คงไม่มีใครลืมปรากฏการณ์ความรักที่ยิ่งใหญ่จากเหตุการณ์ความสูญเสียที่สะเทือนใจคนในวงการบันเทิงเมื่อ 9 ปีที่แล้วไปได้ง่ายๆ
นับจากคืนที่นักร้องหนุ่มขวัญใจวัยรุ่นปาณรวัฐ (อภิเชษฐ์) กิตติกรเจริญ หรือบิ๊ก D2B ประสบอุบัติเหตุขับรถตกคูน้ำจนเกิดเชื้อราในสมอง นอนนิ่งเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ร่วม 4 ปี ชื่อของ คุณพ่ออุดม กิตติกรเจริญ ก็กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ “ยอดคุณพ่อ” มาโดยตลอด ในช่วงเวลาที่บิ๊กไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ภาพคุณพ่ออุดมและ คุณแม่ยุพา กิตติกรเจริญที่เดินทางมาดูแลลูกชายที่โรงพยาบาลไม่เคยขาด กลายเป็นภาพที่ทุกคนเห็นจนชินตา แม้ว่าอาการของลูกชายจะน่าสิ้นหวังสักเพียงใดก็ตาม
ถึงแม้การจากไปของลูกชายคนเดียวจะไม่ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และถึงแม้คุณพ่อและคุณแม่จะมีเวลาเตรียมใจอยู่นาน แต่แน่นอนว่าความสูญเสียครั้งนี้เป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เพราะคงไม่มีสิ่งใดมาทดแทนลูกชายคนนี้ได้อีกแล้ว
หลายปีผ่านไป บ้านสองชั้นที่รายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ยังคงสงบ ร่มรื่น ข้าวของทุกชิ้นของบิ๊กยังคงถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีรวมถึงภาพถ่ายทุกอิริยาบถตั้งแต่เด็กจนโตตั้งวางไว้ทั่วทุกมุมบ้าน ประหนึ่งว่าลูกชายไม่ได้จากไปไหน
ในอดีตคุณพ่ออุดมได้ทำหน้าที่ “พ่อ”อย่างสมบูรณ์ในการดูแลลูกชายตั้งแต่เด็กจนกระทั่งจากไป ปัจจุบันคุณพ่ออุดมก็ยังคงทำหน้าที่ “สามี” ได้อย่างสมบูรณ์ นั่นคือการดูแลภรรยาซึ่งตอนนี้มีอาการหลงลืมและตาฝ้าฟาง
“หลังจากที่บิ๊กเสียได้ไม่ถึงปี ความดันหัวใจของแม่ก็ผิดปกติ ทำให้เกิดลิ่มเลือดไปกดทับสมอง ส่งผลถึงระบบความจำและสายตา หมอบอกว่าคงรักษาไม่หาย ตอนนี้ยังพอเดินไปเดินมาในบ้านได้ แต่ไม่สามารถโฟกัสได้”
เมื่อความหวังเดียวในชีวิตของพ่อแม่สิ้นไปแล้ว ความสุขในตอนนี้ของทั้งคู่ก็คือการดูแลกันและกันเท่านั้น…
คุณพ่ออุดมต้องพาคู่ชีวิตไปตรวจที่โรงพยาบาลทุก 6 เดือน และหากวันไหนไม่ต้องไปดูแลอพาร์ตเมนต์ซึ่งเป็นรายได้หลักของครอบครัว คุณพ่อก็จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนคุณแม่ คอยดูแลทำงานบ้านรวมทั้งปั่นจักรยานออกไปซื้อกับข้าวที่คุณแม่อยากกินมาให้
นอกจากเลี้ยงแมวแล้ว งานอดิเรกของคุณแม่คือ ชอบดูละคร ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็นภาพในจอทีวี ก็อาศัยฟังแต่เสียงโดยมีคุณพ่อคอยพากย์เสริมให้ตลอด
“เดิมทีไม่ใช่คนชอบแมว แต่เพราะคุณแม่ชอบ ตอนนี้เลยเลี้ยงและดูแลอย่างดีเหมือนลูก” คุณพ่ออุดมแอบสารภาพเบา ๆก่อนที่คุณแม่ยุพาจะเสริมว่า…
“ถ้าไม่มีพ่อ ก็ไม่รู้ว่าแม่จะเป็นยังไงเป็นคนอื่นเขาคงไปแล้ว เพราะแม่ทั้งตาไม่ดี ความจำก็ไม่ดี…แม่คิดอยู่ตลอดว่า…พระเจ้าคงส่งเขามา”
