19 ข้อ เช็คด่วน ปฏิบัติตัวอย่างไร ทำ จิตตก ถาวร

จิตตก

ปฏิบัติตัวอย่างไร ทำ จิตตก ถาวร ? จากเรื่องสมอง บ.ก.เริ่มเดินเลี้ยวไปยังเรื่องฮอร์โมนที่มีผลต่อการทำงานของสมอง ซึ่งทั้ง 5 ตัวนั้น ได้แก่ เอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน อินซูลิน ไทรอยด์ และคอร์ติซอล

ทั้งหมดนี้ อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต เรียกว่า วงมโหรี หากทำงานไม่สมดุล สอดคล้องกัน ร่างกายก็จะทำงานผิดเพี้ยน สมองทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ อารมณ์ขุ่นมัวตลอดเวลา แบบที่เขาเรียกว่า “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” ปฏิบัติตัวไม่เฮลตี้ ย่อมไม่ดีกับจิตใจ อิอิ

ยกตัวอย่าง เช่น คนในวัยทอง หลังจากฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ก็จะมีภาวะอารมณ์ปรวนแปร บางรายกลายเป็นโรคซึมเศร้า เหงาง่อย ซุปเปอร์นอยด์ขึ้นมาเฉยๆ เพื่อนของบ.ก.คนหนึ่งมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ จากคนร่าเริงหัวเราะง่าย กลายเป็นคนที่เศร้าจัด ขาดคนรักอยู่ใกล้ไม่ได้เลยเชียว

คลิกเพื่ออ่านหน้าถัดไป

ส่วนฮอร์โมนไทรอยด์นั้น เป็นตัวช่วยการทำงานของนิวโรทรานสมิตเตอร์ ช่วยควบคุมการหลั่งสารเซโรโทนิน โดปามีน และคอร์ติซอล ซึ่งสองตัวแรกมีผลต่อการนอนหลับ หากนอนหลับไม่ดี ก็ส่งต่ออารมณ์วันใหม่ให้หงุดหงิดง่าย ส่วนคอร์ติซอลนั้นเกี่ยวกับความเครียด หากฮอร์โมนไทรอยด์ไม่สมดุล ย่อมทำให้เกิดความเครียดได้ง่าย

ฮอร์โมนโปรเจนเตอโรน เป็นฮอร์โมนความสุขอีกตัวหนึ่ง ซึ่งหากไม่สมดุล ก็ทำให้เกิดความเครียด หงุดหงิดง่าย

สำหรับฮอร์โมนคอร์ติซอลนั้น แม้จะสร้างขึ้นที่ต่อมหมวกไต แต่การหลั่งของคอร์ติซอลแต่ละครั้ง จะทำให้ร่างกายเหมือนอยู่ในภาวะฉุกเฉิน หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว เครียดหนัก

สุดท้ายฮอร์โมนอินซูลิน จะเป็นตัวเปิดล็อกเซลล์สมอง ให้รับกลูโคสและสารอาหารต่างๆ ไปเลี้ยงสมอง ถ้ากินน้ำตาล แป้งขาว หรือขนมมากเกินไป ตับอ่อนจะต้องผลิตอินซูลินมากขึ้น ก่อให้เกิดภาวะอาการน้ำตาลในเลือดขึ้นๆ ลงๆ โดยเฉพาะหากน้ำตาลในเลือดตก จะทำให้รู้สึกมึนงง อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า สมองไม่แล่น

คลิกเพื่ออ่านหน้าถัดไป

ฉะนั้น วิธีที่จะทำให้ฮอร์โมนทั้ง 5 ทำงานอย่างสมดุล ส่งผลต่อการทำงานของสมอง ให้สดใส แล่นปรู้ดปร้าด คุณหมอเดเนี่ยล จี.เอเมน จากคลินิกเอเมน ประเทศสหรัฐอเมริกา บอกไว้ดังนี้ค่ะ