ต้านไมเกรน

เครื่องดื่ม 5 สี ต้านไมเกรน อยู่หมัด

ต้านไมเกรน กันเถอะ

เครื่องดื่ม 5 สี ที่ช่วย ต้านไมเกรน

แสงแดด แสงจ้า นอนดึก อดนอน นอนมากเกินไป อากาศร้อน ฝุ่นควัน ความเครียด รวมถึงอาหาร และยาบางชนิด ล้วนเป็นปัจจัยอาการไมเกรน

วันนี้จึงมีเครื่องดื่ม 5 สี ที่ช่วยสยบอาการปวดไมเกรนมาแนะนำกัน

1.สมู้ตตีสีแดง ลดความถี่อาการปวด

ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรนบ่อย ๆ มักมีระดับแมกนีเซียมในเลือดต่ำกว่าคนทั่วไป นอกจากนี้ยังมีการศึกษาอีกหลายชิ้นที่แสดงว่า แมกนีเซียมช่วยลดความถี่ของอาการไมเกรนในผู้ที่มีระดับแมกนีเซียมต่ำได้

โดยแมกนีเซียมมีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิตและจำเป็นต่อการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท

แก้วมังกรจัดเป็นผลไม้ที่มีแมกนีเซียมปริมาณสูง กินแก้วมังกร 1 ผล จะได้รับแมกนีเซียม 81 มิลลิกรัม ซึ่งมีปริมาณมากเกือบ 1 ใน 3 ของความต้องการใน 1 วัน ทั้งนี้แก้วมังกรยังอุดมไปด้วยวิตามินซี  สารแอนติออกซิแดนต์ที่ชื่อว่าไฟเทตซึ่งมีคุณสมบัติช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมถึงโรคมะเร็งชนิดอื่นๆ และมีน้ำปริมาณสูง

สมู้ตตีสีแดงต้านไมเกรนที่คัดสรรมานี้ มีส่วนผสมหลักเป็นแก้วมังกรเนื้อสีแดง และยังมีกล้วยน้ำว้า โยเกิร์ตรสธรรมชาติและนมถั่วเหลือง

กล้วยน้ำว้ามีใยอาหารทั้งชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำปริมาณสูง โยเกิร์ตอุดมไปด้วยจุลินทรีย์สุขภาพ และนมถั่วเหลืองมีโปรตีนสูง เครื่องดื่มสูตรนี้นี้จึงไม่เพียงช่วยต้านอาการไมเกรนแต่ยังช่วยกระตุ้นการขับถ่ายและช่วยให้ร่างกายขับสารพิษได้ดีขึ้น

สมู้ตตีสีแดง

ส่วนผสม

แก้วมังกรเนื้อสีแดง         1 ผล

กล้วยน้ำว้า                    1 ผล

โยเกิร์ตรสธรรมชาติ        1 ถ้วย

นมถั่วเหลือง                  1/2 ถ้วย

วิธีทำ

หั่นแก้วมังกรและกล้วยน้ำว้าเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในโถปั่น ตามด้วยโยเกิร์ตรสธรรมชาติและนมถั่วเหลืองปั่นให้เข้ากัน หากชอบเครื่องดื่มเย็นแนะนำให้แช่ส่วนผสมทั้งหมดในตู้เย็นก่อนปั่น

2.สมู้ตตีสีขาว ลดปวด บำรุงสมอง

สมู้ตตีสีขาวสูตรนี้ มีส่วนผสมหลักเป็น ข้าวโอ๊ต นอกจากนี้ยังมีกล้วยหอม และนมถั่วเหลืองซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินบี ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง โดยเฉพาะวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวิน ที่มีงานวิจัยพบว่า การกิน วิตามินบี 2 ทุกวัน และช่วยลดความถี่ในการเป็นไมเกรนลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 6 ที่ช่วยสร้างสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) สารแห่งความสุข และฟีนิลเอทิลลามีน สารที่ช่วยสลายความเครียดทำให้อารมณ์ดี

สมู้ตตีสีขาว

ส่วนผสม

ข้าวโอ๊ต                         2 ช้อนโต๊ะ

กล้วยหอม                     1/2 ผล

นมถั่วเหลือง                  1 แก้ว

วิธีทำ

ปั่นส่วนผสมทั้งหมดรวมกันในโถปั่นให้ละเอียด หากชอบรสหวานสามารถเติมน้ำผึ้งได้เล็กน้อย

3.สมู้ตตีสีเขียว ต้านเครียด ปวดหาย

ผลการศึกษาจากประเทศสเปนยืนยันว่า ผู้ที่กินอาหารที่มีโฟเลตต่ำ เสี่ยงเป็นโรคเครียด และภาวะซึมเศร้า แต่หากเสริมโฟเลตให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้

          ปวยเล้งและสับปะรด อุดมไปด้วยโฟเลตที่มีคุณสมบัติช่วยต้านความเครียดซึ่งเป็นตัวกระตุ้นการเกิดไมเกรนรวมไปถึงโรคซึมเศร้า โดยข้อมูลจากกลุ่มวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ สำนักโภชนาการ กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า

