ชวนคุณมารู้จัก 4 อาหารใกล้ตัวช่วยเหงือกและ ฟันแข็งแรง
อย่างที่รู้กันดีว่า เหงือกและฟันเป็นด่านแรกของระบบย่อยอาหาร หาก เหงือกและฟันแข็งแรง ฟันบดเคี้ยวอาหารละเอียด รับรองระบบย่อยอาหารจะทำงานสบาย ร่างกายดูดซึมได้เต็มที่ แต่หากเหงือกบวมและฟันโยกคลอน ไม่เพียงระบบย่อยอาหารทำงานหนัก อาจส่งผลให้ไม่อยากเคี้ยว ไม่อยากกิน จนร่างกายขาดสารอาหารและเกิดโรคต่าง ๆ ตามมา
เพราะอย่างนี้เราจึงรวบรวม อาหารใกล้ตัวที่ช่วยให้สุขภาพเหงือกและฟันแข็งแรง มา 3 กลุ่ม เพื่อให้คุณผู้อ่านนำไปเป็นคู่มือเลือกซื้อเสาะหาสิ่งดีๆ มาดูแลเหงือกและฟันให้สุขภาพแข็งแรงก่อนใครค่ะ ดังนี้
ดื่มชาเขียว ต้านโรคเหงือก
ไม่นานมานี้ ผู้เขียนเพิ่งตื่นเต้นไปหมาด ๆ เมื่ออ่านพบว่า ชาเขียวช่วยต้านเชื้อไวรัสทั้งไข้หวัดธรรมดาและไข้หวัดใหญ่ มาวันนี้ได้ยิ้มอีกรอบ เพราะรู้ว่าชาเขียวที่ดื่มเป็นประจำ ยังช่วยให้สุขภาพเหงือกแข็งแรงอีกด้วย
ล่าสุด The Journal of Periodontology รายงานจากแบบสำรวจพฤติกรรมดื่มชาเขียว ของคุณน้าคุณอาชาวญี่ปุ่น อายุ 49 – 50 ปี จำนวน 940 คน พบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวอย่างน้อยวันละ 1 แก้ว มีความเสี่ยงเป็นโรคเหงือก เช่น โรคปริทันต์ น้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มชาเขียว
ทันตแพทย์หญิงฉัตรแก้ว บริบูรณ์หิรัญสาร งานทันตกรรม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล อธิบายเพิ่มเติมว่า โรคปริทันต์ มีอีกชื่อว่า “โรครำมะนาด” มีสาเหตุจากการแปรงฟันไม่สะอาด ทำให้มีคราบอาหารตกค้าง ส่งผลให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียจนเป็นแผ่นคราบจุลินทรีย์ (plaque) กลายเป็นหินปูนสะสมบริเวณร่องเหงือก (รอยต่อระหว่างเหงือกและฟัน) ทำให้ เหงือกอักเสบ บวมแดง เลือดออกง่ายขณะแปรงฟัน มีกลิ่นปาก เหงือกร่น และจนต้องสูญเสียฟันในที่สุด
หากรู้จักรักษาสุขภาพเหงือกซึ่งเป็นรากฐานสำคัญ ฟันก็แข็งแรงไปด้วย ดังรายงานจากมหาวิทยาลัยโทโฮคุ (The Tohoku University) ประเทศญี่ปุ่น เก็บข้อมูลจำนวนฟันที่ยังคงอยู่ไม่จากไปตามกาลเวลา ในชายและหญิงจำนวน 25,000 คน อายุ 40 – 60 ปี
พบว่า ผู้ที่ดื่มชาเขียวอย่างน้อยวันละ 1 แก้วมีค่าเฉลี่ยจำนวนฟันมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่มชาเขียว โดยผู้ที่มีฟันเหลือน้อยกว่า 20 ซี่ มีเพียง 19 เปอร์เซ็นต์ ในชาย และ 13 เปอร์เซ็นต์ในหญิง นักวิจัยเชื่อว่า สารคาเทชิน (Catechins) ในใบชาเขียว มีส่วนช่วยป้องกันและบรรเทาอาการอักเสบที่เกิดขึ้นจากเชื้อแบคทีเรียในช่องปากซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเหงือกได้นั่นเอง
แนะนำให้ชงชาเขียวร้อน ดื่มขณะอุ่น ไม่ใช่ชาเขียวแช่เย็นผสมน้ำหวานบรรจุขวด หรือชาเขียวเติมน้ำตาล เพราะน้ำตาลเป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรียภายในช่องปาก หากดื่มผิดวิธีอาจกระตุ้นให้เหงือกอักเสบและเพิ่มความเสี่ยงฟันผุเพิ่มขึ้น
นอกจากชาเขียวแล้ว ยังมีอาหารอีก 2 ชนิด
…อยากทราบว่าคืออะไร เชิญอ่าน หน้าถัดไป ค่ะ
เคี้ยวเนยแข็ง ลดกรดในช่องปาก
อาหารที่มีส่วนประกอบของแป้งและน้ำตาล เป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรียในช่องปาก โดย แบคทีเรียจากคราบหินปูนที่เกาะติดบนผิวฟัน จะเปลี่ยนน้ำตาลจากอาหารให้กลายเป็นกรดและสารพิษ
