อัศจรรย์จากการสวดมนต์

อัศจรรย์จากการสวดมนต์ เรื่องเล่าจากผู้ศรัทธาในเรื่องบุญ กรรม และการสวดมนต์

อัศจรรย์จากการสวดมนต์

เรื่องเล่าจากผู้ศรัทธาในเรื่องบุญ กรรม และการสวดมนต์

อัศจรรย์จากการสวดมนต์ เป็นเรื่องเล่าจากผู้ศรัทธาในเรื่องบุญ กรรม และการสวดมนต์ ท่านหนึ่ง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ

ไม่น่าเชื่อว่าตั้งแต่สวดมนต์ไหว้พระอย่างสม่ำเสมอ  ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง นิมิตฝัน

ดิฉันเริ่มสวดมนต์เป็นเรื่องเป็นราวเมื่อวันที่ 1 เดือน 9  ปี พ.ศ. 2545  ก่อนหน้านั้นสามี (ดร.ชาญวิทย์  ผลชีวิน) เคยเตือนว่าเรากินบุญเก่าอยู่  ถ้าไม่สวดมนต์บ้าง  เมื่อหมดบุญเก่าจะลำบาก  ตอนนั้นยังไม่เชื่อนักเพราะคิดเสมอว่าตนเองเกิดมาเป็นแต่ผู้ให้จะลำบากได้อย่างไร  แต่เหมือนฟ้าลิขิตให้ได้ฟังบทสวดมหากรุณาธารณีสูตร  ซึ่งเป็นพระ-คาถาที่บังเกิดจากความเมตตากรุณาอันยิ่งใหญ่ของพระโพธิสัตว์  จึงเริ่มสวดพระคาถานี้  ต่อมามีโอกาสไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดเขาอิติสุคโตจำได้ว่านั่งสมาธิครั้งแรกรู้สึกเหมือนพระแก้ว-มรกตที่อยู่ตรงหน้าส่งพลังจากพระเนตรเป็นลำแสงมาที่ดวงตา ดิฉันจึงอธิษฐานจิตว่า

“หากลูกต้องทำหน้าที่รับใช้พระศาสนาไม่ว่าทางใดก็ตาม  ขอโปรดมารับสั่งลูกทางนิมิตฝันด้วยเทอญ”

หลังจากนั้นดิฉันก็ตั้งหน้าตั้งตาสวด-มนต์ภาวนาและนั่งสมาธิ  ไม่นานนักก็สามารถจำบทสวดได้โดยอัตโนมัติ  ปรากฏว่าช่วงใกล้รุ่งสางมักเกิดนิมิตฝันเรื่องราวต่าง ๆ มากมายทั้งเรื่องให้ทำหน้าที่หรือให้ป้องกันเหตุร้ายเมื่อเล่าให้คนในครอบครัวฟัง  บางคนก็บอกว่าดิฉันเพ้อเจ้อ  บางคนก็บอกว่ากินมากก็ฝันมาก  ดิฉันมิได้ติดใจอะไร  จนวันหนึ่งน้องชายคนสุดท้องพูดขึ้นว่า

“ฝันเยอะ ๆ แบบนี้  ก็บันทึกเอาไว้สิ”

ดิฉันจึงเริ่มเขียนบันทึกความฝันของตนเองตั้งแต่นั้นมา  ซึ่งต้องขอบคุณน้องชายคนนี้  เพราะบันทึกนี้กลายเป็นหลักฐานยืนยันว่าสิ่งที่ดิฉันฝันไม่ใช่เรื่องงมงาย  แม้ว่าอาจเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก  แต่ดิฉันเชื่อมั่นว่านิมิตฝันที่เกิดขึ้นเป็นความจริงและเกิดจากพลังของการสวดมนต์ภาวนา

ดิฉันเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา  จึงรักและเทิดทูนบูชาสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พระอัครมเหสีในพระบาท-สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)  เหมือนลูกพระนางทุกคน  แล้วเป็นเรื่องอัศจรรย์ว่าพระองค์ท่านมักเสด็จมาในนิมิตฝันของดิฉัน  เพื่อมาประทานพรและสื่อสารอยู่เป็นประจำ  พระองค์ท่านทรงงดงามตามแบบฉบับหญิงไทยสูงศักดิ์

วันหนึ่งดิฉันฝันเห็นหุ่นสีขาวที่พอมองออกว่าเป็นเด็กผู้หญิง  และมีเสียงบอกว่า

“แม่ หนูยังไม่ได้มาเกิดเลย”  ดิฉันตอบว่า

“ไปเกิดกับคนอื่นได้ไหม  แล้วแม่จะนำหนูมาเลี้ยงเอง”

หุ่นสีขาวนั้นตาโตขึ้นมาทันทีแล้วมีน้ำตาไหลเป็นทาง  ส่วนดิฉันสะดุ้งตื่นทั้งน้ำตา

MOL-079
ครอบครัวผลชีวิน  ประกอบด้วยโค้ชหรั่ง - ชาญวิทย์  ผลชีวิน, สุชาภา  ผลชีวิน และลูกๆ ทั้งสี่ คือ  อมลกานต์, อุรุรัตน์, ท่าน และเวลา  ผลชีวิน

