ต้านโรคจากดอกไม้

4 เมนู ต้านโรคจากดอกไม้สวย

เมนู ต้านโรคจากดอกไม้สวย ช่วยบำรุงร่างกายภายใน กินได้ ไม่มีโทษ

เมนู ต้านโรคจากดอกไม้สวย อาจเกิดจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของคนยุคใหม่ทำให้ใครหลายคนต้องหวาดวิตกและกังวลกับสารพัดโรคภัยใกล้ๆ ตัว อาทิ โรคหัวใจ โรคกระเพาะอาหาร กระทั่งโรคระบาดในกระแส ไข้หวัดใหญ่ แต่ถ้าเรารู้จักดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงโอกาสป่วยก็น้อยลง

เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์อย่างดอกไม้ดีไหม

เพราะเจ้าดอกไม้แสนสวยหลากสีหลายชนิดที่หลายๆ คนมองข้าม ถือเป็นอาหารชั้นยอดที่อุดมคุณค่าทางโภชนาการมาช้านานแล้ว

ผู้ช่วยศาสตราจารย์พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม หัวหน้าประจำสาขาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กล่าวว่า

“ความจริงแล้วการกินดอกไม้เป็นยาถือเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทยซึ่งเป็นคนช่างคิดช่างประดิษฐ์และช่างทดลอง เกิดเป็นเมนูอาหารจากดอกไม้ที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน ทั้งนี้เมื่อบวกรวมกับความรู้ยุคใหม่ที่มีการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์พบว่าดอกไม้แต่ละชนิดมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างไร จึงรับรองได้ว่าเมนูอาหารจากดอกไม้เหล่านี้กินได้ ไม่มีโทษ และดีต่อสุขภาพ”

คลิกอ่านต่อที่หน้าถัดไป

ผู้ช่วยศาสตราจารย์พงษ์ศักดิ์ได้ประยุกต์สูตรอาหารต้านโรคจากดอกไม้ 4 เมนูมาแนะนำ ดังนี้?

เมี่ยงบัวหลวง เมนูบำรุงหัวใจ

ความจริงแล้วเมี่ยงคำเป็นอาหารว่างสมัยโบราณที่อุดมคุณค่าทางโภชนาการ แต่ข้อจำกัดของใบชะพลูซึ่งใช้เป็นใบห่อเมี่ยงนั้นมีกรดยูริกสูง ทำให้ผู้ป่วยและผู้เสี่ยงโรคข้อมักเลี่ยงรับประทานเมี่ยงคำไปอย่างน่าเสียดาย อาจารย์พงษ์ศักดิ์จึงได้ดัดแปลงสูตรเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ โดยใช้กลีบดอกบัวหลวงแทนใบชะพลู

สรรพคุณทางยาก่อนทำเป็นอาหารกัน

กลีบบัว มีสรรพคุณบำรุงร่างกายห้ามเลือด อีกทั้งยังมีเส้นใยอาหารสูงเม็ดบัว มีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลัง แก้ไข้และมีโปรตีนสูง เกสรบัว เป็นยาสมานแผลในร่างกาย บำรุงหัวใจ บำรุงประสาท อีกทั้งมีสารฟลาโวนอยด์ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านออกซิแดนต์

ส่วนที่ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญคือ ดีบัว ที่อยู่แกนในสุดของเม็ดบัว มีรสขม แต่มีประโยชน์ในการช่วยขยายหลอดเลือดในหัวใจ

ส่วนผสมน้ำเมี่ยงคำ ได้แก่ ข่าคั่วโขล 1 ช้อนชา รากผักชีคั่วโขลก 1ช้อนชา กะปิเผา 1/2 ช้อนชาน้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย น้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วย น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำเปล่า ถ้วย

วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดใส่รวมกันแล้วเคี่ยวโดยใช้ไฟอ่อนๆ คนตลอดเวลาจนส่วนผสมข้น (ไม่ควรใช้ไฟแรงเกินไปเพราะอาจทำให้น้ำเมี่ยงคำไหม้จนขมได้)

ส่วนผสมเครื่องเคียงเมี่ยงคำได้แก่ กลีบดอกบัวหลวง (ดอกสีขาวหรือสีชมพูก็ได้) 20 กลีบ เกสรบัวหลวง ถ้วย เม็ดบัว (แกะเปลือกและดึงดีบัวออก) ถ้วย มะพร้าวหั่นฝอยคั่ว 1 ถ้วย ถั่วลิสงคั่ว ½ ถ้วย กุ้งแห้ง ½ ถ้วย พริกขี้หนูซอย 10 เม็ด มะนาว1/2 ขิง และหอมเล็กหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า

วิธีทำ ใส่เครื่องเคียงลงในกลีบดอกบัวหลวง ราดด้วยน้ำเมี่ยง แล้วรับประทานได้เลย

เคล็ดลับความอร่อย : ควรเลือกดอกบัวที่กำลังจะบานเพราะจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ

ต้านโรคจากดอกไม้

น้ำพริกดอกกะเพราแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ

เมนูนี้อุดมไปด้วยผักนานาชนิดโดยเฉพาะดอกกะเพราซึ่งช่วยขับลมแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ และทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ

ส่วนผสมน้ำพริกดอกกะเพรา ได้แก่พริกหนุ่มย่างลอกเปลือกออก 8 เม็ดหอมเล็กเผา 5 หัว กระเทียมเผา 2 หัวเนื้อปลาย่าง (เช่น ปลาทูย่าง) 70 กรัมเกลือป่น 1 ช้อนชา น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 1 ช้อนโต๊ะและดอกกะเพรา ½ ถ้วย

