ไฟเบอร์, โพรไบโอติก, สัญญาณเตือนร่างกาย, อาหาร

7 สัญญาณเตือนร่างกายต้องกิน ไฟเบอร์ และโพรไบโอติก ด่วน!

สัญญาณเตือนร่างกายต้องกิน ไฟเบอร์ และโพรไบโอติก ด่วน!

วันนี้ บ.ก.ขอตอบ ขอนำเสนอสัญญาณของร่างกาย ที่บ่งบอกว่าต้องรีบเติม ไฟเบอร์ หรืออาหารที่มีเส้นใยแบบที่ละลายน้ำได้ และโพไอติก หรืออาหารที่ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ดี ด่วน!!!

ทั้งนี้ หากปล่อยไว้ นอกจากจะก่ออาการท้องผูก ท้องเสีย ลำไส้ขี้เกียจ โรคภูมิแพ้ โรคแพ้ภูมิตนเองแล้ว ยังอาจลามไปถึงการเกิดมะเร็งในช่องท้องอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ที่จริงบทเรียน “การบำบัดโรคด้วยอาหาร” ของ บ.ก.ยังบอกทางแก้ไขอื่นๆ ได้แก่ การกินอาหารเสริมและเอนไซม์เพิ่มเติมสำหรับแต่ละอาการที่กำลังจะกล่าวไว้ด้วย แต่นั่นน่าจะเป็นหน้าที่ของผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำให้ส่วนตัว (เนื่องจากการบำบัดโรคด้วยอาหารนั้น จำเป็นต้องซักประวัติการกินอยู่เกือบ 300 ข้อ จึงจะสามารถรักษาได้)

เพื่อการแบ่งปัน ที่ทุกคนสามารถกลับไปดูแลตนเองง่ายๆ ได้ที่บ้าน จึงเลือกแต่เฉพาะอาการที่ใช้การ “กินไฟเบอร์หรืออาหารที่มีเส้นใยแบบละลายน้ำได้เพิ่มขึ้น กินอาหารที่อุดมไปด้วยจุลินทรีย์แล็คโตบาซิลัสหรือโพรไบโอติก” เป็นหลักเท่านั้น

เอาล่ะ เรามาว่ากันเลยค่ะ

1. ลิ้นเป็นฝ้า

เป็นสัญญาณของการที่ลำไส้ถูกรบกวน ซึ่งอาจมาจากท็อกซินในลำไส้ใหญ่ หรือลำไส้เล็กดูดซึมมากเกินไป ซึ่งนั่นหมายความว่า จุลินทรีย์ในระบบย่อยไม่สมดุล ร่างกายต้องการเอนไซม์ช่วยย่อยเพิ่มขึ้น หรือไม่ก็น้ำย่อยชนิดเม็ด

ลิ้นเป็นฝ้า

2. รู้สึกไม่ค่อยสบายในที่ที่มีกลิ่นอับ

หรือที่ที่มีเชื้อรา เป็นสัญญาณบอกว่า มียีสต์แคนดิด้าเติบโตอยู่ในระบบย่อยของเรา โดยร่างกายเริ่มไม่ไหวกับเจ้ายีสต์ดังกล่าวแล้ว

3. กินยาแอนตี้ไบโอติก หรือยาแก้อักเสบ

ซึ่งยาเหล่านี้จะทำให้ยีสต์แคนดิด้าเติบโตผิดปกติ นอกจากนี้ฤทธิ์ยาเองก็กำจัดจุลินทรีย์ดีออกไปจากร่างกายด้วย และในสิ่งแวดล้อมแบบนี้ จะกระตุ้นการเกิดโรคภูมิแพ้ ยิ่งถ้าช่วงนี้ขยันกินแป้งขาวและน้ำตาลด้วยแล้ว ก็จะยิ่งช่วยให้เจ้ายีสต์ดังกล่าวเติบโตได้ดี สถานการณ์ภายในระบบย่อยจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

4. ถ่ายอุจจาระเป็นก้อนแข็ง หรือถ่ายยาก

นี่คือสัญญาณของโรคท้องผูก ซึ่งทุกคนรู้จักกันดี ยิ่งถ้าถ่าย 3 วันครั้งด้วยแล้ว เข้าข่ายว่าลำไส้ใหญ่ไม่มีการบีบตัวขับอุจจาระออกจากร่างกาย วิธีแก้ไขง่ายๆ นอกจากกินไฟเบอร์และจุลินทรีย์ดังกล่าวแล้ว ควรดื่มน้ำเยอะๆ โดยเฉพาะในรายที่กินไฟเบอร์ชนิดเม็ดด้วยแล้ว จำเป็นต้องดื่มน้ำเพิ่มจากที่ดื่มอีก 1 เท่าตัว เนื่องจากไฟเบอร์ชนิดเม็ดจะดูดน้ำจากร่างกายของเรา เพื่อการแตกตัวของตนเอง

