แอนไทเอจจิ้ง กินวิตามินให้ได้รับประโยชน์และปลอดภัย

น้ำมันปลา (Fish Oil)

น้ำมันปลามีประโยชน์มากในทางแอนไทเอจจิ้ง เพราะดีต่อ สมองและกระดูก น้ำมันปลามีกรดไขมัน DHA และ EPA ซึ่ง เป็นแอนติออกซิแดนต์เหมือนกัน แต่ออกฤทธิ์ต่างกัน DHA มีงานวิจัยว่าบำรุงสมอง ส่วน EPA มีงานวิจัยว่าดีต่อหัวใจ มีรายงานว่าน้ำมันปลาอยู่ในกลุ่ม Anti-aging Regimen ที่เหมาะ สำหรับคนทุกโรคและทุกวัย แต่ก็มีเรื่องของการปนเปื้อนสาร ปรอทให้ได้ยินอยู่เหมือนกัน จึงควรเลือกยี่ห้อที่ไว้วางใจได้

ขนาดบรรจุปกติคือเม็ดละ 1,000 มิลลิกรัม กินวันละ 1 เม็ด แต่ถ้าหวังผลเรื่องแอนไทเอจจิ้ง ให้กินครั้งละ 2 เม็ด คือ 2,000 มิลลิกรัม กินมื้อเช้าทีเดียวเลยจะทำให้ดูดซึมได้ดีกว่า ข้อควรระวังคือ ถ้ามีนัดกับหมอฟัน ต้องหยุดกินน้ำมันปลา ก่อนไปทำฟัน 1 สัปดาห์ เพราะน้ำมันปลาจะทำให้เลือดหยุดช้า

น้ำมันปลา, แอนไทเอจจิ้ง, วิตามิน, บำรุงร่างกาย — กินน้ำมันปลาวันละ 2,000 มิลลิกรัม ช่วยบำรุงสมอง และกระดูก

แอสตาแซนทิน (Astaxanthin)

ตัวนี้เป็นที่พูดถึงกันมากว่าดีจริงไหม คำตอบคือดีจริงนะครับ แอสตาแซนทินเป็นสารรงควัตถุ (Pigment) สีส้มแดง เหมือนสาร ที่อยู่ในเปลือกกุ้งปูเวลาโดนความร้อน แอสตาแซนทินแบบเม็ด ที่กำลังได้รับความนิยมสกัดมาจากตัวเคยซึ่งเป็นกุ้งขนาดเล็ก บางทีก็เอามาจากสาหร่ายแดง ซึ่งก็เป็นรงควัตถุประเภทเดียวกัน

ที่บอกต่อ ๆ กันว่าแอสตาแซนทินมี Antioxidant Activity คือระดับการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซี 400 เท่า ก็เป็น เช่นนั้นจริงครับ ทีนี้หลายคนก็เลยคิดกันเอาเองว่า ในเมื่อ มีระดับการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซี เราก็ไม่ต้องกิน วิตามินซีแล้วสิ ซึ่งจริง ๆ ไม่ถูกครับ เพราะวิตามินซีทำอะไรได้ หลายอย่างมากกว่าที่แอสตาแซนทินทำได้ อธิบายให้เห็นภาพ ง่าย ๆ คือ ในสภาวะที่ร่างกายมีสารอนุมูลอิสระเท่า ๆ กัน แอสตาแซนทินจะกำจัดได้เร็วกว่าวิตามินซี แต่ไม่ได้หมายความว่า แอสตาแซนทินช่วยป้องกันมะเร็งหรือช่วยสร้างคอลลาเจนได้ แอสตาแซนทินไม่ช่วยเรื่องกระดูก จริง ๆ แล้วแอสตาแซนทิน มีอยู่ในอาหารด้วย เช่น แซลมอน สีส้ม ๆ ของเนื้อปลาแซลมอน คือรงควัตถุที่เป็นแอสตาแซนทิน วันไหนกินบุฟเฟต์แซลมอนแล้ว ไม่ต้องกินแอสตาแซนทินเสริมก็ได้

ดังนั้นเราต้องไม่ทิ้งวิตามินซี โดยสามารถกินควบคู่กับ แอสตาแซนทินได้ ถ้าอยากได้เรื่องผิวสวย กินแอสตาแซนทิน 4 มิลลิกรัมเช้า – เย็น รวมแล้วให้ได้วันละ 8 มิลลิกรัม

ใครอยากกินวิตามินเพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ลองวิตามิน 5 ตัวที่หมอแนะนำนี้และจำไว้ว่า เราไม่จำเป็น ต้องกินวิตามินเสริมเสมอไป แค่รู้จักเลือกกินอาหารและใช้ชีวิต กลางแจ้งบ้างก็พอครับ

จาก คอลัมน์ชีวจิต ANTI-AGING นิตยสารชีวจิต ฉบับ 464

บทความน่าสนใจอื่นๆ

อาหารชั้นยอด ชะลอวัย ป้องกันร่างกายแก่ก่อนวัยอันควร

เทคนิคกิน วิตามินชะลอวัย เสริมสร้างสุขภาพ สำหรับวัยผู้ใหญ่ 50+