ต้มกะทิสายบัวปลาทู

ต้มกะทิสายบัวปลาทู อาหารไทยโบราณมากคุณค่า

ต้มกะทิสายบัวปลาทู อาหารไทยโบราณ ในสมัยก่อนคนโบราณนิยมนำบัวสายมาประกอบอาหารทานไม่ว่าจะเป็นแกงกับกะทิ หรือผัด แต่เดี๋ยวนี้หาทานเมนูนี้ได้ยากขึ้น วันนี้เราเลยมีสูตรอร่อยจากบัวสายมาฝากให้ไปลองทำทานกันค่ะ

บัวสาย มีสรรพคุณมากประโยชน์ ในสายบัวมีเบตาแคโรทีน ซึ่งช่วยป้องกันและต้านโรคมะเร็งในลำไส้ อีกทั้งยังช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง อีกด้วย

ต้มกะทิสายบัวปลาทู

ส่วนผสม (สำหรับ 3 ที่) เตรียม 20 นาที ปรุง 10 นาที

ส่วนผสม

  • ปลาทูนึ่งตัดหัวทิ้ง 3 ตัว (หากในปลาทูยังมีไส้หรือสิ่งสกปรกให้นำออกก่อนนำไปแกง)
  • มะพร้าวขูด ½ กิโลกรัม คั้นให้ได้หัวกะทิ 1 ถ้วย และหางกะทิ 2 ถ้วย
  • สายบัวขาวลอกเปลือกหั่นเป็นท่อนยาว 3 นิ้ว ลวกสุก 250 กรัม
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา ¼ ถ้วย
  • น้ำมะขามเปียก ¼ ถ้วย
  • หอมเล็กปอกเปลือกบุบพอแตก 5 – 6 หัว

ส่วนผสมพริกแกง

  • รากผักชีสับหยาบ 1½ ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
  • กะปิอย่างดี 1½ ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. โขลกส่วนผสมพริกแกงรวมกันให้ละเอียด พักไว้
2. ผสมหัวกะทิและหางกะทิลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟกลาง ใส่พริกแกงลงไปคนให้ละลาย ใส่หอมเล็ก พอส่วนผสมเดือดใส่ปลาทูลงไปต้มนาน 1 – 2 นาที ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะขามเปียก แล้วจึงใส่สายบัว ปิดฝาหม้อต้มต่อสักพักให้สายบัวสุกและรสแกงซึมเข้าสายบัว ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ

Tip : ลวกสายบัวก่อนนำไปใช้แกงหรือผัด ช่วยให้สายบัวมีสีเขียวสวยไม่คล้ำ และไม่ทำให้น้ำแกงคล้ำอีกด้วย

พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 688.64 กิโลแคลอรี
โปรตีน 12.86 กรัม ไขมัน 53.35 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 31.11 กรัม ไฟเบอร์ 12.40 กรัม

โดย Health&cuisine

สูตรอาหารแนะนำ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.