ถ่ายยาก, อุจจาระเป็นก้อนแข็ง, ไฟเบอร์, โพรไบโอติก,
กินอาหารที่มีไฟเบอร์และโพรไบโอติก ช่วยแก้ปัญหาการถ่ายยาก อุจจาระเป็นก้อนแข็ง

5. มีกลิ่นตัวแรง หรือปากเหม็น

ซึ่งปกติแล้วเป็นสัญญาณของระบบย่อยทำงานผิดปกติ อาหารที่กินเข้าไปได้รับการย่อยไม่สมบูรณ์ จึงมีการหมักหมมและบูดเน่าขึ้นในอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อย นอกจากการกินไฟเบอร์และโพรไบโอติกที่แนะนำนั้น ควรปรับพฤติกรรมการกินร่วมด้วย เช่น เคี้ยวช้าๆ ไม่ดื่มน้ำระหว่างการกินอาหาร งดของหวานหลังมื้ออาหาร และอย่าลืมว่าแป้งขาวและของหวานเป็นอาหารของเชื้อใดๆ ก็ตามที่เติบโตขึ้นในร่างกาย ฉะนั้นเพื่อแก้ไขอาการนี้ ควรงดแป้งขาวและน้ำตาลด้วย

6. ปวดท้องบริเวณสะดือ

เมื่อใดที่อาการนี้เกิดขึ้น ให้รีบไปหาหมอด่วน ย้ำไปพบแพทย์ด่วน ดูว่ามีการอักเสบในช่องท้องหรือไม่ มีก้อนเนื้องอกหรือเปล่า ถ้าคุณหมอวินิจฉัยละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ไม่พบอะไร แต่ยังมีอาการปวดท้องแบบนี้อยู่ หน่วงๆ เรื้อรังๆ ถ้าประกอบกับท้องผูกบางครั้งบางคราด้วยแล้ว นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ช่วงวาล์วที่เชื่อมต่อระหว่างลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ปิดไม่สนิท

ปวดท้อง, ปวดท้องรอบสะดือ, ปวดท้องบริเวณสะดือ, ช่องท้องอักเสบ, เนื้องอกในช่องท้อง
ปวดท้องบริเวณสะดือ อาจมีการอักเสบในช่องท้อง หรือมีก้อนเนื้องอก

7. ขอบตาดำ

เป็นสัญญาณพื้นฐานของการแพ้อาหาร ซึ่งกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน และระบบภูมิคุ้มกันทำงานเป็นเหมือนเครือข่ายที่ซับซ้อน เมื่อใดก็ตามที่เกิดความผิดปกติต่อระบบนี้ มันจะแสดงตัวอยู่ในระบบเม็ดเลือดขาว และระบบประสาททั่วร่างกาย โดยเฉพาะถ้าสาเหตุการแพ้นั้นมาจากระบบย่อยอาหาร มันจะไปส่งผลกระทบต่อ Gut Associated Lymphiod Tissue (GALT) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบภูมิคุ้มกัน การเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดี ที่เรียกว่า Gut Flora ซึ่งมาจากโพรไบโอติก จะช่วยทำให้เซลล์ต่างๆ แข็งแรงขึ้น ลดอาการแพ้ นอกจากนี้การย่อยแป้ง ไขมัน และโปรตีนที่ไม่สมบูรณ์ทำให้เกิดการบูดเน่าขึ้นในระบบย่อยอาหาร ก็ส่งสัญญาณแบบเดียวกัน และแก้ไขเบื้องต้นแบบเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม อาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือใยอาหาร ชนิดละลายน้ำได้ ได้แก่ ธัญพืช ถั่วฝัก ผลไม้อย่างแอปเปิล แอพพริค็อต ลูกฟิกซ์ มะม่วง ส้ม ลูกพีช และลูกแพร์ ผักอย่างกระหล่ำปลี ถั่วงอก มันฝรั่ง รวมทั้งเมล็ดแฟล็ก ข้าวโอ๊ต บาร์เล่ย์ ลูกเดือย ข้าวกล้อง

ส่วนอาหารที่อุดมด้วยโพรไบโอติก ได้แก่ โยเกิร์ต ผักดอง กิมจิ มิโซะ เทมเป้ นมเปรี้ยว คีเฟอร์ คอมบูชะหรือชาหมัก


บทความน่าสนใจอื่นๆ

10 อาการกวนใจ แก้ปัญหาระบบย่อย ด่วน

10 แหล่งโอเมก้า-3 บำรุงสมอง หัวใจ ป้องกันซึมเศร้า

5 วิตามินห้ามขาดช่วงกินเจ

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.