กลิ่นร้าย กลิ่นตัว เสน่ห์

ระวัง! กลิ่นร้าย 3 จุดสะดุดเสน่ห์

กําราบ กลิ่นร้าย …เรียกความมั่นใจกลับคืน

ฟุดฟิด…ฟุดฟิด…เอ๊ะ! กลิ่นแปลกปลอมมาจากไหน จะขยับตัวแต่ละทีก็ไม่มั่นใจ อย่ากังวลไป วันนี้เรามีวิธีบอกลา 3 จุดพีคต้นกำเนิดกลิ่น ที่ทำให้คุณหมดเสน่ห์ไปได้ในพริบตามาบอกกัน

 

  1. ระวัง! อย่าปล่อยเต่า

กลิ่นตัวคนเราเกิดจากต่อมเหงื่อใต้ผิวหนังชั้นหนังแท้ ทําให้บริเวณที่มีต่อมเหงื่อมาก เช่น รักแร้ เกิดกลิ่นได้ง่าย ต่อมเหงื่อจะปล่อยสารที่มีส่วนประกอบของโปรตีน และไขมันออกมา เมื่อเจอกับแบคทีเรียบนผิวหนังซึ่งย่อยสลายน้ำมันในเหงื่อ จึงทําให้เกิดกลิ่น

กลิ่นตัวยังเกิดจากการกินอาหารกลิ่นแรง อย่างเครื่องเทศ การดื่มเหล้า หรือสูบบุหรี่เป็นประจํา การกินยาบางชนิด เช่น การใช้ยารักษาสิวทั่วไป ที่มีสารเบนซอยล์เปอร์ออกไซด์ (Benzoylperoxide) ผสมอยู่ รวมถึงโรคประจําตัวอื่น ๆทั้งท้องผูก ตับอักเสบ ไต   เบาหวาน  พยาธิในระบบทางเดินอาหาร และมะเร็ง ก็เป็นสาเหตุได้เช่นกัน

 บ๊ายบายกลิ่นตัว

  1. อาบน้ำให้สะอาด สวมเสื้อผ้าที่สะอาด
  2. ใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย เช่น ผ้าฝ้าย ซึ่งช่วยระบายเหงื่อได้ดี
  3. ใช้โรลออนระงับกลิ่นกาย เนื่องจากผสมสารบางชนิด เช่น อะลูมิเนียม และสังกะสี ซึ่งช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
  4. งดอาหารกลิ่นแรง เช่น กระเทียม สะตอ รวมถึงกินอาหารประเภทโปรตีนให้น้อยลง
  5. ผ่อนคลายความเครียด ความเครียดทําให้ร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลินออกมา ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของกลิ่นตัว

 

 

  1. ระวัง! เท้าตุๆ

กลิ่นประหลาดที่โชยมาจากเบื้องล่าง สุดสร้างความอับอายให้ตัวคุณ และความลําบากใจให้คนที่ประสบพบเจอ ไม่น้อยเลยใช่ไหม ใจเย็น ๆ เราจะพาไปแก้ปัญหา

โดยปกติ กลิ่นเท้าเกิดจากการหมักหมมของแบคทีเรียในรองเท้า ทําให้เกิดกลิ่น นอกจากนี้ ยังเกิดจากความอับชื้น ในกรณีที่มีเหงื่อออกที่เท้ามากด้วย

