เกาต์, โรคเกาต์ เป็นเกาต์, ผู้ป่วยโรคเกาต์, ข้อต่ออักเสบ

โรคเกาต์ – ข้อต่ออักเสบ โรคที่เกิดจากการกิน

โรคเกาต์ – ข้อต่ออักเสบ โรคที่เกิดจากการกิน By กูรูต้นตำรับชีวจิต

โรคที่เกิดจากการกิน โรคเกาต์ เรื่องอาหารการกินเป็นเรื่องสำคัญต่อสุขภาพมาก หากกินดี (อาหารสุขภาพ) ย่อมทำให้ร่างกายแข็งแรง มีอิมมูนซิสเต็มเต็มประสิทธิภาพในการป้องกันความเจ็บป่วยในทางตรงกันข้าม หากกินดี (อาหารเหลาจำพวกเนื้อ + มัน) อาจทำให้โรคประจำตัวกำเริบขึ้นได้

ขอต่อล้อต่อเถียงกันสนุกๆ ด้วยการเล่นคำหน่อยนะครับ “กินดี” ในที่นี้หมายความว่า “กินไม่ดี”

ทำไมถึง “กินไม่ดี” ก็เพราะคุณกินเอาแต่ความอร่อยอย่างเดียว ไม่ได้กินโดยการนึกหรือเตรียมไว้ก่อนว่า “การกินดีควรจะกินแต่ของมีประโยชน์ต่อร่างกาย กินของอร่อยไม่ได้หมายความว่ากินแต่ของมีประโยชน์”

ที่พูดแบบเล่นคำหรือสำบัดสำนวนหน่อยนั้น ก็เพราะจะเข้าเรื่องตรงๆ คือการเป็นโรคเกาต์ เพราะ ต้นเหตุของการเป็นโรคเกาต์เกิดจากคุณกินของอร่อยๆ ตามใจตัวคุณมากเกินไป

 

ตัวอย่างของอร่อยแบบของคุณๆ ที่เป็นเกาต์

เช่นว่า กินพวกปลาตัวเล็กที่เขาใส่โรยหน้าในพิซซ่า (ปลาเค็มตัวเล็กๆ ที่เรียกว่า แอนโชวี่) หรือ ปลากระป๋องพวกปลาซาร์ดีน พวกเครื่องในสัตว์ต่างๆ (เช่น ตับ ไต ไส้ พุง กระเพาะ) หรือพวกสัตว์ปีก (ไก่ เป็ด โดยเฉพาะพวกปีกไก่ ปีกเป็ด) พวกถั่วที่มีฝักหรือมาจากฝัก (ถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเขียว ถั่วขาวถั่วเหลือง) ผักที่มีกลิ่นฉุนๆ (เช่น สะตอ ลูกเนียง กระถิน) หรือคุณๆ ที่ติดกาแฟ โดยเฉพาะคุณๆ ที่ชอบดื่มกาแฟแก่ๆ นั่นแหละตัวดี และแถมดื่มเหล้าดื่มเบียร์

 

อาหารที่ทำจากสัตว์ปีก, สัตว์ปีก, เกาต์, โรคเกาต์, เป็นเกาต์
กินอาหารที่ทำจากสัตว์ปีกบ่อยๆ ถี่ๆ เสี่ยงต่อการเป็นเกาต์

 

อาหารพวกนี้ไม่ใช่อาหารที่มีพิษหรือยาพิษ ไม่ใช่ว่าพอแตะลิ้นเข้าไปครั้งเดียวก็มีอาการชักดิ้นชักงอหรือปวดขาปวดเท้าเป็นเกาต์ทันที ไม่ใช่ครับ ไม่ถึงขั้นนั้น แต่เป็นเพราะคุณกินอาหารเหล่านี้เข้าไปบ่อยๆ ถี่ๆ มันก็จะกลายเป็นอาหารที่ทำให้เกิดสารที่เราเรียกว่า “พิวรีน” (PURINE) สารเหล่านี้เป็นต้นตอที่ทำให้เกิดยูริกแอซิด (URIC ACID) ซึ่งตามปกติยูริกแอซิดนี้มันก็จะต้องมีอยู่ในเลือดของคุณอยู่แล้ว

แต่ในบางครั้งกรดยูริกมีอยู่ในเลือด หรือในตัวคุณมากเกินไป ไตของคุณก็มีหน้าที่ที่จะต้องขับกรดยูริกส่วนเกินออก แต่ในบางครั้งเกิดปัญหาเกี่ยวกับไตของคุณ จะทำงานไม่ดีหรือเกิดจากการมีกรดยูริกในตัวคุณมากจนเกินเหตุ ก็ไม่ทราบกรดยูริกก็จะตกตะกอนอยู่ในตัวคุณและเกาะตัวกันเป็นก้อนเล็กๆ

เล็กๆ นี้ต้องเล็กๆ กระจิ๋วหลิวมากๆ นะครับ เล็กจนต้องเอามาส่องกล้องดูจึงจะเห็นชัด มันจะมีรูปเป็นหนามแหลมๆ และก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไร มันจะชอบไปสะสมอยู่ที่ข้อนิ้วเท้าโดยเฉพาะหัวแม่เท้า

ลองนึกสภาพข้อนิ้วเท้าซึ่งมีหนามเล็กๆ ไปเกาะอยู่ที่ข้อต่อเต็มไปหมด เวลาคุณเดินหรือเคลื่อนไหว หนามเล็กๆ จากกรดยูริกทิ่มแทงข้อต่อและบริเวณรอบๆ มันก็อักเสบ บวมแดงบางคนข้อต่อนิ้วเท้าบวมแดงเหมือนถูกน้ำร้อนลวก เอามือจับข้อนิ้วเท้าดูจะร้อนมากเลยครับ

 

 

<< อ่านต่อหน้าที่ 2 >>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.