ผักโขมหรือผักปวยเล้งมีโฟเลตปริมาณสูงสุดในกลุ่มผัก คือ 160.12  ไมโครกรัม / 100 กรัม ส่วนผลไม้พบว่า สับปะรดศรีราชามีโฟเลตปริมาณสูงสุด คือ 300.54  ไมโครกรัม / 100 กรัม

สมู้ตตีสีเขียว

ส่วนผสม

น้ำสะอาด         1 แก้ว

ปวยเล้งลวก       1/3 ถ้วย

สับปะรด           1/3 ถ้วย

จมูกข้าวสาลี      1 ช้อนโต๊ะ

เมล็ดฟักทอง     1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

ปั่นส่วนผสมทั้งหมดรวมกันในโถปั่น ดื่มทันที

4.น้ำชาสีเหลือง หลับง่าย คลายปวด

          ชาดอกคาโมมายด์สีเหลืองอุดมไปด้วยสารพฤกษเคมี ทั้งเทอร์ฟีนอยด์ (Terpenoids) และ ไอโซฟลาโวนอยด์ (Tsoflavonoids) มีสรรพคุณในการรักษา โรคนอนไม่หลับซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นการเกิดอาการไมเกรน

โดยสารเอพิเจนิน (Apigenin) ในดอกคาร์โมมายมีคุณสมบัติช่วยให้ระบบประสาทส่วนกลางสงบ ลดความวิตกกังวล และช่วยให้หลับง่าย

Journal of clinical psychopharmacology ตีพิมพ์ผลงานวิจัยหนึ่งซึ่งทำการทดลองในผู้ป่วยโรควิตกกังวล (Generalized Anxiety Disorder) ซึ่งมีอาการแตกต่างกัน เช่น ปวดศีรษะ ปวดตึงตามกล้ามเนื้อ นอนไม่หลับ ตกใจง่าย วิตกกังวลตลอดเวลา อารมณ์แปรปรวน อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

พบว่า ผู้ที่ได้รับสารสกัดจากดอกคาร์โมมายด์เพียง 8 สัปดาห์ มีคะแนนความวิตกกังวลลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนทดลอง และน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับสารสกัดจากดอกคาร์โมมายด์

วิธีชงชาดอกคาโมมายด์

เพียงใส่ดอกคาร์โมมายแห้ง 1 ช้อนชาลงในแก้ว เติมน้ำร้อนลงไป ทิ้งไว้ 3 นาที จากนั้นเทน้ำชาดอกคาร์โมมายผ่านที่กรองชาลงในแก้วอีกใบ เติมน้ำผึ้งครึ่งช้อนชา ให้ออกรสหวานนิด บีบมะนาวหน่อย คนให้เข้ากันก็จะได้น้ำชาดอกคาร์โมมายที่มีกลิ่นรสแสนชื่นใจ

5.น้ำชาสีน้ำตาล รสเผ็ด แก้คลื่นไส้ ลดปวด

          น้ำขิงเมื่อต้มหรือแช่น้ำร้อนแล้วจะกลายเป็นสีน้ำตาล มีคุณสมบัติแก้อักเสบและสามารถใช้รักษาอาการปวดศีรษะ โดยเฉพาะปวดหัวไมเกรน

นอกจากนี้น้ำขิงยังช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งเป็นผลจากอาการไมเกรนอีกด้วย โดยเชื่อว่า ช่วยบรรเทาอาการปวดได้ เพราะขิงจะไปช่วยยับยั้งการทำงานของสารพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งมีส่วนกระตุ้นให้เกิดการอักเสบและการหดตัวของกล้ามเนื้อบางส่วน

วิธีชงน้ำขิง

บดขิงสด 1 ช้อนชา ใส่ลงในน้ำร้อน 1 แก้ว คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้สักครู่ ดื่มขณะอุ่นๆ

          รู้สูตรอร่อยๆได้สุขภาพกันแล้ว รีบนำไปทำกันนะคะ เพื่อกำราบไมเกรนและยังช่วยให้สุขภาพเลิศอีกต่างหาก

Did you know?

นวดคลายปวดไมเกรน

ทั้งนี้หากมีอาการปวดศีรษะรุนแรง ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบที่ต้นคอและศีรษะ เพื่อให้เส้นเลือดขยายตัว จากนั้นใช้นิ้วหัวแม่มือสองข้างนวดเบาๆบริเวณกกหู ใบหู และขมับทั้งสองข้าง แล้วจึงนวดนิ้วเท้าทุกนิ้ว นวดบริเวณเนินใต้นิ้วเท้าร่วมด้วย ร่างกายจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้นอาการปวดจะทุเลาลง

เรื่องโดย ธิษณา จรรยาชัยเลิศ จากคอลัมน์ มื้อสุขภาพ นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 426

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.