ความหวังอันสูงสุดในชีวิตของคุณพ่ออุดมคือ การดูแลคนที่ท่านรักให้ดีที่สุดเท่านั้น เมื่อก่อนท่านเคยทำธุรกิจอยู่เกือบ 20 ปี แต่สุดท้ายก็ปิดกิจการและผันตัวมาทำอพาร์ตเมนต์ให้เช่า ซึ่งทำให้มีรายได้ที่แน่นอน รวมทั้งมีเวลาดูแลครอบครัวอย่างใกล้ชิด แต่หลังจากที่บิ๊กจากไป คุณพ่อก็ลดราคาค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ลง เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนที่มาเช่า เพราะลำพังพ่อกับแม่ก็ไม่ต้องใช้จ่ายอะไรมากนัก ภาระหนี้สินก็ไม่มี
“ทุกวันนี้เวลารู้สึกคิดถึงบิ๊กก็จะมานั่งดูรูปเขา ยังต่อว่าเขาอยู่ประจำเลยว่า ‘เห็นไหม ม้าบอกแล้วว่าไม่ให้ซื้อรถ ทีนี้เป็นไงล่ะ” คุณแม่ยุพาพูดพลางยิ้มหวานขณะหยิบรูปลูกชายสุดที่รักขึ้นมา แล้วเล่าต่อว่า
“แรกเริ่มที่บิ๊กเข้าวงการ คุณพ่อจะขับรถไปรับส่งตลอด ไม่ว่าจะทำงานดึกแค่ไหน แต่หลัง ๆ บิ๊กเริ่มต้องการพื้นที่ในการเติบโตของเขาเอง เลยดื้อขอมีรถขับคุณพ่อกับคุณแม่ปรึกษากันอยู่นานกว่าจะยอมตามใจ” แม้ความดื้อรั้นของลูกจะนำมาซึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้พ่อแม่ต้องใจสลาย ทว่าด้วยความรักของพ่อแม่ แม้ลูกจะไม่รู้สึกตัว แต่ทั้งคู่ก็ยังมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกตราบจนวินาทีสุดท้าย
พอพูดถึงบิ๊ก คุณพ่ออุดมก็เริ่มเล่าย้อนไปถึงช่วงที่บิ๊กป่วย…กระทั่งถึงวันที่พาลูกชายกลับบ้านในสภาพเจ้าชายนิทรา
“พ่อดูแลเขาเองทุกอย่าง ไม่เคยปล่อยให้คลาดสายตา…เหมือนที่ทำมาตั้งแต่เด็ก ๆ ขนาดกลับมาอยู่บ้านแล้วพ่อก็ไม่เคยจ้างพยาบาลเลย เพราะความใส่ใจมันไม่เหมือนกัน…
“ตอนที่พาเขากลับไปตรวจที่โรงพยาบาลหมอยังบอกเลยว่า พ่อแม่ดูแลเขาดีมาก ไม่มีแผลกดทับเลย นั่นเพราะเราดูแลเขาด้วยความรัก ไม่ใช่แค่ทำไปตามหน้าที่”
ในช่วงเวลานั้น มีคนกลุ่มหนึ่งที่คอยช่วยเหลือตลอดมานั่นก็คือบรรดาแฟนคลับ นอกจากจะช่วยทำกายภาพบำบัด ป้อนอาหารแล้ว พวกเขายังจัดเวรมาดูแลบิ๊กในตอนกลางคืนสลับกับคุณพ่ออุดมและคุณแม่ยุพา ด้วยความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อศิลปินที่เขารัก ทำให้น้อง ๆ แฟนคลับเหล่านั้นกลายมาเป็นคนในครอบครัวเดียวกันไปโดยปริยาย
“พ่อกับแม่รักพวกเขาเหมือนลูกเหมือนหลาน ยังคิดอยู่ตลอดว่า บิ๊กเขามีบุญมากนะ ถึงมีคนรักมากมายขนาดนี้แถมบุญกุศลเหล่านั้นยังตกมาถึงพ่อแม่ด้วย เพราะแฟนคลับเขารักบิ๊กมาก พวกเขาถึงได้รักพ่อแม่ด้วย”
อาจเป็นเพราะบุญกุศลของบิ๊ก หรืออาจเป็นเพราะพลังความรักอันยิ่งใหญ่ของคุณพ่อคุณแม่เอง ที่ดึงดูดความรักและสิ่งที่ดีงามกลับเข้ามาเช่นกัน
ทุกวันนี้เหล่าแฟนคลับยังคงพากันมาเยี่ยมเยียนที่บ้านบ่อย ๆ บางครั้งก็มาทำบุญเลี้ยงพระและถวายสังฆทานร่วมกัน
บนโลกกลม ๆ ใบนี้ทุกสิ่งย่อมเสื่อมสลาย ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย เงินทอง หรือลาภยศใด ๆ แต่สองสิ่งที่จะเป็นพลังหล่อเลี้ยงชีวิตตลอดไปโดยไม่มีวันสูญสลาย…
คือ “ความดี” และ “ความรัก”เท่านั้น
เรื่อง ญาตาวี ชุมนุมวรรณ
เรียบเรียง ณัฐนภ ตระกลธนภาส www.facebook.com/nutthanop.tr ภาพ สรยุทธ พุ่มภักดี
