โรคมะเร็งเต้านม

คุณครูของฉันชื่อ…มะเร็ง ตอน ถอดบทเรียนชีวิต

บทเรียนชีวิตจาก … โรคมะเร็งเต้านม

คุณจุรีรัตน์ หิรัณยการ ประจักษ์ถึงความจริงข้อนั้นได้เป็นอย่างดีจากการโอบอุ้มเลี้ยงดูลูกชายที่ป่วยเป็นออทิสติก ซ้ำร้ายยังต้องเผชิญกับ โรคมะเร็งเต้านม

ชีวิตที่สะบักสะบอม เพราะถูกความทุกข์ ความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าทำร้าย แม้จะทำให้โลกของผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างคุณเนี้ยว กลายเป็นสีเทาหม่นอมโศก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า นี่คือการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันชีวิตชั้นเลิศให้กับเธอ

เพราะหลังจากได้รับคำพิพากษาให้ตกเป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะลุกลาม น้ำตาที่เคยหลั่งไหลฟูมฟาย ก็กลับกลายเป็นพลังใจและแรงกายในการต่อสู้กับโรคร้ายได้อย่างไม่ยากเย็นนัก…

%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%93%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%b5%e0%b9%89%e0%b8%a2%e0%b8%a71
คุณเนี้ยว

สู้ไม่ถอย เมื่อกองทัพมะเร็งดาหน้า

          แม้กำลังใจจะมีเต็มร้อย แต่เมื่อยังดูแลสุขภาพได้ไม่ดีนัก ก็ใช่ว่าเจ้ามะเร็งร้ายจะยอมลามือกันง่ายๆ เสียเมื่อไหร่ มิหนำซ้ำมันยังคงถือโอกาสซ้ำเติมความทรมานให้เจ้าของร่างกายนั้นมากขึ้นไปอีก

          “ภายในระยะเวลา 3-4 ปี มะเร็งก็กลับมาหาฉันอีก คราวนี้คุณหมอบอกว่ามีหลายก้อนเสียด้วย ต้องตัดเต้านมซ้ายทิ้งสถานเดียว เพื่อรักษาชีวิตไว้”

ผู้หญิงที่ไร้เต้านมแม้เพียงข้างเดียว หรือสองข้างก็ตาม จะทุกข์ทรมานใจมากเพียงใดนะ…ฉันจินตนาการและอดตั้งคำถามนี้กับตัวเองไม่ได้ จนกระทั่งผู้หญิงแกร่งที่อยู่เบื้องหน้าเอื้อนเอ่ยให้ฟังว่า

          “ตอนที่รู้ว่าต้องตัดเต้า มันคือความทรมานใจอย่างที่สุดของผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันได้แต่ถามตัวเองว่า ชีวิตที่ผ่านมามันยังโหดร้ายไม่พอหรือ ครอบครัวก็พังทลาย ไร้กำลังใจจากคนรอบข้าง ไม่มีใครไยดี ทำไมเราต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้อีก

          “แต่แล้วก็รีบตั้งสติ บอกกับตัวเองว่า แค่นมเน่าๆ ก้อนหนึ่ง ในเมื่อไม่มีประโยชน์ก็ทิ้งมันไป เลิกมองว่าเราสูญเสียอะไรไป แต่หันมามองว่าเราเหลืออะไรดีกว่า”

การตัดเต้านมข้างซ้ายทิ้งไป เพื่อหวังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไร้ซึ่งความทุกข์กายทรมานใจอาจไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เมื่อเชื้อมะเร็งร้ายยังคงยืนหยัดยึดร่างกายของคุณเนี้ยวเป็นถิ่นพักอาศัยอีกเช่นเคย เพียงแต่หันไปตั้งรกรากยังกระดูกต้นคอ สะโพก หลัง หัวเข่า และเอวแทน!

          “การกลับมาของกองทัพมะเร็งคราวนี้ คุณหมอใช้คำว่า เป็นระยะที่มากที่สุด หรือถ้าพูดตรงๆ แบบไม่ถนอมน้ำใจ ก็คือ ระยะสุดท้าย ฉันร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว ด้วยสัญชาตญาณกลัวตาย

“แต่สุดท้ายก็ยกมือขึ้นปาดน้ำตา แล้วปฏิญาณกับตัวเองว่า ฉันจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ จะไม่ยอมให้ความทุกข์ใดๆ มาแผ้วพานชีวิตที่เหลืออยู่อีกต่อไป”

จบหลักสูตรมะเร็งทรหด

ดูเหมือนสิ่งที่คุณเนี้ยวหวังและตั้งใจจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะหลังจากเข้ารับการรักษาโดยการฉายแสง 10 แสงที่บริเวณกระดูกต้นคอซึ่งถือเป็นจุดที่วิกฤติที่สุด ร่วมกับการกินยา และตัดรังไข่เพื่อหยุดฮอร์โมนเพศหญิงตามคำแนะนำของคุณหมอ เชื้อมะเร็งร้ายทั้งหมดก็ยอมยกธงขาว ส่งผลให้ร่างกายของเธอค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้น

“ที่ผ่านมามะเร็งสอนให้ฉันรู้ว่า ถ้าเราดูแลตัวเองไม่ดี เขาก็พร้อมจะเล่นงานเราทุกเมื่อ เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ฉันจะดูแลสุขภาพกายสุขภาพใจของตัวเองให้ดีที่สุดทุกวินาที

%e0%b8%84%e0%b8%b8%e0%b8%93%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%b5%e0%b9%89%e0%b8%a2%e0%b8%a72
คุณเนี้ยว

          “โดยหลังจากตื่นนอนตอนเช้า ฉันจะออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะ หรือไม่ก็รำกระบอง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน รวมทั้งพยายามกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ”

นอกจากการปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันตามวิถีของคนรักสุขภาพดังกล่าวแล้ว คุณเนี้ยวก็ไม่ลืมที่จะใช้ยาขนานเอกสู้กับโรคร้ายอีกทางหนึ่งด้วย

“กำลังใจและวิธีคิดที่ดี ก็เหมือนตัวยาที่ดี เป็นการรักษาเซลล์ในร่างกายของเราไม่ให้เสื่อมมากไปกว่านี้ ฉันเองมีชีวิตอยู่ได้ เพราะไม่เคยสนใจพรุ่งนี้ แค่ตั้งใจมีชีวิตที่ดีในวันนี้ก็พอ อย่าลืมว่าชีวิตมันมีไว้ให้สู้ มีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม

“จริงๆ มันก็แค่มะเร็ง ไม่ใช่มายิงซะหน่อย” เธอหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี

นี่สินะ ที่เขาว่ากันว่า พลังคิดบวกเปลี่ยนชีวิตคนได้…คุณคิดเหมือนกันไหม

ข้อมูลจาก : บันทึกหัวใจแกร่ง นิตยสารชีวจิต

ย้อนกลับไปอ่านเรื่องราวของคุณเนี้ยวในตอนแรกได้ที่

คุณครูของฉันชื่อ…มะเร็ง ตอน แบบฝึกหัดหัวใจแกร่ง


ขอบคุณสถานที่

ร้านมังคุด คาเฟ่

94/87 ถนนราชพฤกษ์ (ปากซอยราชพฤกษ์ 34) ตลิ่งชัน กรุงเทพ 10170

โทร.0-2432-0968

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.