 บ๊ายบายกลิ่นเท้า

  1. ทุกครั้งหลังอาบน้ำ โรยแป้งฝุ่นให้ทั่ว เพื่อให้เท้าแห้งไม่อับชื้น
  2. ขณะอาบน้ำ ฟอกสบู่ที่เท้าก่อนจุดอื่น กิจกรรมใดที่เริ่มก่อน มักได้รับความสําคัญกว่ากิจกรรมหลัง ๆ
  3. ปล่อยเท้าให้เปลือยเปล่าบ้าง การสวมถุงเท้า ถุงน่อง และรองเท้าทุกวัน วันละหลายชั่วโมง ทําให้เท้าอับ และหมักหมมเซลล์ผิวที่ตายแล้วไว้ถึงวันละ 200 มิลลิกรัม เป็นสาเหตุให้เกิดกลิ่นเท้า และเท้าหยาบกร้าน
  4. ฉีดสเปรย์ระงับกลิ่นเท้า เพราะสารในสเปรย์ จะช่วยระงับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
  5. ไม่ใส่รองเท้าคู่เดิมซ้ำ ๆ ทุกวัน เพราะก่อให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย ควรสลับใส่ และผึ่งให้ปราศจากความอับชื้นทุกครั้ง
  6. ในกรณีที่ไม่ได้ใส่รองเท้าคู่นั้นนาน ๆ หากระดาษหนังสือพิมพ์มายัดไว้ในรองเท้า เพื่อช่วยดูดซับความชื้น และลดกลิ่นอับ
  7. หากพอมีเวลา นําถุงชาที่ชงแล้ว 5 ถุงแช่ในอ่างน้ำอุ่นใบเล็ก แช่เท้า 5 นาที อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ถุงชาจะเปลี่ยนความเป็นกรด – ด่าง และหยุดยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย

 

  1. ระวัง! จุดซ่อนเร้นส่งกลิ่น

ปัญหาใหญ่ของสาว ๆ หลายคน จะนั่งจะยืนก็ไม่มั่นใจ กลัวว่าจุดบอบบางจะส่งกลิ่นออกมารบกวน ปัญหานี้แก้ไม่ยากค่ะ นอกเหนือจากความอับชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นแล้ว กลิ่นแปลก ๆ จากจุดซ่อนเร้นเกิดขึ้นได้จาก 3 ปัจจัย   ดังนี้

  1. อาหารที่มีกลิ่นแรง อาจทําให้กลิ่นที่จุดสงวนเปลี่ยนไปตามกลิ่นอาหาร เช่น อาหารที่ประกอบไปด้วยเครื่องเทศ กระเทียม ชะอม สะตอ กะปิ น้ำปลา นม และเนย เป็นต้น
  2. ฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป อาจทําให้กลิ่น แรงขึ้น เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ ช่วงก่อนมีประจําเดือน
  3. การอักเสบ ติดเชื้อ เชื้อโรคมักจะส่งกลิ่นเหม็นมากกว่ากลิ่นหอม

 บ๊ายบายกลิ่นที่จุดซ่อนเร้น

  1. สวมเสื้อผ้าให้สบายตัว ไม่คับเกินไป โดยเฉพาะกางเกงยีนส์รัดรูปคับติ้ว ทําให้เกิดเชื้อรา และความอับชื้นมากกว่าการใส่กางเกงยีนส์ที่ไม่รัดรูปถึง 3 เท่า
  2. เลือกชุดชั้นในที่ทําจากผ้าฝ้าย เบา บาง และไม่รัดแน่นจนเกินไป เพื่อช่วยให้เกิดการถ่ายเทของอากาศ ไม่ควรใส่ชุดชั้นในไนลอนฟิต ๆ ถึงแม้จะดูเซ็กซี่ แต่ไม่ดีต่อสุขอนามัย
  3. หลังอาบน้ำ ไม่ควรโรยแป้งบริเวณจุดซ่อนเร้น เพื่อหวังให้แห้ง และเย็นสบาย เพราะแป้งอาจทําให้เกิดเชื้อรา
  4. ล้างจุดซ่อนเร้นให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า หากจะใช้ผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดจุดซ่อนเร้น ควรล้างแค่ภายนอกเท่านั้น และเลือกผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน ไม่ผสมน้ำหอม เพราะอาจมีแอลกอฮอล์ ที่ทําให้ระคายเคือง
  5. เลือกใช้แผ่นอนามัยชนิดไม่มีน้ำหอม พร้อมมีรูระบาย อากาศ และควรเปลี่ยนบ่อย ๆ เพื่อป้องกันความอับชื้น
  6. ดื่มน้ำมาก ๆ และเข้าห้องน้ำสม่ำเสมอทุก 2 – 3 ชั่วโมง

สรุปว่าสารพัดกลิ่นมีต้นตอเดียวกันคือ ความอับชื้น ถ้าสาว ๆ สามารถดูแลรักษาจุดต่าง ๆ ให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ สารพัดกลิ่นร้ายจะไม่มารังควานใจอย่างแน่นอนค่ะ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.