ปัญหาตา,ตาล้า,ตาพร่า,ตาแห้ง

เช็ก 7 สัญญาณชี้ปัญหาตา พร้อมวิธีปรับไลฟ์สไตล์ยืดอายุดวงตา

ปัญหาตา ที่เช็กได้ผ่าน 7 สัญญาณผิดปกติ

ปวดตา ตาล่า ตาแห้ง ตาพร่า และอีกสารพัดอาการดวงตา ( ปัญหาตา) ที่เดาว่าคนทำงานหลายคนล้วนประสบกันมา แต่จะมีลักษณะอาการไหนไหมที่ไม่ควรละเลย และอาจนำมาซึ่งเรื่องยุ่งยากอื่นๆ ได้ ลองมาเช็กดูค่ะ

ปัญหาตา, ตาล้า, ตาพร่า, ตาแห้ง, ดวงตา
ปัญหาที่เกิดกับดวงตาตา สามารถสะท้อนปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังกังวลเกี่ยวกับสุขภาพดวงตาของตนเอง วันนี้ คุณหมออลัน  โคซาร์สกี ผู้อำนวยการธนาคารดวงตาแห่งรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จะมาแนะนำวิธีสังเกต 7 สัญญาณที่สะท้อนว่าสุขภาพของคุณกำลังมีปัญหาค่ะ

1. ตาพร่ามัวกะทันหัน เป็นสัญญาณเตือนว่า คุณอาจมีเส้นเลือดในสมองตีบ หรือมีภาวะเลือดออกในสมองหรือดวงตา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจมีอันตรายถึงชีวิต

2. เห็นเงาดำคล้ายหยากไย่ลอยอยู่ในดวงตา เป็นผลมาจากภาวะโรคเบาหวานขึ้นจอตาทำให้มีเส้นเลือดฝอยงอกใหม่มากมาย หากพบแพทย์แต่เนิ่นๆก็สามารถรักษาให้หายได้

3. วงขาวรอบกระจกตา เกิดจากมีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ควรปรับพฤติกรรมการกินและออกกำลังกาย

4. หนังตาตก หากเกิดพร้อมกับกล้ามเนื้อหน้าและกล้ามเนื้อคอผิดปกติ เป็นไปได้ว่าคุณอาจเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดเอ็มจี(Myasthenia Gravis: MG) ดังนั้นจึงควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษา

5. ตาขาวมีสีเหลืองชัดเจน เป็นลักษณะของโรคดีซ่าน เกิดจากตับทำงานผิดปกติ มีภาวะไขมันพอกตับหรือตับอักเสบ ต้องเร่งตรวจร่างกายก่อนอาการของโรคจะลุกลาม

6. ตากระตุก ส่วนใหญ่ไม่มีอันตราย มักเกิดจากความอ่อนล้า หรือผลข้างเคียงของการดื่มกาแฟหรือแอลกอฮอล์ปริมาณมากเกินไป ยกเว้นในกรณีกล้ามเนื้ออ่อนแรงและมีปัญหาการทรงตัวร่วมด้วยควรรีบพบแพทย์

7. ตาบอดกลางคืน หากเกิดในคนวัยทำงานตอนต้นหรือวัยรุ่น แสดงว่ามีภาวะขาดวิตามินเอ

วิธีป้องกันอาการตาแห้ง, ปัญหาตา, ตาล้า, ตาพร่า, ตาแห้ง
ปรับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ช่วยป้องกันอาการตาแห้งได้

HOW-TO ปรับไลฟ์สไตล์+ สิ่งแวดล้อม ป้องกันตาแห้ง

สมาคมทัศนมาตรแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา และงานวิจัยในวารสาร Academic Journals ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำวิธีการปรับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อป้องกันอาการตาแห้งไว้ดังนี้

• อย่านั่งใกล้จอคอมพิวเตอร์เกินไป ระยะห่างที่เหมาะสมคือ ไม่ควรน้อยกว่า 60 เซนติเมตร (24 นิ้ว) จากตา

• ปรับแสงสว่างให้พอเหมาะ ทั้งหน้าจอคอมพิวเตอร์ หน้าจอสมาร์ทโฟน และแสงสว่างจากภายนอกบริเวณที่ทำงาน เพื่อลดแสงสะท้อนจากหน้าจอคอมพ์และผนังห้อง

• ปรับความสว่างของหน้าจอคอมพ์และหน้าจอสมาร์ทโฟนให้มีความใกล้เคียงกับแสงภายในห้องทำงาน และปรับ
ขนาดตัวอักษรและสีจอคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม

• เลือกใช้จอมอนิเตอร์แบบแอลซีดี(LCD) ซึ่งมีความคมชัดสูงแทนจอแบบเก่า

• บริหารกล้ามเนื้อตา ใช้หลัก 20 – 20 – 20 มองไกลทุก 20 นาที นาน 20 วินาที

• กะพริบตาบ่อยๆเพื่อช่วยป้องกันอาการตาแห้ง หรืออาจหยอดนํ้าตาเทียมช่วย

• ผ่อนคลายอิริยาบถบ้างเพื่อลดอาการล้าของสายตาและกล้ามเนื้อบริเวณหลัง บ่า และไหล่ โดยควรพักช่วงสั้นๆ
ครั้งละ 5 นาที วันละ 4 ครั้ง ก็จะสามารถลดอาการปวดได้

• ดูแลจอภาพให้ปราศจากฝุ่น เพราะประจุไฟฟ้าบนผิวหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นแหล่งสะสมฝุ่น หากฝุ่นเข้าตา
จะทำให้ดวงตาและผิวหนังระคายเคืองได้

• จอคอมพิวเตอร์ควรอยู่ห่างจากสายตาอย่างน้อย 60 เซนติเมตร แต่ถ้าหากรู้สึกว่านั่งเอนตัวเข้าหาคอมพิวเตอร์
ให้ปรับขนาดตัวอักษรของบทความที่กำลังอ่านเพิ่ม แต่อย่าเลื่อนหน้าตัวเองเข้าใกล้จอ

• เลือกเก้าอี้ที่พยุงหลังและสามารถปรับเปลี่ยนระดับความสูงได้ โดยนั่งปล่อยขาตามสบาย ไม่นั่งไขว้ขา หัวเข่า
ควรอยู่ต่ำกว่าระดับสะโพก เท้าทั้งสองวางราบบนพื้น

• ความสูงของโต๊ะที่ช่วยให้นั่งพิมพ์งานได้สะดวกสบายคือระดับที่แขนท่อนล่างขนานกับพื้นขณะพิมพ์


บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

สมุนไพร บำรุงดวงตาและสมอง

วิธีใช้สมุนไพร+แผนปัจจุบัน เพื่อ สมองและดวงตา

ทิปส์ ดูแล “ดวงตา” สาวกสมาร์ทโฟน

วิธีกินอาหารตามธาตุบำรุงดวงตา by หมอชารีฟ แพทย์ไทยอินดี้ ชีวจิตกูรู

 

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.