พ่อติดเหล้า เมาแล้วพูดจารุนแรง ควรทำอย่างไรดีคะ
ถาม: พ่อติดเหล้า เคยพาไปเลิกเหล้า แต่ก็กลับมาดื่มอีก พอเมาแล้วก็มักต่อว่าคนในครอบครัวด้วยคำรุนแรง ทุกคนไม่เคยมีความสุขเลย แต่เวลาพ่อไม่ดื่มจะกลายเป็นคนละคน ดิฉันควรแก้ปัญหานี้อย่างไรดีคะ
ดร.พระมหาบวรวิทย์ รตนโชโต วัดรวกบางบำหรุ กรุงเทพฯ ตอบปัญหาเรื่อง พ่อติดเหล้า นี้ไว้ว่า
ตอบ: คนที่ติดเหล้านั้นยากนักที่จะเลิกได้ ส่วนมากแล้วจะพ่ายแพ้แก่ความอยากที่ตนเองเคยชินมา จิตก็โหยหาแต่สิ่งนั้นอยู่ร่ำไป แต่ก็มีไม่น้อยที่เลิกได้อย่างเด็ดขาด ขึ้นอยู่กับใจของผู้ที่ติดเหล้าว่า จะมีจิตใจเข้มแข็งเด็ดขาดแค่ไหน เมื่อใจมันโหยหาแต่เหล้าก็ต้องตัดที่ใจ เพราะใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ใจเป็นหัวหน้า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนสำเร็จได้ด้วยใจ ใจจึงส่งผลถึงการกระทำและคำพูด
หากตั้งจิตไว้ไม่ดี จะทำให้ทำกรรมชั่ว และส่งผลให้ได้รับวิบากกรรมอยู่ร่ำไป เหมือนล้อเกวียนย่อมลบทับรอยเท้าโคที่เทียมเกวียนไปฉันนั้น แต่หากตั้งจิตดี ทำแต่กรรมดี พูดแต่คำที่ดี ย่อมได้รับอานิสงส์ให้ชีวิตมีแต่ความชุ่มฉ่ำชื่นเย็น ประดุจดังต้นไม้ย่อมให้ร่มเงาฉะนั้น ต้นไม้เล็กย่อมมีเงาน้อย หากแต่ต้นไม้ใหญ่ก็ย่อมมีร่มเงาที่กว้าง ดังนั้นไม่ใช่ไปตัดที่เหล้า เพราะเหล้าไม่ได้วิ่งหาใครและไม่สนใจใครทั้งสิ้น คนดื่มต่างหากที่แสวงหาเอง ซึ่งมันก็ทำหน้าที่ของมันอย่างตรงไปตรงมา ว่าใครก็ตามที่ดื่มเป็นต้องเมาทุกคน ไม่เว้นแม้แต่สัตว์เดรัจฉาน
สิ่งที่เราทำได้ก็คือ มีความเพียรพยายามให้มากขึ้น เพื่อทำให้ผู้ติดเหล้าเลิกเหล้า เพียรไปเรื่อย ๆ ด้วยวิธีที่หลากหลาย ทั้งขู่ ทั้งปลอบ ทั้งจ้าง ทั้งอ้อนวอนเหมือนกับที่พ่อเลี้ยงเรามาด้วยความอดทน อาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ ในการเลี้ยงดูเรามากระทั่งเราโต ซึ่งบางทีก็ต้องอาศัยวันเวลาในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้วย
พระอาจารย์มานพ อุปสโม กล่าวถึงการผิดศีลข้อห้า เอาไว้ว่า
ถ้าคนเราเมาสุราเมรัยแล้ว จะสามารถทำผิดได้ในทุกสิ่งทุกอย่าง คนเมาเหล้ามักขาดสติ ดังนั้นจึงสามารถฆ่าสัตว์ได้ ลักทรัพย์ได้ กระทำผิดในภรรยา – สามีของคนอื่นได้ โกหกก็ได้ ทั้งหมดเป็นเพราะการขาดสติยั้งคิดทั้งสิ้น บางคนลงนอนเหมือนหมาข้างถนนก็ทำได้ เพราะพิษสุราจะทำให้กลายเป็นคนที่ขาดหิริโอตตัปปะ
พระพุทธเจ้าเรียกอบายมุขว่า เป็นหนทางแห่งความเสื่อม ไม่ว่าจะเป็นการดื่มสุรา เที่ยวกลางคืน เล่นการพนัน เกียจคร้านการงาน ทั้งหมดล้วนเป็นหนทางแห่งความเสื่อม ยิ่งถ้าดื่มสุราจนติดก็จะยิ่งเกิดผลเสีย คือถ้าไม่ได้ดื่มจะลงแดง มือสั่น ตัวสั่น นั่นคือร่างกายอยู่ในสภาวะที่อันตรายแล้ว ซึ่งเกิดขึ้นเพียงเพราะใจเราชอบ เราจึงสนองใจ แต่ไม่ได้สนองกายเลย ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดี เราจึงควรสนองร่างกายด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อที่จะทำความดีและสร้างประโยชน์ให้สังคมต่อไป
ในขณะเดียวกัน ก็ควรหันมาบำรุงจิตใจด้วยการดำเนินชีวิต โดยมีสติสัมปชัญญะอยู่ตลอดเวลา ถ้าจิตใจเราสมบูรณ์ด้วยสติใจก็จะวางเฉยเอง แล้วก็มองเห็นกิเลสต่าง ๆ เป็นสิ่งไร้สาระไปหมด เมื่อจิตใจเราสมบูรณ์แล้วก็จะสามารถอดเหล้าได้ อดบุหรี่ได้ และอดกิเลสอีกหลาย ๆ อย่างได้ในที่สุด
ธรรมะจากพระอาจารย์ ดร.พระมหาบวรวิทย์ รตนโชโต : พระอาจารย์ผู้ไขปัญหา
หากผู้อ่านมีปัญหาหนักใจ ต้องการคำแนะนำแฝงด้วยแนวคิดทางธรรม สามารถส่งคำถามมาได้ที่ Secret Magazine (Thailand)
บทความน่าสนใจ
Q: พ่อของดิฉันชอบทำบาป ดื่มเหล้า คบชู้ สร้างความทุกข์ใจให้แม่เสมอ
Q: หากทำผิดศีล 5 จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร
ปัญหาธรรม : อยากมีชีวิตที่ราบรื่นและสมบูรณ์แบบเป็นความคิดที่ผิดหรือไม่
ปัญหาธรรม : เราควรวางใจอย่างไร? กรณีมีคนหยิบของในตู้ปันสุขไปจนหมด
ปัญหาธรรมประจำวันนี้: แผ่เมตตาหลังทำบุญ ผู้ที่เราเอ่ยถึงจะได้รับผลบุญจริงหรือ
