ผม(ไพโรจน์ ใจสิงห์) รักษาตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลาร่วมปี แล้ววันหนึ่งอาการก็ทรุดหนักอีกครั้ง จนต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยด่วน
วันนั้นผมรู้สึกมึนหัวเหมือนบ้านหมุนตอนตีสาม พยายามข่มตานอนให้หลับ แต่กลับเวียนหัวมากขึ้นและอาเจียน คุณนกภรรยาของผมเห็นว่าอาการไม่ค่อยดี จึงรีบพาไปโรงพยาบาลทหารผ่านศึกที่เคยรักษามาตั้งแต่แรก สาเหตุที่อาการทรุดหนักเกิดจากผมไม่ได้กินยาตามแพทย์สั่ง เพราะช่วงนั้นการเงินค่อนข้างขัดสน ทำให้ไม่สามารถไปรับยาได้อย่างต่อเนื่อง
หลังออกจากโรงพยาบาล อาการยังไม่ดีขึ้นเพราะปัสสาวะติดขัด ถ่ายผิดปกติและมีไข้ คุณนกจึงโทร.หา คุณบิณฑ์
บรรลือฤทธิ์ ให้ช่วยนำรถมารับไปส่งโรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลตามที่ผมมีสิทธิ์รักษาตามบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า และเคยมีคุณหมอจากที่นี่มาเยี่ยมเยียนดูอาการที่บ้านก่อนหน้านี้
การไปรักษาตัวครั้งนี้มีเพื่อนในวงการบันเทิงที่รู้ข่าวตามมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลกันหลายคนจนเป็นข่าวดังขึ้นมา ทำให้คนทั่วไปรู้ว่าผมป่วย เพราะเห็นจากภาพข่าวว่าผมผอมไปมากจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม
พ่อค้ามือใหม่
เมื่อเจ็บป่วยจนไม่สามารถทำงานได้ดังเดิม เงินที่เก็บสะสมมาหมดไปกับค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ค่ายาค่ารักษาตัว แม้ช่วงที่เป็นข่าวจะมีคนเข้ามาช่วยเหลือเรื่องเงินทอง ถึงอย่างนั้นผมก็ยังย้ำกับภรรยาเสมอว่า
“อย่าไปรบกวนใคร เกรงใจเขา”
จากคำพูดนี้เอง วันหนึ่งคุณนกจึงมาปรึกษาว่าอยากจะค้าขายเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว เพราะเธอเองก็เป็นแม่บ้านเต็มตัว มีเพียงรายได้พิเศษจากการทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เราปรึกษากันอยู่สักพัก เธอก็เสนอว่าอยากจะทำชุดสังฆทานหรือของถวายพระ จะได้มีรายได้และได้บุญด้วย สุดท้ายจึงมาลงเอยที่ขายผ้าขนหนูเนื้อดีสำหรับเป็นชุดสังฆทานถวายพระสงฆ์
จากนั้นคุณนกเริ่มหาข้อมูลและติดต่อไปตามบริษัทผลิตผ้าขนหนูหลายแห่ง จนได้คุยกับเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อเขาทราบว่าเราอยากจะได้ผ้าสำหรับถวายพระจึงแนะนำผ้าขนหนูเยื่อไผ่ แม้ราคาค่อนข้างสูง แต่คนส่วนใหญ่มักจะเลือกสรรแต่ของที่ดีที่สุดเพื่อถวายพระอยู่แล้ว
ช่วงแรกเรายังไม่มีหน้าร้านขายของแต่ก็มีคนสั่งซื้อเข้ามาเยอะเพราะได้ยินข่าวว่าผมป่วยและขายชุดสังฆทาน แต่เมื่อข่าวซาลงยอดสั่งซื้อก็ค่อย ๆ ลดลงจนเงียบหายไป คุณนกมาปรึกษาว่าอยากจะเปิดหน้าร้าน จะได้ขายเป็นเรื่องเป็นราว จึงได้มาเช่าตึกแถวที่ถนนโชคชัย 4 หน้าซอย 46และเปิดร้านชื่อว่า อริยบารมี