กรดที่สร้างจากแบคทีเรียจะตรงเข้าทำลายเคลือบฟันจนฟันผุ ส่วนสารพิษทำให้เหงือกอักเสบลุกลาม ยิ่งช่องปากมีความเป็นกรดสูง หรือมีค่าพีเอช (pH) ในช่องปากต่ำกว่า 5.5 ยิ่งเสี่ยง ฟันผุ และสูญเสียฟันในที่สุด
แต่หากกินเนยแข็งร่วมด้วยในมื้ออาหาร ไม่เพียง ไม่เพิ่มความเป็นกรดในช่องปาก แต่ยังช่วยลดกรดอีกด้วย พิสูจน์แล้ว จาก Journal General Dentistry ซึ่งเปรียบเทียบความเป็นกรดในช่องปากหลังกินอาหาร 3 ชนิด ได้แก่ เนยแข็ง นมวัว และโยเกิร์ตไขมันต่ำ
นักวิจัยวัดค่าความเป็นกรดในช่องปากของอาสาสมัคร ทั้งก่อนและหลังกินอาหาร โดยวัดหลังกินอาหาร 3 นาที จากนั้นให้กลั้วปากด้วยน้ำสะอาด และวัดค่าซ้ำทุก ๆ 10 นาที จนครบ 30 นาที ปรากฏว่า อาหารทั้ง 3 ชนิด ไม่มีผลเพิ่มความเป็นกรดในช่องปากตามคาด เพราะมีน้ำตาลต่ำ แต่เนยแข็งกลับเหนือกว่า คือช่วยลดความเป็นกรดในช่องปากด้วย
นักวิจัยเชื่อว่า เนยแข็งมีโปรตีนสูงเช่นเดียวกับนมและโยเกิร์ตไขมันต่ำ แต่แตกต่างที่เนื้อสัมผัสทำให้ต้องเคี้ยวก่อนกลืน ยิ่งเคี้ยว จึงยิ่งกระตุ้นให้ผลิตน้ำลายเพิ่มขึ้น ช่วยปรับสมดุลความเป็นกรดในปาก พร้อมชะล้างคราบอาหาร ลดการยึดเกาะและเจริญเติบโตของแบคทีเรียบนผิวฟัน นอกจากนี้ อุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยคืนแร่ธาตุให้ฟันแข็งแรง อีกด้วย
เนยแข็งไม่อยู่ในอาหารที่ชีวจิตแนะนำ หากอยากลองกินเนยแข็งบ้างบางครั้งคราวแนะนำให้กินร่วมกับอาหารเพื่อสุขภาพชนิดอื่น เช่น กินคู่กับขนมปังธัญพืช แครกเกอร์โฮลวีต ถั่วชนิดต่าง ๆ หรือขูดโรยบนสลัดผักหลายชนิด
ผ่านไป 2 ชนิดแล้ว
ต่อไปมีผลไม้อีก 2 ชนิด ที่เป็นทางออกสำคัญในการช่วยให้ฟันและเหงือกแข็งแรง
อ่านต่อ หน้าถัดไป ค่ะ
แอ๊ปเปิ้ล แครอต ขัดฟันขาว
เคยนึกเล่น ๆ ว่า คงดีไม่น้อย หากมีอาหารที่กินแล้วช่วยทำความสะอาดฟันไปพร้อม ๆ กัน ไม่น่าเชื่อว่า อาหารชนิดนี้มีอยู่จริง แถมใกล้ตัวจนคาดไม่ถึง
แอ๊ปเปิ้ล แครอต และผักชีฝรั่ง มีคุณสมบัติช่วยทำความสะอาดฟัน ทำหน้าที่คล้ายแปรงสีฟันขนาดเล็ก ช่วยขัดฟันขณะเคี้ยว ดร. เจฟฟ์ โกลูป – อีแวนส์ (Jeff Golub – Evans) จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (New York University) อธิบายเพิ่มเติมว่า กรดอ่อนจากธรรมชาติ(มีค่า pH ประมาณ 5.5 ซึ่งไม่ทำให้ช่องปากเป็นกรด) เนื้อสัมผัสหยาบ และใยอาหาร คือลักษณะพิเศษที่สามารถทำความสะอาดฟันและช่วยขัดฟันให้ขาวขึ้นได้ โดยเฉพาะคราบเหลืองบนผิวฟันที่เกิดจากการดื่มกาแฟเป็นประจำ
พร้อมแนะนำ ให้กินแอ๊ปเปิ้ลวันละ 1 ผลหรือผักอีก 2 ชนิด ในมื้อว่าง หรือหลังมื้ออาหาร จากนั้นกลั้วปากด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ก็ช่วยชะล้างน้ำตาลและคราบอาหารออกจากผิวฟันได้
British Veterinary Journal รายงานประโยชน์ของการกินแอ๊ปเปิ้ลหลังมื้ออาหาร ว่า กรดอ่อนๆ ในแอ๊ปเปิ้ล ไม่มีผลเพิ่มความเป็นกรดในช่องปากจนเป็นสาเหตุของฟันผุ ในทางตรงกันข้ามกลับมีผลช่วยกระตุ้นให้น้ำลายหลั่งมากขึ้น จึงช่วยลดสภาวะความเป็นกรดและทำให้เกิดสมดุลกรดและด่างภายในช่องปาก
ทั้งมีรายงานจาก British Dental Journal สนับสนุนให้ตบท้ายมื้ออาหารด้วยแอ๊ปเปิ้ลเช่นกัน เพราะมีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลต่ำ จึงไม่เพิ่มความเป็นกรดในช่องปาก และช่วยลดความเสี่ยงฟันผุได้
แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน ร่วมด้วย รับรองฟันสวย เหงือกแข็งแรง นานเท่านานค่ะ
ข้อมูลเรื่อง “4 อาหารใกล้ตัว ช่วยเหงือกและฟันแข็งแรง” โดย : ธิษณา จรรยาชัยเลิศ ตีพิมพ์ในนิตยสารชีวจิต
