวลาแน่นอนตายตัว บางช่วงก็เลิกดึกๆ ดื่นๆ แถมบางครั้งก็ไม่ได้กลับบ้าน แต่โชคดีที่ภรรยาเข้าใจการทำงานของผมเป็นอย่างดี ทำให้ชีวิตครอบครัวค่อนข้างลงตัวและมีความสุข

ผมคิดว่าเมื่อเกิดมาชาติหนึ่ง ก่อนที่จะจากไปกลายเป็นผงธุลีเราควรคิดว่าเราได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมบ้างหรือยัง วันนี้เราควรทำสังคมเล็กๆ ของเราให้แข็งแรง เริ่มจากครอบครัวของเราก่อนแล้วค่อยขยายไปถึงญาติมิตร เมื่อสังคมเล็กๆ ของเราแข็งแรงแล้ว

สังคมใหญ่ของเราก็จะแข็งแรงตามไปด้วย

สักครั้งในชีวิต ลองเป็นผู้ให้ที่ไม่หวังอะไรตอบแทนดูสิครับแล้วความสุขที่ได้รับจะยิ่งทำให้คุณอยากให้และให้…เหมือนกับผม

Secret box

“ยิ่งให้ ก็ยิ่งมีความสุข โดยเฉพาะการให้กับเด็กๆ ที่ยังขาดโอกาส

เพราะเด็กๆ มีศักยภาพในการไขว่คว้าหาโอกาสได้ยากกว่าผู้ใหญ่” – ติ๊ก ชิโร่ (มนัสวิน นันทเสน)


ที่มา: นิตยสาร Secret

อ่านตอนจบได้ที่นี่ ชีวิตนี้มีแต่ “ให้” ของ ติ๊ก ชิโร่ มนัสวิน นันทเสน (จบ)


บทความน่าสนใจ

อนาถบิณฑิกเศรษฐี บุรุษผู้มีแต่ให้

แหม่ม อลิสา ขจรไชยกุล ชีวิตพลิกผันจากดารา…สู่แม่ค้าฮาเฮ ตอน 1

แฮร์ริสัน ฟอร์ด ดาราฮอลลีวูด รุ่นใหญ่ ทำบุญถวายพระพุทธรูปแด่วัดที่สปป.ลาว

ปรับความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน เรื่องราว “การปรับความคิด” ของดาราหนุ่มทั้ง 3 คน

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.