วิธีทำ โขลกพริกหนุ่ม หอมเล็กและกระเทียมรวมกันให้ละเอียด ใส่เนื้อปลาย่างลงไปโขลกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาล ชิมรสอีกครั้ง และโรยหน้าด้วยดอกกะเพรา รับประทานพร้อมผักแนมตามชอบ ทั้งผักดิบและผักสุก เช่นแตงกวา กะหล่ำปลีนึ่ง

เคล็ดลับความอร่อย : น้ำพริกจะอร่อยสิ่งสำคัญคือ ต้องเผาหอมเล็กและกระเทียมให้สุกพอดี เพราะถ้าเผาจนไหม้จะมีรสขมและสีน้ำพริกจะไม่สวย หรือถ้าเผาไม่สุก น้ำพริกจะมีกลิ่นเหม็นเขียว

คลิกอ่านต่อที่หน้าถัดไป

แกงเลียงดอกขจร ต้านไข้หวัดใหญ่      

แกงเลียงเป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่ประกอบด้วยสมุนไพรสำคัญ เช่น หอมเล็ก พริกไทย ใบแมงลัก ที่มีฤทธิ์ในการช่วยสร้างภูมิต้านทานและป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

คุณค่าทางโภชนาการของดอกขจรปริมาณ 100 กรัม มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินเอมากถึง 3,150 IU และวิตามินซี 45 มิลลิกรัม อีกทั้งมีสรรพคุณตามตำรายาไทยโบราณคือบำรุงตับ ปอดบำรุงเลือด และขับเสมหะ

ส่วนผสมเครื่องแกง หอมเล็ก 3 หัว พริกไทยเม็ด 7 เม็ด กะปิ 1 ช้อนชากุ้งแห้งป่น 2 ช้อนโต๊ะ และรากผักชี 2 ราก

วิธีทำ โขลกส่วนผสมทั้งหมดรวมกันให้ละเอียด

ส่วนผสมแกงเลียงดอกขจร ดอกขจร 200 กรัม น้ำซุปผัก 2 ถ้วย?กุ้งสด (แกะเปลือกผ่าหลังชักเส้นดำออก) 5 ตัวน้ำปลา และผักอื่นๆ ตามชอบ เช่น ฟักทอง บวบ ใบแมงลัก

วิธีทำ ละลายเครื่องแกงกับน้ำซุปผักตั้งไฟพอเดือดใส่ดอกขจร กุ้งสด และผักอื่นๆ พอเดือดปรุงรสด้วยน้ำปลาชิมพอมีรสเค็มเล็กน้อย

เคล็ดลับความอร่อย : ต้องใช้กะปิดีโดยสังเกตจากสีของกะปิที่ไม่แดงเกินไป (ถ้าสีแดงจัดแสดงว่าใส่สี) และควรเลือกที่มีตาเคยหรือกุ้งเป็นเม็ดสีดำ แกงเลียงจึงจะมีรสกลมกล่อม

นอกจากนี้สูตรการทำแกงเลียงให้มีรสเข้มข้นต้องใส่พริกไทยเม็ด (ไม่ใช่พริกไทยป่น) และหอมเล็กให้มากขึ้น

ต้านโรคจากดอกไม้

ข้าวยำดอกพวงชมพู ยานอนหลับจากธรรมชาติ

ข้าวยำปักษ์ใต้นอกจากจะอุดมด้วยพืชผักสมุนไพรมากมายที่ดีต่อสุขภาพแล้วหากเพิ่มดอกพวงชมพูซึ่งมีสรรพคุณเป็นยากล่อมประสาท ทำให้นอนหลับสบายและคลายเครียด ก็จะอร่อยและดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้น

ส่วนผสมน้ำบูดู น้ำบูดู ถ้วยน้ำเปล่า 1 ถ้วย ตะไคร้บุบพอแตก 1 ต้นข่าบุบพอแตก 2 แง่ง และใบมะกรูดฉีก 5 ใบ

วิธีทำ ผสมส วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน เคี่ยวไฟอ่อนๆ ประมาณ 30 นาทีแล้วกรองเอาแต่น้ำ

ส่วนผสมข้าวยำ ข้าวกล้องหุงสุก ½ ถ้วย มะพร้าวหั่นฝอยคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ กุ้งแห้งป่น 1 ช้อนโต๊ะ เนื้อส้มโอ ½ ถ้วย ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ ถั่วฝักยาวซอย ½ ถ้วย สะตอ 10 เม็ดมะนาวหั่นซีก ½ ลูก พริกป่น 1 ช้อนชา และดอกพวงชมพูทอด 4 ช่อ

วิธีทำ นำข้าวกล้องและผักต่างๆ จัดตกแต่งใส่จานให้สวยงามแล้วราดน้ำบูดู บีบมะนาวนิดและใส่พริกป่นอีกหน่อย สุดท้ายโรยหน้าด้วยดอกพวงชมพูทอดร้อนๆ

เคล็ดลับความอร่อย : สามารถใช้ดอกไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ดอกดาหลาหรือเกสรชมพู่ม่าเหมี่ยวโรยหน้า เพิ่มความสวยงามและทำให้รสชาติกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น

นอกจากกินอาหารที่มีประโยชน์แล้วอย่าลืมหมั่นออกกำลังกาย นอนหลับให้เพียงพอ และทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส

            เพียงเท่านี้นอกจากคุณจะห่างไกลจากสารพัดโรคภัยแล้ว ยังทำให้คุณเป็นคนมีความสุขทั้งกายและใจอีกด้วยค่ะ

ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 262

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.