บทความให้กำลังใจ

อาจไม่ใช่ ” โชคร้าย ” ก็ได้นะ บทความให้กำลังใจ จาก นายแพทย์ชวโรจน์

อาจไม่ใช่ ” โชคร้าย ” ก็ได้นะ บทความให้กำลังใจ จาก นายแพทย์ชวโรจน์ เกียรติกำพล

เรื่องราวทั้งหลายในชีวิตของเรานั้นล้วนมีที่มาและที่ไป  กล่าวได้ว่า  เพราะมีสิ่งนั้น  สิ่งนี้จึงมีอยู่ บทความให้กำลังใจ

บ่อยครั้งที่เรื่องราวในชีวิตของคนคนหนึ่งอาจเริ่มต้นด้วยเรื่องราวอันเลวร้ายและเจ็บปวด  หลาย ๆ คนเคยต่อว่า  พร่ำบ่นถึงเรื่องร้าย ๆ หรือความไม่ยุติธรรมที่เกิดในชีวิตของเขา  หากเราลองปรับความเข้าใจดู  บางทีเราอาจจะพบว่า เรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นอาจเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นเพื่ออะไรบางอย่าง และบางอย่างนั้นอาจจะกลายเป็นเรื่องที่ดีในที่สุดก็ได้นะครับ

ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้  เพื่อนสนิทสมัยมัธยมคนหนึ่งได้โทรศัพท์มาหาผม  เราไม่ได้ติดต่อกันมานาน  เพราะหลังเรียนจบต่างคนต่างก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง เขาเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เช้ามีอาการปวดท้องจุกแน่นเหมือนโรคกระเพาะที่เคยเป็นอยู่ประจำ  เขาลองซื้อยามากินเอง  แต่อาการปวดก็ไม่ดีขึ้น  กลับปวดมากขึ้นด้วยซ้ำ แถมยังคลื่นไส้และอาเจียนมาก  ตัวร้อนเหมือนมีไข้

ผมคิดว่านี่ไม่ธรรมดาเสียแล้ว  จึงบอกให้เขามาตรวจที่โรงพยาบาล  หลังตรวจร่างกายเสร็จก็บอกเขาไปว่า  “สงสัยไส้ติ่งอักเสบนะ  เตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัดได้เลยเพื่อน”

เพื่อนของผมตกใจและโวยวายเป็นการใหญ่  “ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยนะแย่จริง ๆ  เรากำลังจะไปประชุมต่างจังหวัดอยู่แล้วเชียว  การประชุมครั้งนี้เราเป็นคนนำเสนอผลงานด้วย  อาจมีผลต่อการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งตอนสิ้นปีเลยนะ  ช่วงนี้มีแต่โชคร้ายเข้ามาในชีวิตเราจริง ๆ”  แล้วเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

ผมเองเห็นเพื่อนทำหน้าเศร้าก็รู้สึกเครียดตามไปด้วย  ได้แต่พูดปลอบใจเขาไปว่า  “เอาเถอะเพื่อน  รักษาตัวให้หายก่อนค่อยว่ากัน  บางทีนี่อาจไม่ใช่โชคร้ายก็ได้นะ”

เขาไม่ตอบอะไร  ในใจอาจกำลังบ่นว่าปลอบใจอะไรกันเนี่ย  ไม่เห็นเข้าท่าเลย  แต่จริง ๆ แล้วคำพูดนี้ผมจำมาจากการอ่านนิทานเรื่องหนึ่ง  แล้วประทับใจเลยนำมาปลอบใจเขา  นิทานเรื่องนี้เขียนโดย โจล  เบ็น  อิซซี่ นักเล่านิทานชื่อดัง  เป็นนิทานจากประเทศจีน  ชื่อเรื่อง ม้าที่หายไป  เรื่องมีอยู่ว่า….

 

ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศจีน  มีชายผู้หนึ่งมีม้าที่มีลักษณะสง่างามมาก  ผู้คนต่างพากันมาจากทั่วสารทิศเพียงเพื่อชื่นชมม้าตัวนี้  แต่อยู่มาวันหนึ่งม้าของเขาได้หนีออกจากคอกและวิ่งเตลิดหายไปในป่าที่อยู่ใกล้ ๆ  แค่ชั่วพริบตาเขาก็เสียม้าอันแสนสง่างามของเขาไป  เมื่อผู้คนรู้ข่าวต่างก็พากันมาแสดงความเสียใจ  ทุกคนบอกกับเขาว่า  “ม้าของท่านหนีไปแล้ว  ช่างโชคร้ายอะไรเช่นนี้”  แต่ละคนพยายามปลอบโยนเขา  แต่เขากลับตอบว่า  “พวกท่านทราบได้อย่างไรว่านี่คือโชคร้าย”

หลังจากนั้นอีก 2 - 3 สัปดาห์ ม้าตัวนั้นก็กลับมา  แต่มันไม่ได้กลับมาเพียงตัวเดียว มันพาฝูงม้าป่าอันแสนสง่างามเช่นเดียวกับมันกลับมาด้วยอีก 21 ตัว  ม้าทั้งหมดจึงตกเป็นของชายผู้นี้ตามกฎหมายในพื้นที่นั้นทันที เขาจึงร่ำรวยเพราะม้าพวกนี้

