คิดเป็น

12 ชั่วโมงแห่งการ “ คิดเป็น ” มองโลกใหม่กับใจที่เป็นสุข โดยท่าน ว.วชิรเมธี

12 ชั่วโมงแห่งการ “ คิดเป็น ” มองโลกใหม่กับใจที่เป็นสุข โดยท่าน ว.วชิรเมธี

ในแต่ละวันทุกคนมีเรื่องที่ต้องพบเจอไม่เหมือนกัน หลายคนอาจจะเคยกลับบ้านแล้วรู้สึกว่า “ วันนี้เป็นวันที่ดีจัง ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ” ตรงกันข้าม ถ้าวันนั้นทุกอย่างมีแต่ความผิดพลาดไม่ว่าที่บ้านหรือที่ทำงาน คุณจะมีวิธีคิดอย่างไรให้ใจเป็นสุข หากคุณคิดว่าช่างยากเหลือเกินที่จะให้มองทุกอย่างเป็นแง่บวกตลอด 24 ชั่วโมง งั้นเราลองแบ่ง 24 ชั่วโมงให้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งดีไหม เป็นครึ่งวันที่ชีวิตคนทำงานอย่างพวกเราหลาย ๆ คนต้องออกไปอยู่ร่วมกับผู้อื่น แล้วลองดูว่าใน 12 ชั่วโมงนี้เราจะสามารถ “ คิดเป็น ” หรือ “ คิดบวก ” ตามคำสอนของ ท่าน ว.วชิรเมธี ได้อย่างไร

7:00 ตื่นแต่เช้า แต่ต้องมาเจออุบัติเหตุจนรถติดสาหัส

แทนที่เราจะหงุดหงิดว่าอุบัติเหตุของคนอื่นส่งผลให้เราต้องล่าช้า จงคิดว่า“นี่คือคำเตือนว่าจงอย่าประมาทเป็นอันขาด”

8:00 รู้สึกเพลียที่ต้องทำงานหนักทุกวัน

แทนที่เราจะโทษการงานว่าทำให้ร่างกายอ่อนแอ จงคิดว่า “นี่คือการเตือนให้เห็นคุณค่าของการรักษาสุขภาพให้ดี”

9:00 มาถึงที่ทำงาน เจอคนนินทาแต่เช้า

แทนที่เราจะนั่งเสียใจที่ไม่เป็นที่รัก จงนึกว่า “นี่คือการสะท้อนว่าเรายังคงเป็นคนที่มีความหมาย”

10:00 เจ้านายเรียกไปพบ ตำหนิว่างานของเมื่อวานใช้ไม่ได้

แทนที่เราจะคิดต่อต้าน ไม่เชื่อหรือไม่เข้าใจเจ้านาย เพราะคิดว่าตั้งใจทำดีที่สุดแล้ว จงคิดว่า “นี่คือการชี้ขุมทรัพย์มหาสมบัติ”

11:00 รู้สึกท้อแท้ ไม่มีคนคอยสนับสนุนช่วยเหลือ

แทนที่จะหมดกำลังใจ จงคิดว่า “นี่คือบทเรียนของการรู้จักหยัดยืนด้วยขาตัวเอง”

12:00 ร้านอาหารที่เคยไปกินข้าวทุกกลางวันเกิดปิดกะทันหัน

แทนที่จะโวยวาย อารมณ์เสีย จงคิดว่า “นี่คือประจักษ์พยานว่าไม่มีใครได้ทุกอย่างดั่งใจหวัง”

13:00 งานที่โดนสั่งให้ทำยากและซับซ้อนเกินไป

แทนที่จะคิดว่าเราไม่มีทางทำได้เพราะเกินความสามารถ จงคิดว่า “นี่คือบทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ”

14:00 เจ้านายเรียกเข้าไปพบ เพื่อแจ้งว่าจะมีคนมารับช่วงต่อโปรเจ็คท์ที่เราเป็นคนริเริ่มทำตั้งแต่แรก

แทนที่จะผิดหวังเสียใจ ไม่มีกำลังใจทำงาน จงคิดว่า “นี่คือความอนัตตาของชีวิตและสรรพสิ่ง”

15:00 มีคนอิจฉา คอยใส่ร้ายป้ายสี

แทนที่จะโกรธหรือเกลียด คิดเคียดแค้นเขา จงคิดว่า “นี่คือบททดสอบว่า ‘มารไม่มี บารมีไม่เกิด’”

16:00 ไม่ได้รับการเสนอชื่อให้เลื่อนตำแหน่งทั้ง ๆ ที่ทำงานหนัก

แทนที่จะจมอยู่กับความผิดหวัง จงคิดว่า “นี่คือวิธีที่ธรรมชาติกำลังสร้างภูมิคุ้มกันให้ชีวิต”

17:00 ใกล้เวลาเลิกงานแล้ว แต่หัวหน้ายังเรียกเข้าไปสั่งงานเพิ่ม

แทนที่จะรู้สึกไม่พอใจและปฏิเสธที่จะรับงานนั้น จงคิดว่า “นี่คือโอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความเป็นมืออาชีพ”

18:00 กลับมาบ้านเหนื่อย ๆ แล้วยังมาเจอลูกดื้อเอาแต่เล่นซนไม่ยอมทำการบ้าน

แทนที่จะโมโห โกรธเกรี้ยว และตะคอกว่าลูก จงคิดว่า “นี่คือโอกาสทองของการพิสูจน์ความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง”

ถ้า 12 ชั่วโมงที่ออกไปเจอเรื่องราวมากมายนี้ เราสามารถคิดตามแนวทางของ ท่าน ว.วชิรเมธี ได้ แม้จะคิดไม่ได้ในทันที แต่อย่างน้อยการหยุดอารมณ์ชั่ววูบในตอนแรกแล้วหันมาคิดว่า ไม่มีอะไรที่จะสร้างความรู้สึกสุขหรือทุกข์ให้เราได้ นอกจากความคิดของเราเอง ถ้าทำได้เช่นนั้นแล้ว การเพิ่มเวลาคิดให้เป็นจาก 12 ชั่วโมง เป็น 24 ชั่วโมงก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

 

เรียบเรียงจากบทความ “คิดเป็น ก็เป็นสุข” เคยตีพิมพ์ในคอลัมน์ Feature นิตยสาร Secret โดย ทสมา วรรธนะภูติ

Image by Monoar Rahman Rony from Pixabay

Secret Magazine (Thailand)


บทความที่น่าสนใจ

หากเจออย่างนั้น ให้คิดอย่างนี้ ! ข้อคิดสู่ชีวิตเป็นสุข จาก ท่านว.วชิรเมธี

Secret ข้อคิดเตือนใจ ส่งให้คนที่คุณรัก ในทุก ๆ วัน

ข้อคิดและพรปีใหม่ จาก ภิกษุณีนิรามิสา แห่งหมู่บ้านพลัม (ชมคลิป)

อย่าอวดในสิ่งที่คุณมี ข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต

5 ข้อคิดง่ายๆ เพื่อเอาชนะใจตนเอง โดย คุณพศิน อินทรวงค์

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.