แคลเซียม, เสริมแคลเซียม, อาหารที่มีแคลเซียม, กินแคลเซียม, กระดูกและฟัน

ข้อระวังต้องรู้ก่อน เสริมแคลเซียม

ข้อระวังต้องรู้ก่อน เสริมแคลเซียม

หลายคนเลือก เสริมแคลเซียม เม็ดแทนการกินอาหารจากธรรมชาติ ชีวจิต จึงรวบรวมข้อควรระวังก่อนเสริมแคลเซียมมาบอกต่อ พร้อมนำเสนออาหารที่มีแคลเซียมสูง ที่สามารถหากินได้ง่ายในชีวิตประจำวัน และวิธีกินเพื่อเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมมาฝากกันค่ะ

กระบวนการสร้างและสลายกระดูกเกิดขึ้นตลอดเวลา โดยกระดูกจะถูกสร้างและสะสมสูงสุดเมื่ออายุ 30 – 35 ปี หลังจากนั้นอัตราการสลายจะมากกว่าการสร้าง

ฉะนั้นก่อนอายุ 35 ปีจึงเป็นช่วงเวลาทองสำหรับการกินอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมเพื่อสะสมมวลกระดูกให้แข็งแรง และหลังอายุ 35 ปีควรกินอย่างต่อเนื่องเพื่อชะลอการสลายของกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุนและความเสี่ยงโรคเรื้อรังต่างๆ

แคลเซียม… ตัวช่วยสุขภาพแข็งแรง

แคลเซียม เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกและฟัน ช่วยควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ การเต้นของหัวใจ การแข็งตัวของเลือด และกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนบางชนิด

แคลเซียมเป็นที่รู้จักในนามสารอาหารช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน เพราะหากไม่กินอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียมสะสมไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่ออายุมากขึ้นโดยเฉพาะผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน (อายุประมาณ 50 ปี) และวัยสูงอายุอาจเสี่ยงกระดูกเปราะ หัก แตกง่ายทำให้เกิดอาการบาดเจ็บหรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต

แคลเซียม, เสริมแคลเซียม, อาหารที่มีแคลเซียมสูง, กระดูกและฟัน
แคลเซียมช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน และลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ ได้ในอนาคต

แคลเซียม ไม่เพียงช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและบรรเทาอาการจากโรคต่างๆ เช่น การศึกษาจากวารสาร The American College of Nutrition พบว่า การเสริมแคลเซียมสามารถลดอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนมีประจำเดือน (Premenstrual Syndrome) เช่น อาการปวดหัว หงุดหงิดง่าย อยากอาหารท้องอืด ไม่สบายท้องได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ยังพบว่า แคลเซียมอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูงโรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อีกด้วย

<< กินแคลเซียมอย่างไร อ่านต่อหน้าที่ 2 >>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.