ในวันถัดมาลูกชายคนเดียวของเขาพยายามฝึกขี่ม้าป่าตัวหนึ่ง  แต่เขาถูกม้าตัวนั้นเหวี่ยงตกลงมาขาหักและเดินไม่ได้  เมื่อเพื่อนบ้านรู้ข่าวต่างก็พากันมาแสดงความเสียใจและบอกว่า  “ลูกชายท่านช่างโชคร้ายจริง ๆ” แต่ชายผู้นั้นกลับถามอีกเช่นเคยว่า  “ท่านทราบได้อย่างไรว่านี่คือโชคร้าย”

อีก 1 สัปดาห์ต่อมา  จักรพรรดิเสด็จมาที่เมืองนี้และเกณฑ์ชายหนุ่มที่มีร่างกายปกติแข็งแรงสมบูรณ์ทุกคนไปรบกับข้าศึกทางตอนเหนือ  ซึ่งเป็นสงครามที่โหดร้ายมาก  คนที่ไปรบถูกฆ่าตายหมด  มีเพียงลูกชายของเขาคนเดียวเท่านั้นที่รอดตายเพราะไม่ได้ถูกเกณฑ์ไปรบ เนื่องจากเขาขาหัก

เช่นเดียวกับเรื่องราวของเพื่อนของผม  การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี  เพียงไม่กี่วันเพื่อนผมก็ลุกเดินได้ ผมมาเยี่ยมเขาหลังผ่าตัดอีกครั้งในวันหยุด เขาดูแจ่มใสขึ้นมาก  เขาบอกผมว่า  “อาการดีขึ้นมากแล้ว  เจ็บแผลเล็กน้อย  แต่เราต้องขอบคุณการป่วยครั้งนี้แล้วละ  ถือว่าไส้ติ่งอักเสบช่วยชีวิตเราไว้แท้ ๆ เลย  ไม่ได้เป็นโชคร้ายเหมือนที่หมอว่า  แต่มันกลับเป็นโชคดีต่างหาก”  เขาพูดพลางหัวเราะ พอเห็นผมทำหน้าไม่เข้าใจจึงเล่าต่อ

“จริง ๆ เสาร์อาทิตย์นี้เราต้องไปประชุมต่างจังหวัด  และทุกคนที่บริษัทก็ไปกันหมด เราเพิ่งรู้ข่าวเช้านี้เองว่า  คนขับรถตู้หลับในและก็ไม่คุ้นเคยกับเส้นทาง  รถเกิดอุบัติเหตุมีคนเสียชีวิตไปสองคนและบาดเจ็บสาหัสหลายคน  ลองคิด ๆ ดูเราก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าเรื่องราวในชีวิตของเรามีที่มาที่ไปและมีเหตุผลของมันเสมอ”

ผมรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยคำปลอบใจของผมก็เป็นจริง  และที่สำคัญคือ  เพื่อนของผมไม่ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต หลายครั้งที่เราเอาแต่กล่าวโทษโชคชะตาและเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่เกิดขึ้น  ทำให้เรามองข้ามสิ่งดี ๆ ที่เกิดตามมาอยู่เสมอ  เพราะเรื่องราวทั้งหลายในชีวิตของเรานั้น  ล้วนมีที่มาและที่ไปเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน  เพราะมีสิ่งนั้นสิ่งนี้จึงมีอยู่  เพราะมีความทุกข์  ความสุขจึงมีอยู่  เพราะมีโชคร้าย  โชคดีจึงมีอยู่

หากเราฝึกมองโลกอย่างชายเจ้าของม้าในนิทานเรื่อง ม้าที่หายไป ดูบ้าง  เราจะพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรานั้นอาจไม่ใช่โชคร้ายไปเสียทั้งหมด  การฝึกมองหาแง่ดีในแง่ร้ายจะช่วยให้เรามีกำลังใจที่จะต่อสู้กับอุปสรรคมากขึ้น  ไม่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความทุกข์และโชคร้ายที่เราพบเจอ  ไม่เช่นนั้นแล้วโชคร้ายคงกลืนกินชีวิตที่ยังมีคุณค่าของเราไปจนหมดสิ้น

บางครั้งเหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาอาจเป็นเหมือนบททดสอบความอดทนของเรา  หากเราผ่านบททดสอบนี้ไปได้  รางวัลของเราก็คือความสุขและโชคดีนั่นเองครับ

หลายครั้งที่เราอาแต่กล่าวโทษโชคชะตาและเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เรามองข้ามสิ่งดี ๆ ที่เกิดตามมาอยู่เสมอ  เพราะเรื่องราวทั้งหลายในชีวิตของเรานั้นล้วนมีที่มาและที่ไปเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน

 

เรื่องเล่านี้ เขียนโดย นายแพทย์ชวโรจน์  เกียรติกำพล เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร Secret คอลัมน์ Healing Story

Image by Free-Photos from Pixabay

Secret Magazine (Thailand)


บทความน่าสนใจ

ยา ระงับความโกรธ นายแพทย์ชวโรจน์ เกียรติกำพล

ปรุงแต่งให้ดีชีวีมีสุข บทความจาก นายแพทย์ชวโรจน์ เกียรติกำพล

รักษาไข้ด้วยใจ “ กรุณา ” บทความให้กำลังใจจาก นายแพทย์ชวโรจน์  เกียรติกำพล

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.