เปิดร้านแรก ๆ เจอช่วงเคอร์ฟิวพอดีจึงไม่ค่อยมีลูกค้าแวะเวียนมาเท่าไหร่ บางวันผมมานั่งรอลูกค้าทั้งวัน กลับไม่มีลูกค้าเข้ามาสักคน ทำให้ใจเสียบ้าง แต่คุณนกก็คอยปลอบใจและให้กำลังใจเสมอ จนวันหนึ่งรายการ ตลาดสดสนามเป้า มาถ่ายรายการ เมื่อรายการออกอากาศจึงมีคนรู้จักและมาอุดหนุนมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมจะออกมานั่งต้อนรับลูกค้าทุกวัน หรือถ้ามีลูกค้าโทร.มาก็จะพูดคุยแนะนำสินค้าในร้านพอได้เจอได้พูดคุยกับคนมากมายก็ช่วยคลายความเหงาไปได้
เปิดบ้านปฏิบัติธรรม
ตลอดระยะเวลาที่ผมรักษาตัวอยู่ที่บ้านค่อนข้างลำบากเพราะปรับตัวหลายอย่าง โชคดีที่มีภรรยาคอยดูแลและให้กำลังใจอยู่เสมอ แม้ผมไม่ได้พูดหรือแสดงออกว่าเครียด แต่ในใจก็ทุกข์อยู่ไม่น้อย บางครั้งก็ท้อจนถึงกับเคยพูดออกไปว่า
“ให้มันตาย ๆ ไปเถอะ จะได้ไม่ต้องลำบาก”
แต่เธอกลับให้กำลังใจผมเสมอว่า
“ทำใจสบาย ๆ นะพี่ อย่าคิดอะไรมากไม่ต้องไปกังวลอะไร”
ระหว่างที่เธอดูแลผม เธอมักเล่าเรื่องธรรมะให้ฟัง ยามว่างก็เปิดบทสวดมนต์ให้ฟังเพื่อให้จิตใจสบาย เมื่อได้ฟังบ่อย ๆ เข้าผมก็เริ่มซึมซับมาเป็นนิสัย หลัง ๆ มานี้ผมรู้สึกสุขใจที่ได้ฟังธรรมะ ชอบให้ภรรยาเปิดบทแผ่เมตตาให้ฟัง แล้วก็ชวนเธอและลูกไปทำบุญหรือปล่อยปลาอยู่เป็นประจำ
เมื่อคุณนกเห็นว่าการที่ผมเริ่มสนใจธรรมะทำให้เกิดความสุขสงบทางใจและส่งผลให้ร่างกายของผมแข็งแรงขึ้น เธอจึงปรึกษาผมว่าอยากจะเข้าโครงการเปิดบ้านปฏิบัติธรรม ผมก็เห็นดีด้วย เพราะการที่เราเปิดบ้านให้มีคนเข้ามาฟังพระเทศน์และสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำให้ผมและครอบครัวได้ร่วมปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอไปด้วย
ทุกวันอังคารตอนเย็นเวลาประมาณหกโมงเย็นถึงสองทุ่ม ร้านอริยบารมีจะกลายเป็นสถานที่ฟังเทศน์ฟังธรรมและสวดมนต์ นั่งสมาธิของคนในละแวกนี้ ทุกวันนี้การสวดมนต์ไหว้พระ ฟังธรรม กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผมไปแล้ว
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมปลาบปลื้มใจทุกครั้งที่คิดถึงคือ คอปเตอร์ (เตชะพล ใจสิงห์) ลูกชายของผม ได้บวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ ถ้าเอ่ยถึงเรื่องนี้เมื่อไหร่ ผมถึงกับน้ำตาปริ่มด้วยความดีใจทุกครั้งไป ส่วน สโนไวท์ (อุปาสิการตน์ ใจสิงห์)ลูกสาวคนเล็ก ก็ใฝ่ในทางธรรม ชอบเข้าวัดทำบุญปฏิบัติธรรม และช่วยเป็นธุระดูแลพ่อได้อย่างไม่บกพร่อง
ทุกวันนี้ผมยังคิดถึงงานการแสดงและผู้ชมที่เคยติดตามผลงานของผมอยู่เสมอบางครั้งเวลาเหงาก็เคยบ่นออกไปว่า
“แก่แล้วเนอะ ไม่มีใครเขาจ้างแล้ว”
“ไม่ใช่อย่างนั้น พี่ไม่สบายอยู่”
คุณนกปลอบ ทั้งยังพูดแหย่ให้ผมหัวเราะว่า
“ถ้ามีบทนั่งเฉย ๆ ไม่ต้องพูด เดี๋ยวเขาก็ติดต่อมา”
วันนี้แม้ผมจะมีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้าต้องกินยามากมายหลายอย่าง แต่ผมก็มีกำลังใจดี ๆ จากครอบครัว จากลูกค้า ที่สำคัญคือ ผมมีธรรมะที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้ผ่องใส ทำให้มีความสุขสงบอย่างแท้จริง
ร้านอริยบารมี 10/50 - 51 ถนนโชคชัย 4 ซอย 46 เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์ 09-0505-3088
(เรื่อง ไพโรจน์ ใจสิงห์ เรียบเรียง เชิญพร คงมา ภาพ วรวุฒิ วิชาธร สไตลิสต์ สุธีร์ รติวัฒน์บุญญา)