เวลานั้นดิฉันมีลูกสาว 2 คน  กำลังเรียนหนังสืออยู่ที่อเมริกาทั้งคู่  พอฝันเห็นเด็กผู้หญิงก็ยิ่งสวดมนต์ทุกเช้าค่ำ  เพื่อให้หาเขาเจอ  แต่ยังไม่ทันได้พบก็ฝันอีกว่า  เด็กผู้ชายอีกคนรออยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง  ดิฉันรีบตามไปที่วัดนั้นทันที  เมื่อมาถึงก็พบผู้หญิงคนหนึ่งที่มาบวชชีพราหมณ์  เธอกำลังตั้งครรภ์  ดิฉันจึงตั้งจิตอธิษฐานว่า  ถ้าเด็กในท้องคือลูกขอให้เขาดิ้นเมื่อมือเราสัมผัสไปที่ท้องของผู้หญิงคนนั้น  ปรากฏว่าเด็กดิ้นตอบรับทันทีที่น่าแปลกใจมากกว่านั้นคือ ผู้หญิงคนนั้นบอกยกลูกในท้องให้  ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เอ่ยปากขอแต่อย่างใด

เมื่อใกล้กำหนดคลอด  ดิฉันพาเธอมาดูแลอย่างใกล้ชิดและช่วยจัดการเรื่องการคลอดให้ทุกอย่าง  จนได้ลูกชายมีลักยิ้มแก้มขวามาเป็นบุตรบุญธรรมโดยสมบูรณ์  “พี่แชมป์”  ลูกสาวคนรองเป็นคนตั้งชื่อเล่นว่า “น้องทีม”

หลังจากตามหาน้องทีมจนเจอแล้วดิฉันไม่เคยลืมลูกสาวที่ให้สัญญาไว้กับเขาแต่การสื่อสารกับลูกสาวหายไป  จนกระทั่งน้องทีมอายุได้ 4 - 5 ขวบ  ก็ฝันว่าลูกสาวไปเกิดอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี  และเป็นญาติกับน้องคนหนึ่งที่สนิทและนับถือกัน  เธอเรียกดิฉันว่าแม่  ดิฉันจึงชวนสามีและลูกสาวที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกาไปบ้านของน้องคนนี้ อาจเป็นเพราะบุญหรือธรรมะจัดสรรมีผู้หญิงตั้งครรภ์มาบ้านน้องคนนี้พอดี  ตอนนั้นไม่มีใครทราบเลยว่าเธอตั้งครรภ์  แต่ดิฉันถามเธอว่า  “หนูท้องได้ 4 เดือนแล้วใช่ไหม” เธอตกใจ  เพราะญาติ ๆ ที่มาพร้อมกันในวันนั้น

ไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อน  พอเธอพยักหน้าดิฉันก็บอกว่าลูกในท้องเป็นผู้หญิง  เธอเถียงว่าเป็นผู้ชาย  ดิฉันได้แต่ยิ้ม ๆ  และบอกให้ดูแลลูกในท้องให้ดี  จากนั้นดิฉันส่งเงินไปให้เธอตามสมควร  จนใกล้คลอด  เธอไปบวชชีพราหมณ์และไปบวงสรวงวันประสูติสมเด็จ-พระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯที่ตลาดน้ำ 4 ภาค  เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2549  วันนี้เองที่เธอยกลูกสาวในครรภ์ให้โดยที่ดิฉันไม่ได้ขอ  นับเป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างยิ่งหลังคลอด ดิฉันรับลูกคนนี้มาดูแลในฐานะลูกบุญธรรม  ลูกสาวคนนี้มีลักยิ้มข้างขวาเหมือนน้องทีม  คราวนี้พี่โค้ชตั้งชื่อจริงให้เขาว่า “เด็กหญิงเวลา”  ส่วนพี่แชมป์ตั้งชื่อเล่นว่า “น้องไทม์”

ลูกทั้งสองมาเติมเต็มความสุขให้แก่พวกเราทุกคน  โดยเฉพาะพี่โค้ช  พี่แชมป์ลูกสาวสองคนรักและดูแลน้อง ๆ เหมือนน้องในไส้  ส่วนดิฉันมีความสุขที่ได้ลูก ๆ กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งในภพชาตินี้

เรื่องราวที่เกิดขึ้น  ดิฉันเชื่อว่าเกิดจากการปฏิบัติ  ผลบุญจากการสวดมนต์ทำให้พบเจอเรื่องอัศจรรย์  ได้เจอลูกในอดีตชาติที่มีสัญญาต่อกัน  ธรรมะทำให้ดิฉันศรัทธาเชื่อในเรื่องผลบุญ  ผลกรรม  และเชื่อในเรื่องของภพชาติ

ดังนั้นดิฉันจะตั้งใจทำบุญให้ทานสวดมนต์ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ 


เรื่อง สุชาภา  ผลชีวิน  เรียบเรียง สุพรรษา  แก้วแสงธรรม  

ภาพ สรยุทธ  พุ่มภักดี  

สไตลิสต์ ณัฏฐิตา  เกษตระชนม์


บทความน่าสนใจ

รวม 11 บทสวดมนต์ข้ามปี เพื่อเป็นสิริมงคลในชีวิตรับปีใหม่

Dhamma Daily : เวลาสวดมนต์มักคิดฟุ้งซ่าน อย่างนี้จะได้ อานิสงส์จากการสวดมนต์ หรือเปล่า

สวดมนต์ทำไมและสวดอย่างไรไม่เป็น “มนต์คาถา” ท่านว.วชิรเมธี มีคำตอบ

ทางวิทยาศาสตร์เผย การสวดมนต์ เบาๆ มีประโยชน์มาก

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.